คนไทยรู้ยัง : คาดปี 2559 ชาวตะวันออกกลางมาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้น 5.5%

ทีมข่าว TCIJ : 14 ก.ย. 2559 | อ่านแล้ว 3249 ครั้ง

ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่าในปี 2559 จะมีนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยจำนวน 6.95 แสนคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.5 จากปี 2558 ทั้งนี้นักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางเป็นตลาดที่มีศักยภาพ มีการใช้จ่ายสูง ท่องเที่ยวซ้ำ และเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยตลอดทั้งปี แต่ช่วงที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ หลังเดือนรอมฎอน (อยู่ในช่วงไตรมาส 3 ของทุกปี) ซึ่งตรงกับช่วงโลว์ซีซั่นของการท่องเที่ยวไทยที่จำนวนนักท่องเที่ยวจากบางตลาดลดลง แม้นักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางจะมีสัดส่วนอยู่ที่ประมาณร้อยละ 2.6 ของตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดของไทย (ค่าเฉลี่ยในช่วง พ.ศ. 2554-2558) แต่เมื่อพิจารณาในมุมของรายได้ท่องเที่ยว ตลาดนี้ใช้จ่ายระหว่างการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยใกล้เคียงกับนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคยุโรป คือ ประมาณ 70,000 บาทต่อคนต่อทริป ซึ่งสูงกว่าภาพรวมและตลาดหลัก อย่างจีนโดยมีการใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 47,000-48,000 บาทต่อคนต่อทริป นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เดินทางกลับมาท่องเที่ยวซ้ำในไทยในอัตราที่สูงกว่าบางตลาด อย่างตลาดเอเชีย โดยนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางส่วนใหญ่นิยมพาครอบครัวเข้ามาพักผ่อนในแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ (เช่น ทะเล ภูเขา) และกิจกรรมอื่นๆ อย่างการรับประทานอาหารไทย การช้อปปิ้ง การรับบริการนวดไทย/สปา รวมถึงการรับบริการทางการแพทย์ อย่างการตรวจสุขภาพ เป็นต้น

แรงหนุนบางส่วนมาจากความสะดวกสบายด้านการเดินทาง เนื่องจากประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลางเป็นศูนย์กลางทางการบินสำหรับการเดินทางเชื่อมต่อจากภูมิภาคเอเชียไปยังภูมิภาคยุโรปและอเมริกา ทำให้มีเที่ยวบินให้บริการทุกวัน โดยจากการรวบรวมข้อมูลเที่ยวบินจากเมืองหลักตะวันออกกลางมายังแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในภูมิภาคเอเชีย คือ ประเทศไทยและสิงคโปร์ พบว่า สายการบินจากตะวันออกกลางรายสำคัญที่ให้บริการเต็มรูปแบบ (Full Service Airline) ทั้งเที่ยวบินบินตรงและเที่ยวบินที่ต้องแวะต่อเครื่อง (เช่น แวะต่อเครื่องที่โดฮา) ในเส้นทางอาบูดาบี-กรุงเทพฯ มีจำนวน 111 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ส่วนจำนวนเที่ยวบินในเส้นทางอาบูดาบี-สิงคโปร์มีจำนวน 84 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ นอกจากเที่ยวบินจากตะวันออกกลางมายังเมืองท่องเที่ยวหลักของไทย อย่างกรุงเทพฯแล้ว ยังมีบริการบินตรงมายังเมืองท่องเที่ยวรองของไทย อย่างกระบี่ สุราษฎร์ธานี (สมุย) เชียงใหม่ และเชียงราย อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันธุรกิจสายการบินโลว์คอสต์ (Low Cost Airline) ของไทยได้เปิดเส้นทางการบินระหว่างไทยและประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง อย่างอิหร่านและโอมาน ซึ่งเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับตลาดนักท่องเที่ยวระดับกลางจากภูมิภาคตะวันออกกลางที่ต้องการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย

แรงหนุนอีกส่วนหนึ่งมาจากการฟื้นตัวของบางตลาด อย่างอิหร่านที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังประเทศไทยมากเป็นอันดับ 3 ของภูมิภาค โดยหากพิจารณานักท่องเที่ยวรายประเทศ พบว่า มีนักท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆ ในภูมิภาคตะวันออกกลาง (ไม่รวมอิหร่าน) จำนวน 3.46 แสนคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะที่ในช่วงเดียวกันตลาดนักท่องเที่ยวอิหร่านของไทยเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 27.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (หรือมีจำนวน 6.42 หมื่นคน) ซึ่งเป็นการขยายตัวที่โดดเด่นเมื่อเทียบกับตลาดหลัก อย่างนักท่องเที่ยวจากอิสราเอลและสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ที่ขยายตัวต่ำลง ผลมาจากปัจจัยภายในประเทศ คือ ภาวะเศรษฐกิจที่ในช่วงที่เหลือของปีนี้ต่อเนื่องปีหน้ามีทิศทางขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง

ในปี 2559 นี้คาดว่าชาวอิหร่านเดินทางเข้ามาเที่ยวในไทยประมาณ 1.08 แสนคน นักท่องเที่ยวชาวอิหร่านเคยเป็นตลาดสำคัญอันดับ 1 ของภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยสถิติในปี 2553 ชี้ให้เห็นว่า มีชาวอิหร่านจำนวนกว่าแสนคนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย ซึ่งมีสัดส่วนอยู่ที่ร้อยละ 30 ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมดจากภูมิภาคนี้ โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า สัญญาการฟื้นตัวที่โดดเด่นของนักท่องเที่ยวชาวอิหร่านที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทย เกิดขึ้นหลังจากสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปได้ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจในช่วงเดือนมกราคม 2559 ที่ผ่านมา ประกอบกับพัฒนาการด้านเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัว ซึ่งมีส่วนช่วยสร้างความเชื่อมั่นใจในการจับจ่ายใช้สอยของผู้คน นอกจากนี้ ปัจจัยแวดล้อมอื่นที่ส่งเสริมตลาดนี้ คือ การเปิดเส้นทางและมีตารางการบินจากกรุงเทพฯ-เตหะรานตั้งแต่ช่วงกลางปีนี้ต่อเนื่องปีหน้า จากปัจจัยแวดล้อมข้างต้นล้วนส่งผลดีมายังภาคการท่องเที่ยวของไทย และน่าจะหนุนให้ภาพรวมของตลาดนักท่องเที่ยวชาวอิหร่านในปีนี้ยังคงเติบโตเป็นบวก สำหรับภาพรวมตลาดนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ตลอดทั้งปี 2559 จะมีชาวอิหร่านเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยจำนวนประมาณ 1.08 แสนคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.2 จากปีก่อนหน้า โดยจำนวนนักท่องเที่ยวคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 15.2 ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมดจากภูมิภาคนี้

นอกจากนี้ตลาดนักท่องเที่ยวจากสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ยังคงมีศักยภาพ แม้ตลาดนักท่องเที่ยวจากสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์อาจจะไม่ได้ขยายตัวอย่างโดดเด่น แต่มองว่า ภาวะเศรษฐกิจของตลาดนี้ยังมีแนวโน้มเติบโต แม้จะชะลอลง ประกอบกับความได้เปรียบเรื่องการเป็นศูนย์กลางด้านการบิน ทำให้มีความหลากหลายของสายการบินและเที่ยวบิน ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกด้านการเดินทางเข้ามายังประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นเที่ยวบินบินตรงมายังเมืองท่องเที่ยวหลัก อย่างกรุงเทพฯและภูเก็ต และเมืองรอง อย่างกระบี่ สมุย เชียงใหม่ เชียงราย นอกจากนี้ การมีวันหยุดยาวหลายช่วงตลอดทั้งปีช่วยกระตุ้นการวางแผนเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศของชาวอาหรับเอมิเรสต์ และกลุ่ม EXPAT (Expatriate) ที่พำนักอยู่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ (ซึ่งมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 60 ของผู้พำนักทั้งหมดในสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์)

รวมทั้งยังมีตลาดที่มีศักยภาพ อย่างนักท่องเที่ยวจากอิสราเอล ที่ส่วนใหญ่พำนักในไทยนานและมีการใช้จ่ายสูงประมาณ 70,000-80,000 บาทต่อคนต่อทริปโดยนิยมเดินทางเข้ามาไทยทั้งในช่วงโลว์ซีซั่น (เดือนสิงหาคม) และช่วงไฮซีซั่น (เดือนธันวาคม-มกราคม) รวมถึงนักท่องเที่ยวจากโอมานก็เป็นอีกตลาดน่าจับตา เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ส่งผลให้ผู้คนมีกำลังซื้อและมีความเชื่อมั่นในการใช้จ่าย ประกอบกับการขยายเส้นทางการบินของธุรกิจสายการบินต้นทุนต่ำของไทย น่าจะส่งเสริมให้ตลาดนี้เดินทางมายังประเทศไทยมากขึ้น

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: