‘แกมี’เข้าสระแก้วคืนนี้

กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ ฉบับที่ 25 ระบุว่า พายุโซนร้อน “แกมี” (GAEMI) ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว โดยเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 ตุลาคม มีศูนย์กลางอยู่บริเวณประเทศกัมพูชา หรือที่ ละติจูด 13.3 องศาเหนือ และ ลองจิจูด 105.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 18 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า พายุนี้จะเข้าสู่ประเทศไทยบริเวณจ.สระแก้วในคืนนี้ หลังจากนั้นจะเคลื่อนเข้าลงสู่ผ่านภาคกลาง และจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำในระยะต่อไป พายุนี้มีผลกระทบต่อประเทศไทย ทำให้มีฝนตกหนาแน่นเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง กับมีลมแรงดังนี้

ถึงกรุงเทพฯพรุ่งนี้

ในช่วงวันที่ 7-8 ตุลาคม ผลกระทบโดยตรงบริเวณจ.สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา ชัยภูมิ เพชรบูรณ์ ปราจีนบุรี สระแก้ว นครนายก ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรสงคราม กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ผลกระทบโดยอ้อมบริเวณจ.กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง และพังงา

ในช่วงวันที่ 8-9 ตุลาคม มีผลกระทบต่อบริเวณจ.อุทัยธานี นครสวรรค์ กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง และพังงา

สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 7-9 ตุลาคม ไว้ด้วย

อ่างเก็บน้ำ‘บุรีรัมย์’ยังรับน้ำได้อีก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ จ.บุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่ได้ติดตามสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำทั้ง 22 แห่ง พบว่ามีอ่างเก็บน้ำ เช่น อ่างเก็บน้ำลำนางรอง อ.โนนดินแดง และลำปะเทีย อ.ละหานทรายมีปริมาณน้ำกักเก็บเฉลี่ยกว่าร้อยละ 70 จากที่ก่อนหน้านี้มีน้ำกักเก็บเพียงร้อยละ 50 เท่านั้น ส่วนอ่างเก็บน้ำลำตะโคง อ.แคนดง ล่าสุดมีปริมาณน้ำมากถึงร้อยละ 110 ของความจุอ่างและเริ่มล้นตลิ่งแล้ว

ทหารบุรีรัมย์ระดมรับมือ

ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า พล.ต.วุฒิ แสงจักร ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ นำกำลังพล ร่วมกับเจ้าหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) กระสัง , เทศบาล(ทต.) บ้านบัว และ เทศบาลตำบลอีสาน ในเขตพื้นที่อ.เมืองบุรีรัมย์ กว่า 100 นาย พร้อมเครื่องจักรกล เร่งขุดลอกทำลายผักตบชวา วัชพืช และสิ่งกีดขวางทางน้ำลำห้วยจระเข้มาก ตามบริเวณคอสะพาน ฝายน้ำล้น และท่อระบายน้ำ 6 จุด ตลอดแนวความยาวของลำน้ำที่ไหลผ่านบ้านเรือน ไร่นาของเกษตรกรใน 3 ตำบลยาวกว่า 20 กิโลเมตร

เพื่อป้องกันไม่ให้ผักตบชวา วัชพืช และสิ่งกีดขวางทางน้ำต่าง ๆ ขวางทางน้ำไหล ทำให้น้ำท่วมเอ่อล้นไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร และพื้นที่การเกษตรของเกษตรกร ได้รับความเสียหายจากอิทธิพลของพายุ แกมี ที่จะพัดผ่านเข้ามาในหลายจังหวัดภาคอีสาน ซึ่งพื้นที่บริเวณลำห้วยจระเข้มาก ในช่วงฤดูฝนมีสิ่งกีดขวางทางน้ำ ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน และเกษตรกรเป็นประจำทุกปี

ห้ามออกหาปลาในอ่าวไทย 9-10 ต.ค.

นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะประธาน กบอ. สั่งให้กระทรวงมหาดไทย เรียกประชุมผู้ว่าราชการจังหวัด 5 จังหวัด ที่ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลอ่าวไทย คือ เพชรบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร เพื่อซักซ้อมแนวทางการปฏิบัติและได้มอบหมายนโยบายในการเตรียมความพร้อมรับมือพายุแกมี ที่ศาลากลางจังหวัดเพชรบุรี ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ เชื่อมโยงกับศูนย์ปฏิบัติการรองรับเหตุฉุกเฉิน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยสั่งห้ามเรือประมงออกหาปลาในอ่าวไทย 9-10 ต.ค.นี้ เพราะคลื่นอาจสูงถึง 4 เมตร หากเรือลำนำออกในช่วงดังกล่าวให้เจ้าหน้าที่จับกุมได้ทันที

เขื่อนลำพระเพลิงเฝ้าระวังอิทธิพลพายุ

นายประเทือง วันดี หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทานโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิง เปิดเผยว่า แม้ว่าพายุแกมีจะเปลี่ยนทิศทางจากเดิม ที่คาดการณ์ว่าจะเข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง แต่ขณะนี้มุ่งหน้าสู่อ่าวไทยนั้น ทางอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย ก็ยังต้องเฝ้าจับตาอยู่อีก ระหว่างวันที่ 7 – 8 ต.ค. ซึ่งขณะนี้ได้ระบายน้ำออกวันละ 2.7 ล้านลบ.ม. เหมือนเดิม เนื่องจากอิทธิพลของพายุ จะทำให้มีฝนตกต่อเนื่องบริเวณเขาแผงม้า เชื่อมต่อกับจังหวัดสระแก้ว

“น้ำที่ระบายจะไปเติมในอ่างเก็บน้ำลำสำลาย ที่ขณะนี้มีน้ำอยู่เพียง 50 เปอร์เซนต์ ของความจุเท่านั้น ทำให้น้ำในอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิงลดลงจากวันที่ 6 ต.ค.จำนวน 1 ล้าน ลบ.ม. เหลือปริมาณน้ำอยู่ 100 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 91 เปอร์เซ็นต์ ของความจุกักเก็บ ยังสามารถรับน้ำได้อีกประมาณ 10 ล้าน ลบ.ม.” นายประเทืองกล่าว