เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ที่อาคาร สพฐ. 4 กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นำกลุ่มผู้บริหารสถานศึกษา พร้อมด้วยกลุ่มผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กว่า 50 คน เดินทางเข้าพบ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ และนายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เพื่อหารือถึงข้อเสนอต่าง ๆ ในการเยียวยาบุคลากรครู ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยงภัย

นายบุญสมกล่าวว่า สถานการณ์ความความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาเสียชีวิตไปแล้ว 154 คน บาดเจ็บอีก 151 ราย นอกจากนี้ยังได้รับผลกระทบทุพลภาพอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งสมาพันธ์ครูฯ ก็พยายามประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อปรับมาตรการต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา โดยกรณีล่าสุดเกิดขึ้นกับนางนันทนา แก้วจันทร์ ผอ.ร.ร.บ้านท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี  ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามลอบสังหารอย่างโหดเหี้ยม ห่างจากโรงเรียนเพียง 50 เมตรเท่านั้น ดังนั้นหลังเกิดเหตุ จึงปิดการเรียนการสอนทั้งจังหวัด เนื่องจากเกรงความไม่ปลอดภัย

นายบุญสมกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม หลังจากได้รับคำยืนยันจากหน่วยงานความมั่นคงว่า จะดูแลตามมาตรการที่ได้หารือไว้ พร้อมรับปากหากมีอะไรก็จะรับผิดชอบร่วมกัน ไม่ใช่มาโทษว่าครูไม่ทำตามแผน ดังนั้นสมาพันธ์ครูฯ จึงขอประกาศว่า วันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม โรงเรียนทั้งหมดจะกลับมาเปิดการเรียนการสอนเหมือนเดิม แต่สมาพันธ์ครูฯ ขอให้ รมว.ศึกษาธิการ และ รมช.ศึกษาธิการ เร่งรัดผลักดันเกี่ยวกับสวัสดิการของครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือขอให้พิจารณาเพิ่มค่าตอบแทนเสี่ยงภัยจากเดิม 2,500 บาท เป็น 3,500 บาทต่อเดือน ซึ่งที่ผ่านได้อนุมัติในหลักการจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตั้งแต่ปี 2553 แล้ว แต่ถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับเงิน

นายบุญสมกล่าวอีกว่า นอกจากนี้อยากเสนอให้ครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้รับการลดหย่อนภาษีเงินได้ 2 แสนบาทต่อคนต่อปี หากทำงานในพื้นที่เกิน 5 ปี ให้พิจารณาได้รับเงินพิเศษสำหรับการสู้รบ (พ.ส.ร.)  รวมทั้งให้กู้เงินจากสถาบันการเงินได้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำสุด และขอให้พิจารณาแนวทางการขอมีและเลื่อนวิทยฐานะให้แก่ครูในพื้นที่เป็นกรณีพิเศษ เพราะติดในข้อจำกัดเรื่องการทำงานในวันหยุด และเวลากลางคืน ตลอดจนให้เงินเยียวยาแก่ครอบครัวและทายาทผู้เสียชีวิตรายละ 4 ล้านบาท เพราะที่ผ่านมาได้รับการอนุมัติหลักการ แต่ยังไม่ได้รับเงิน ทั้งนี้การจ่ายเงินจะเป็นงบฯ ผูกพันปีละ 1 ล้านบาทก็ได้

ด้านนายพงศ์เทพกล่าวว่า เบื้องต้นจะเร่งผลักดันเรื่องต่าง ๆ ที่ยังค้างอยู่ อะไรดำเนินการได้ ก็จะดำเนินการ อะไรต้องเสนอ ครม.ก็จะเสนอ อะไรต้องหารือกับกระทรวงอื่น ๆ เช่น กระทรวงการคลัง ก็จะเร่งดำเนินการ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่บุคลากรในพื้นที่ ทั้งนี้ในวันที่ 6 ธันวาคมนี้ จะเดินทางลงพื้นที่ ร.ร.เบญจมราชูทิศ จ.ปัตตานี พร้อมกับนายเสริมศักดิ์ และข้าราชการกระทรวง เพื่อพบปะกับบุคลากรในพื้นที่