ร้องผู้ว่าฯตรังสั่งป่าไม้หยุดคุกคามชาวบ้าน จวกรัฐฯไม่ปรองดองคนจน

4 เม.ย. 2555 | อ่านแล้ว 1932 ครั้ง

 

เมื่อวันที่ 3 เม.ย.เครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด กว่า 200 คน เดินทางไปยังศาลากลางจังหวัดตรัง เพื่อยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เรียกร้องให้สั่งการไปยังหน่วยงานป่าไม้ และอุทยานแห่งชาติในพื้นที่ยุติการกลั่นแกล้ง ข่มขู่คุกคามดำเนินคดีกับเกษตรกรรายย่อยในพื้นที่ชุมชนดั้งเดิม โดยมีนายชัยยศ ธงไชย รองผู้ว่าฯตรัง เป็นตัวแทนรับหนังสือ พร้อมรับปากจะส่งต่อข้อเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อเร่งแก้ปัญหา

นอกจากนี้เครือข่ายฯ ได้ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เรียกร้องให้รัฐบาลสานต่อนโยบายโฉนดชุมชน โดยให้นายกรัฐมนตรีมอบหมายนโยบายที่ชัดเจนเรื่องโฉนดชุมชนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยทำหนังสือเวียนถึงส่วนราชการต่างๆ เพื่อให้มีการปฏิบัติตามนโยบายและแนวทางโฉนดชุมชน ซึ่งจะต้องมีการคุ้มครองพื้นที่และรับรองสิทธิชุมชนในการจัดการทรัพยากร ทั้งในส่วนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกระทรวงอื่นๆ พร้อมกันนั้น ทางเครือข่ายฯ ได้ยื่นหนังสือถึงกองทัพภาคที่ 4 ผ่านตัวแทน กอ.รมน. จ.ตรัง ด้วย

นายสมนึก พุฒนวล กรรมการเครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด กล่าวว่า เครือข่ายฯมายื่นหนังสือครั้งนี้ เนื่องจากเมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา นายสมชัย แสงแก้ว หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า นำกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ 50 นาย เข้าไปตัดฟันสวนยางของชาวบ้าน 3 แปลง เนื้อที่ 8 ไร่ ในพื้นที่นำร่องโฉนดชุมชนบ้านทับเขือ-ปลักหมู หมู่ 1 ต.ช่อง อ.นาโยง จ.ตรัง ทั้งๆ ที่หัวหน้าอุทยานฯ ได้มาเดินสำรวจแนวเขตโฉนดชุมชนร่วมกับชาวบ้าน และสัญญาว่าจะไม่เข้ามาตัดฟันต้นยางในพื้นที่โฉนดชุมชนบ้านทับเขือ-ปลักหมู แต่ก็ทำผิดสัญญา

 

“นโยบายของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เน้นการปราบปรามชุมชนในเขตป่า โดยไม่ได้แยกแยะพิจารณาข้อเท็จจริงว่า ชุมชนอยู่อาศัยและทำกินมาก่อนการประกาศเขตป่า เราขอเรียกร้องให้กรมอุทยานฯ หยุดการกระทำที่มีเจตนาแอบแฝง และหันกลับมาร่วมมือกับชุมชนในการรักษาป่า โดยเคารพสิทธิของชุมชนท้องถิ่นในการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติร่วมกับรัฐ ตามแนวทางโฉนดชุมชนและสิทธิชุมชนมาตรา 66 ในรัฐธรรมนูญ”

ด้านนางกันยา ปันกิติ กรรมการเครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด กล่าวเสริมว่า รัฐบาลพูดเรื่องการปรองดอง แต่ในทางปฏิบัติกลับไม่ได้ปรองดองกับคนยากจน ทั้งที่นโยบายโฉนดชุมชนเป็นนโยบายของภาคประชาชน ซึ่งเราได้นำเสนอต่อพรรคการเมืองทุกพรรค รวมทั้งพรรคไทยรักไทย ในปี พ.ศ.2550

 

“รัฐบาลต้องสานต่อนโยบายโฉนดชุมชน ขอให้นายกรัฐมนตรีมอบหมายนโยบายที่ชัดเจนเรื่องโฉนดชุมชนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยการทำหนังสือเวียนถึงส่วนราชการต่างๆ เพื่อให้มีการปฏิบัติตามนโยบายและแนวทางโฉนดชุมชน ซึ่งจะต้องมีการคุ้มครองพื้นที่และรับรองสิทธิชุมชนในการจัดการทรัพยากร ทั้งในส่วนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกระทรวงอื่นๆ”
 

สำหรับหนังสือร้องเรียนของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด ระบุว่า 1.รัฐบาลต้องสานต่อนโยบายโฉนดชุมชน ทั้งนี้เพื่อให้ส่วนราชการต่างๆ ปฏิบัติงานไปในแนวทางเดียวกัน นายกรัฐมนตรีควรมอบหมายนโยบายที่ชัดเจนเรื่องโฉนดชุมชนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยการทำหนังสือเวียนถึงส่วนราชการต่างๆ เพื่อให้มีการปฏิบัติตามนโยบายและแนวทางโฉนดชุมชน ซึ่งจะต้องมีการคุ้มครองพื้นที่และรับรองสิทธิชุมชนในการจัดการทรัพยากร ทั้งในส่วนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกระทรวงอื่นๆ

2.กรมอุทยานแห่งชาติฯ ต้องหยุดการกระทำที่ป่าเถื่อนและแอบแฝงด้วยทุจริต และหันกลับมาทำงานร่วมกับชุมชนท้องถิ่นในการดูแลรักษาป่า โดยเคารพสิทธิของชุมชนท้องถิ่นในการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติร่วมกับรัฐ ตามแนวทางโฉนดชุมชนและสิทธิชุมชน มาตรา 66 ในรัฐธรรมนูญ

3.ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ต้องกำกับหน่วยงานป่าไม้และหน่วยงานราชการอื่น ภายใต้การบริหารงานของจังหวัดตรัง เพื่อให้เกิดการปราบปรามผู้บุกรุกป่าตัวจริง และยุติการกลั่นแกล้ง ข่มขู่คุกคามดำเนินคดีกับเกษตรกรรายย่อยในพื้นที่ชุมชนดั้งเดิม

4.สังคมต้องร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง และขอบเขตการใช้อำนาจรัฐของกรมอุทยานแห่งชาติฯ

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: