Gal คือคำแสลงที่ใช้เรียก วัยรุ่นผู้หญิงที่มีบุคลิก การพูด การแสดงออก ที่แตกต่างไปจากภาพลักษณ์ความเป็นหญิงตามแบบประเพณีญี่ปุ่นดั้งเดิมอย่างสิ้นเชิง

ตั้งแต่แฟชั่นนี้เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในช่วงกลางทศวรรษที่ 90 ไสตล์ของการแต่งตัว แต่งหน้า หรือภาพลักษณ์โดยรวมของแฟชั่นนี้ก็มีการพัฒนไปเรื่อยๆ แต่ก็ยังมีเอกลักษณ์บางอย่างยังคงหลงเหลืออยู่และไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป เช่นการนุ่งกระโปรงสั้น โรงเท้าส้นสูงที่มีพื้นรองเท้าที่หนา หนัก ใหญ่ รวมถึงการใส่ คอนแทกเลนส์ทำให้ตาดำดูใหญ่กว่าปกติ หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า big eyes.

แฟชั่นแบบนี้ไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมในอดีตแต่เมื่อเวลาเปลี่ยน บางสิ่งก็ย่อมเปลี่ยนตาม ปัจจุบัน มันได้กลายเป็นวัฒนธรรม และเป็นส่วนหนึ่งของภาพลักษณ์แฟชั่นญี่ปุ่นที่ถูกส่งออกไปทั่วโลกและทำให้คนรู้จักญี่ปุ่นในหลากหลายมุมมอง

แฟชั่น gal นั้นมีรูปแบบที่ค่อนข้างหลากหลาย เช่น การใส่ถุงเท้าที่ยาวและใหญ่ ใส่รองเท้าส้นสูงที่มีพื้นหนาและหนัก หรือย้อมผมให้เป็นสีต่างๆเช่นสีเงิน และอบผิวให้เป็นสีน้ำตาลไหม้เป็นต้น แต่ที่หนักกว่านั้น ก็จะมีบางกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า ยามัมบะ ที่มักเขียนขอบตาของตนเองด้วยอายชาโดว์ สีขาว ซึ่งเลียนนแบบมาจากขอบตาของหมีแพนดาแต่ใช้สีสลับกัน

จากการสำรวจโดยบริษัทเดนทสึ, บริษัทโฆษณายักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น พบว่า 12% ของผู้หญิงญี่ปุ่น ที่มีอายุระหว่าง 18-34 ปี เป็นกลุ่มที่นิยมแฟชั่น gal แบบเต็มตัว แต่ก็ยังมีผู้หญิงอีกมากกว่าครึ่งหนึ่งของกลุ่มผู้หญิงที่บริษัทได้สำรวจที่นิยมแฟชั่น gal แบบไม่เต็มตัว ที่รียกว่า pa gal กล่าวคือ ผู้หญิงเหล่านั้นอาจจะไม่ได้แต่งตัวในแฟชั่นแบบ gal ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่อาจจะมีการใส่ bigeyes หรือ นิยมในสินค้าที่เป็นประกาย วูบวาบ เป็นต้น

ด้วยความชอบในแฟชั่นที่ไม่เหมือนใครที่ทำให้เกิดเทรนด์แฟชั่นใหม่ๆ ทำให้บรรดาบรนิษัทผู้ผลิตสินค้าต่างดึงเอาประโยชน์ตรงนี้มาปรับปรุงผลิตภัณท์ของตนให้รองรับความต้องการของกลุ่มผู้นิยมแฟชั่น gal เช่น การผลิตคอนแทคเลนส์สีสรรค์ต่างๆหรือขนตาปลอมแบบต่างๆ

ปัจจุบัน แฟชั่น gal ไม่ได้จำกัดความนิยมอยู่แค่กลุ่มวัยรุ่นอีกต่อไป คุณแม่ยังสาวรุ่นใหม่ๆเองก็นิยมด้วยเช่นกัน จึงทำให้เกิด แgal mama ขึ้น ซึ่งเป็นพัฒนาการล่าสุดของแฟชั่น แกล ที่ทำให้อุตสาหกรรมแฟชั่น ตื่นตัวและตระหนักได้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นและหันมาจับตลาดคุณแม่ยังสาวกันมากขึ้น โดยบริษัทจะนำคุณแม่ยังสาวที่นิยมในแฟชั่น gal mama มาเป็นนางแบบโฆษณาสินค้าของตนแทนที่จะใช้ดารา หรือ นางแบบ ด้วยเหตุผลสั้นๆคือ ผู้บริโภคจะรู้สึกเข้าถึงและมีส่วนร่วมได้ง่ายกว่า

ผู้ผลิตผลิตภัณท์เด็กอ่อนรวมถึงการตั้งครรภ์ต่างก็ปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของคุณแม่ gal mama โดยการคิดนอกกรอบ เช่น แนะนำของเล่นที่มีสีดำรวมอยู่กับสีชมพูรัยิบระยับสำหรับเด็กอ่อนให้กับคุณแม่ แกล มามา เหล่านั้น แทนของเล่นเด็กทั่วๆไป

แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาลงจะทำให้การบริโภคสินค้าประเภทแฟชั่นลดลง แต่ การบริโภคสินค้าของสาวๆ gal ก็ไม่ได้ลดลงตามไปด้วย เพราะเทรนด์แฟชั่น gal นั้น มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และ สาวๆ gal ต่างก็เป็นผู้บริโภคที่บริโภคสินค้าตามกระแสแทบทั้งสิ้น และแม้ว่า จำนวนสาวๆ gal จะลดลงไปตามกระแสความนิยมที่เปลี่ยนไป แต่ด้วยความต้องการส่งเสริมแฟชั่นที่เป็นวัฒนธรรมย่อยต่างๆของรัฐบาลญี่ปุ่น ที่มีแผนส่งออกแฟชั่นและผลักดันให้ญี่ปุ่นเป็นเมืองแห่งแฟชั่นภายในปี 2020 นี้ ทำให้ สาวๆgal ทั้งหลายกลับมามีพื้นที่ในสังคมอีกครั้ง รวมถึง คุณแม่ยังสาวที่จะไม่ต้องการปิดบังความเป็น gal ของตนและสามารถแสดงออกถึงความเป็น gal ของตนได้อย่างเปิดเผยด้วย

ข่าวจาก www.bbc.co.uk