จากกรณีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า จ.ตรัง เข้าไปตัดฟันสวนยางพาราในพื้นที่โฉนดชุมชนบ้านทับเขือ-ปลักหมู และรื้อสะพานเข้าพื้นที่โฉนดชุมชนบ้านหาดสูง ซึ่งเป็นสมาชิกเครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด จ.ตรัง นั้น
ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 9 เม.ย. นางกันยา ปันกิติ พร้อมด้วย นายสมนึก พุฒนวล และกรรมการเครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด ประมาณ 20 คน ร่วมกันแถลงข่าวถึงสถานการณ์ปัญหาที่เกิดขึ้น และทิศทางการขับเคลื่อนของเครือข่าย ที่มูลนิธิอันดามัน เลขที่ 35/10 หมู่ 4 ต.ควนปริง อ.เมือง จ.ตรังนางกันยา ปันกิติ กรรมการเครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด กล่าวว่า จากที่มีข่าวว่าชาวบ้านบ้านหาดสูงใช้ความรุนแรงขัดขืนการปราบปรามของเจ้าหน้าที่อุทยานฯ จริงๆ แล้วพี่น้องได้กราบวิงวอนร้องขอ เหมือนคนไม่มีทางสู้ แต่ในที่สุดก็ถูกฟันทำลายสะพานเข้าหมู่บ้านโดยไม่มีความปราณี ทั้งๆ ที่สำนักงานโฉนดชุมชน สำนักนายกรัฐมนตรี มีหนังสือถึงกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ชะลอการรื้อถอนสะพาน และส่งข้อมูลไปให้สำนักงานโฉนดชุมชนภายในวันที่ 10 เม.ย.นี้ แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ปฏิบัติตาม
“นอกจากนั้น มีข่าวว่าเร็วๆ นี้ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด จะนำกำลังประมาณ 200-300 คน จะเข้าไปรื้อถอนสวนยางพาราที่บ้านตระ การกระทำเหล่านี้ไม่ถูกต้อง ไม่ชอบธรรม รัฐบาลปล่อยปละละเลยให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้มารังแกคนจนที่อยู่อาศัยในชุมชนดั้งเดิมได้อย่างไร แสดงว่ารัฐบาลไม่ได้ปรองดองกับชาวบ้าน ไม่ได้ปฏิบัติตามนโยบายการรับรองสิทธิชุมชน ตามที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา และคนไทย ขอให้สังคมร่วมกันตรวจสอบการกระทำของรัฐบาล และกรมอุทยานฯ ด้วย” นางกันยากล่าว
ด้านนายสมนึก พุฒนวล กรรมการเครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด กล่าวว่า จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทางเครือข่ายฯ มีข้อเรียกร้อง 4 ข้อ คือ 1.ให้รัฐบาลสานต่อนโยบายโฉนดชุมชน โดยให้คุ้มครองพื้นที่ และรับรองสิทธิชุมชนในการจัดการทรัพยากร 2.ให้กรมอุทยานแห่งชาติฯ หยุดการกระทำที่ป่าเถื่อนและแอบแฝงทุจริต และหันกลับมาทำงานร่วมกับชุมชนท้องถิ่น ในการดูแลรักษาป่า 3.ให้ผวจ.ตรัง กำกับหน่วยงานป่าไม้และหน่วยงานอื่น เพื่อให้เกิดการปราบปรามผู้บุกรุกป่าตัวจริง และยุติการกลั่นแกล้ง ข่มขู่คุกคามดำเนินคดีในพื้นที่ชุมชนดั้งเดิม 4.ให้สังคมร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง และขอบเขตการใช้อำนาจรัฐของกรมอุทยาน
นายสมนึกกล่าวต่อว่า เครือข่ายมีกำหนดจะเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง โดยวันที่ 10 เม.ย.สมาชิกประมาณ 200 คน จะเคลื่อนขบวนรณรงค์แจกแถลงการณ์ในพื้นที่อ.เมืองตรัง และเข้ายื่นหนังสือถึงนายเสนีย์ จิตตเกษม ผวจ.ตรัง ด้วย
จากนั้นในสัปดาห์นี้จะรณรงค์อย่างต่อเนื่องในพื้นที่ทุกอำเภอของ จ.ตรัง โดยเฉพาะอำเภอที่ติดอยู่ในเขตป่า เพื่อให้คนตรังได้รู้ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และเข้าใจว่าสมาชิกเครือข่ายฯ ไม่ใช่ผู้บุกรุกป่า แต่เป็นผู้ที่อยู่ในพื้นที่มายาวนาน และมีกติกาในการดูแลรักษาป่าอย่างชัดเจน ในส่วนพี่น้องที่เดือดร้อนจากการประกาศเขตป่าทับซ้อนพื้นที่กลุ่มอื่นๆ ก็จะได้ลุกขึ้นมาต่อสู้ร่วมกับเครือข่ายฯ ต่อไป
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ