วันที่ 4 กันยายน นางจินตนา แก้วขาว นำชาวบ้านเครือข่ายกลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบางสะพาน เดินทางไปที่กรมโยธาธิการและผังเมือง เพื่อคัดค้านการประกาศใช้ผังเมืองรวมชุมชนบางสะพานฉบับใหม่ ที่อาจเปิดโอกาสให้จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ พร้อมสอบถามเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงของผังเมืองใหม่บางสะพานว่าจะเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มทุนหรือต่อประชาชนในพื้นที่
หลังจากนั้น ชาวบ้านจะเดินทางไปยังการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เพื่อเรียกร้องให้ กนอ.ยกเลิกสัญญาร่วมดำเนินงานจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมเหล็กบางสะพานกับบริษัทเครือสหวิริยา เนื่องจากที่ดินที่ใช้ในโครงการบางส่วน จำนวนกว่า 700 ไร่ เป็นที่ดินที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฏหมาย และกรมที่ดินได้มีคำสั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ไปแล้ว
จากกรณีบริษัท เครือสหวิริยา และ กนอ.ทำสัญญาร่วมกันดำเนินงานจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมเหล็กบางสะพานเนื้อที่ประมาณ 6,400 ไร่ ใน อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งที่ดินที่ใช้ในโครงการดังกล่าวมีปัญหาการออกเอกสารสิทธิ์มิชอบในเขตป่าสงวนแห่งชาติและเขตวนอุทยาน โดย กรมที่ดินมีคำสั่งให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์จำนวน 52 แปลง เนื้อที่ประมาณ 712 ไร่ไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม 2553
นางจินตนา แก้วขาว ประธานเครือข่ายกลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบางสะพาน เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ทาง กนอ. ยังคงไม่มีการทบทวนสัญญาร่วมดำเนินงานฯ ที่ทำไว้กับบริษัทสหวิริยา โดยอ้างว่าปัญหาเรื่องที่ดินใน โครงการยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครอง ทั้ง ๆ ที่กรมที่ดินมีคำสั่งเพิกถอนไปตั้งแต่ 2 ปีแล้ว ซึ่งชาวบ้าน คาดว่าการที่กนอ.ไม่ยอมทบทวนโครงการ เพราะอาจกำลังเดินเรื่อง เพื่อให้มีการเยียวยาเครือสหวิริยา โดยให้บริษัทฯ สามารถเช่าที่ดินที่ออกเอกสารสิทธิ์มิชอบเพื่อใช้พัฒนาอุตสาหกรรมต่อไปได้
กรณีในลักษณะดังกล่าวเคยเกิดขึ้นแล้วในอดีต จากการที่โรงงานรีดเหล็กเครือสหวิริยา เคยบุกรุกป่าชายเลนจำนวนมาก แต่เมื่อมีการตรวจสอบพบ สุดท้ายทางบริษัทฯ ก็สามารถดำเนินการโรงงานต่อไปได้ด้วยกระบวนการเยียวยา โดยจ่ายค่าเช่าที่ให้แก่ อบจ. ประจวบคีรีขันธ์ในราคาถูก ซึ่งชาวบ้านไม่สามารถยอมรับได้ เพราะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้ผู้ทำผิดกฎหมายที่บุกรุกครอบครองที่ดินของรัฐ
นางจินตนากล่าวด้วยว่า นอกจากกรณีของ กนอ.แล้ว ขณะนี้ชาวบ้านในพื้นที่ยังได้ทราบข่าวว่า ในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ กรมโยธาธิการและผังเมืองจะประกาศใช้ผังเมืองรวมชุมชนบางสะพานฉบับใหม่แทนฉบับปี 2546 ที่หมดอายุไป ตั้งแต่ปี 2551 โดยผังเมืองฯ ฉบับใหม่จะยึดตามฉบับปี 2546 เป็นหลัก ซึ่งขัดแย้งกับความต้องการของชาวบ้าน ที่ได้เข้ามีส่วนร่วมในกระบวนการจับทำผังเมืองรวมชุมชนบางสะพานฉบับใหม่ของกรมโยธาฯ มาโดยตลอด
“การประกาศใช้ผังเมืองฉบับใหม่จะมีผลกระทบต่อชุมชนใน อ.บางสะพานเป็นอย่างมาก เนื่องจากผังเมืองจะมีผลต่อการดำเนินโครงการอุตสาหกรรมที่ชาวบ้านไม่ต้องการ รวมทั้งมีผลต่อการประกาศเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม ชายฝั่งทะเลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ชาวบ้านได้ร่วมกันผลักดันต่อกระทรวงทรัพยากรฯ จนมีความคืบหน้าไปมาก เพื่อคุ้มครองป่าพรุแม่รำพึงซึ่งเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับชาติ” ประธานเครือข่ายกล่าว
นางจินตนากล่าวต่อว่า จากสภาพการณ์ขณะนี้ ชาวบ้านจึงตั้งข้อสงสัยว่า กนอ. และกรมโยธาฯ กำลังดำเนินการเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ บริษัทสหวิริยาสามารถผลักดันโครงการนิคมอุตสาหกรรมเหล็กบางสะพานหรือไม่ เพราะหากมีการประกาศใช้ผังเมือง ฉบับใหม่โดยยึดตามผังเมืองที่ชาวบ้านบางสะพานต้องการ ก็เท่ากับว่า บริษัทสหวิริยาจะไม่สามารถริเริ่มโครงการนิคมอุตสาหกรรมเหล็กได้ อย่างน้อยในช่วงเวลา 7 ปีนับจากนี้ไป
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ