เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์คนฮักท้องถิ่นจังหวัดเชียงราย อ.เวียงชัย จ.เชียงรายกว่า 200 คน ที่ศาลปกครองเชียงใหม่ ก่อนส่งตัวแทนเข้าไปยื่นเอกสาร คัดค้านคำให้การกรณีที่ชาวบ้านฟ้องเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานไฟฟ้าชีวมวล ในพื้นที่บ้านไตรแก้ว ต.เวียงเหนือ อ.เวียงชัย ที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1) ออกให้แก่บริษัทพลังงานสะอาดดี 2 จำกัด (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2) ต่อศาลปกครองเชียงใหม่
เอกสารคัดค้านที่กลุ่มอนุรักษ์คนฮักท้องถิ่น จ.เชียงราย ยื่นต่อศาล มีประเด็นที่สำคัญคือ มีการถมดินบริเวณสถานที่ก่อสร้างโรงงานทับลำเหมืองสาธารณะ โดยไม่แจ้งขออนุญาตกับองค์การบริหารส่วนตำบลเวียงเหนือ โดยผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 อ้างว่า ไม่ทราบมาก่อนว่า สภาพพื้นที่ดังกล่าวเป็นลำเหมืองสาธารณะ โดยผู้ฟ้องคดีชี้แจงกับศาลว่า ที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นที่ดินซึ่งมีโฉนดและในรูปแผนที่ในโฉนด ปรากฏชัดเจนว่ามีลำเหมืองสาธารณะปรากฏอยู่ การที่ผู้ถูกฟ้องคดี 2 เป็นเจ้าของโฉนดจะกล่าวอ้างว่า ไม่ทราบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวไม่ได้
ประเด็นต่อมาคือ ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองอ้างว่า บริเวณสถานที่ก่อสร้างโรงงานนั้นไม่มีโบราณสถานหรือสถานที่สำคัญทางศาสนาและชุมชน ภายในรัศมี 2 ก.ม. แต่จากข้อเท็จจริงพบว่าในระยะ 1.4 ก.ม. เป็นที่ตั้งของพุทธสถานพระเจ้ากือนา ศาสนสถานที่สำคัญของ จ.เชียงราย
ส่วนประเด็นสุดท้าย กรณีที่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองอ้างว่า โรงงานไฟฟ้าชีวมวลในประเทศไทย ไม่เคยเกิดปัญหาร้องเรียนจากประชาชน และไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน ปัจจุบันปรากฏว่ามีการร้องเรียนให้กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตรวจสอบการละเมิดสิทธิชุมชนที่เกิดจากโรงไฟฟ้าชีวมวลในหลายจังหวัดของประเทศ และพบว่ามีข้อมูลจากรายงานประเมินผลกระทบด้านสุขภาพจากโรงไฟฟ้าชีวมวล ที่จัดทำโดยสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ชี้ชัดว่า โรงงานไฟฟ้าชีวมวลสร้างผลกระทบด้านสุขภาพต่อประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งใน จ.ร้อยเอ็ดและ จ.สุรินทร์
ต่อมาเวลา 11.30 น. เจ้าพนักงานคดีปกครองได้ชี้แจงต่อชาวบ้านว่า ขณะนี้ขั้นตอนของคดีอยู่ในกระบวนการแสวงหาข้อเท็จจริงของศาลเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานในคดีให้ครบถ้วน โดยคดีนี้ศาลได้เรียกให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดชี้แจงข้อเท็จจริงเกือบจะครบถ้วนแล้ว ส่วนเอกสารที่ชาวบ้านมายื่นในวันนี้ศาลมีหน้าที่ต้องนำไปพิจารณาในคดีต่อไป ส่วนในทางคดี คาดว่าศาลจะได้สั่งกำหนดวันสิ้นสุดแสวงหาข้อเท็จจริงในเร็วๆ นี้ และจากนั้นก็จะเป็นขั้นตอนการนั่งพิจารณาคดีครั้งแรก และกำหนดวันพิพากษาคดีต่อไป
นอกจากนี้ เจ้าพนักงานคดีปกครองยังเปิดโอกาสให้ชาวบ้าน สอบถามถึงกรณีที่สงสัยในกระบวนการของศาล จนกระทั่งเวลา 12.00 น. ชาวบ้านก็แยกย้ายเดินทางกลับ จ.เชียงราย
สำหรับคดีดังกล่าวยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2554 โดยกลุ่มอนุรักษ์คนฮักท้องถิ่น เป็นผู้ฟ้องคดี 100 ราย มีประชาชนผู้สนับสนุนกว่า 1,000 รายชื่อ จาก 3 ตำบล และมีเครือข่ายนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนให้ความช่วยเหลือด้านคดี โดยมุ่งหวังให้คดีดังกล่าวเป็นบรรทัดฐานในการปฏิบัติงานของราชการที่มีอำนาจในการออกใบอนุญาต ให้มีการตรวจสอบข้อมูลอย่างครบถ้วนและคำนึงถึงสิทธิชุมชนของประชาชนในการกำหนดวิถีชีวิตของตนเองร่วมกับภาครัฐต่อไป
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ