เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ต.อ.ดุษฎี อารยะวุฒิ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เปิดเผยถึงการตรวจสอบเพื่อดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐ ที่กระทำทุจริตการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินโดยมิชอบว่า ป.ป.ท.ได้ลงนามความร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เพื่อร่วมมือตรวจสอบปัญหาบุกรุกออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินไม่ชอบเป็นการเฉพาะ เบื้องต้นวางกรอบสำรวจพื้นที่ป่าและอุทยานทั่วประเทศว่าถูกบุกรุกอย่างไร การออกเอกสารสิทธิถูกต้องหรือไม่ เจ้าหน้าที่ที่เคยถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับการทุจริตออกเอกสารสิทธิ เคยปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ใดบ้าง เนื่องจากพบว่ามีพฤติการณ์กระทำผิดต่อเนื่อง รวมถึงการตรวจสอบพื้นที่ล่อแหลมต่อการถูกบุกรุก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ในจังหวัดท่องเที่ยวที่มีภูมิประเทศสวยงาม
พ.ต.อ.ดุษฏีกล่าวว่า ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ป.ป.ท.ลงพื้นที่ตรวจสอบที่ดิน ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตามที่มีการร้องเรียนให้ตรวจสอบการครอบครองที่ดินโดยมิชอบ ในนิคมสร้างตนเองลำตะคอง พบว่าผู้ที่เข้าไปถือครองที่ดินส่วนใหญ่ขาดคุณสมบัติ เพราะไม่ใช่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนลำตะคอง และไม่ใช่ราษฎรที่ไม่มีที่ดินเพียงพอแก่การทำกิน นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ครอบครองที่ดินไม่ได้ใช้ที่ดินประกอบอาชีพเกษตรกร ส่วนใหญ่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง มีทั้งข้าราชการระดับสูง นักการเมืองท้องถิ่น และนักธุรกิจชื่อดัง ซึ่งจะเข้าไปปลูกบ้านพักอาศัยในนิคมฯ
เลขาธิการป.ป.ท.กล่าวต่อว่า การตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ครอบครองที่ดิน ในนิคมสร้างตนเองลำตะคอง เป็นผลสืบเนื่องมาจากการร้องเรียนของนายประวัตฒ์ อุตตะโมต กรณีการครองครอบที่ดินโดยมิชอบของ นายธีระวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ ในต.หนองแดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งคณะกรรมการป.ป.ท.ไม่รับไว้ไต่สวนข้อเท็จจริง เนื่องจากเป็นการกล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งอยู่ในอำนาจตรวจสอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แต่บอร์ดป.ป.ท.มีมติให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับที่ดินในนิคมสร้างตนเองลำตะคอง เนื่องจากมีเหตุอันควรสงสัยว่า เจ้าหน้าที่รัฐกระทำทุจริตในการดำเนินการของนิคมสร้างตนเองลำตะคอง กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ โดยที่สมาชิกนิคมมิใช่ผู้มีคุณสมบัติตามมาตรา 22 หรือออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ น.ค.1 ไม่เป็นไปตามพ.ร.บ.จัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ.2511 อย่างไรก็ตาม ป.ป.ท.จะประสานข้อมูลกับกรมส่งเสริมสหกรณ์เพื่อขอให้ตรวจสอบความถูกต้องในกรณีดังกล่าวตามที่บอร์ดป.ป.ท.กำหนด
ในชั้นการตรวจสอบพบว่า การยื่นเอกสารสมัครเป็นสมาชิกสหกรณ์ เพื่อให้มีสิทธิได้รับการจัดสรรที่ดินจากนิคมสร้างตนเอง เข้าข่ายขาดคุณสมบัติ เนื่องจากนิคมจัดตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 19 มิ.ย.2510 มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดสรรที่ดินให้แก่ราษฎร ที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนลำตะคอง และราษฎรทั่วไปที่อาศัยครอบครองทำประโยชน์ อยู่ก่อนการจัดตั้งนิคมสร้างตนเอง เพื่อให้มีการจัดตั้งถิ่นฐานและประกอบอาชีพ ตลอดจนให้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน เพื่อพัฒนาการขั้นพื้นฐาน และการประกอบอาชีพให้สมาชิกนิคมมีรายได้ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สามารถช่วยเหลือตนเองและชุมชนได้ โดยนิคมฯ มีพื้นที่ประมาณ 280,000 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่จัดสรรได้ 189,723 ไร่ พื้นที่ผังจัดสรร 27,075 ไร่ พื้นที่ราษฎรเดิมครอบครอบ 167,648 ไร่ พื้นที่จัดสรรไม่ได้ 85,276 ไร่ ปัจจุบันมีผู้เป็นสมาชิกประมาณ 10,000 ราย
รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบฐานข้อมูลการถือครองที่ดินในนิคมสร้างตนเองลำตะคอง และรายชื่อของผู้สมัครเป็นสมาชิกสหกรณ์ในช่วงปี 2537-2539 พบรายชื่อ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ นางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ นางโสธร ณ นคร (ภรรยานายคณิต ณ นคร ประธานคอป. ) นายสามัคคี มณีรัตน์ ส.ส. พรรคเพื่อไทย นางมาเรียม มณีรัตน์ นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบบุคคลที่มีนามสกุลดังอีกจำนวนมาก เข้าไปถือครองที่ดินในนิคม เช่น ทังสุพานิช วัชราภัย สวัสดิวัฒน์ อักษรานุวัตร เรืองกฤตยา จักกะพาก สูตะบุตร พานิชกุล สถิรบุตร เป็นต้น
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ