ชำแหละ‘ชินวัตรคอนเนชั่น’โยกย้ายขรก. เด็กพ.ท.ผงาดทุกกระทรวง-ปลื้มถ้วนหน้า คุมกำลัง-แหล่งงบฯหนา-รัฐวิสาหกิจใหญ่

ทีมข่าวศูนย์ข่าว TCIJ 10 ก.ย. 2555 | อ่านแล้ว 3301 ครั้ง

ฤดูแต่งตั้งโยกย้ายปี 2555 เพื่อจัดกำลังข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทย ในรัฐบาลเพื่อไทยปีที่ 2 ไม่น้อยกว่า 50 ตำแหน่ง ล้วนสืบสาแหรกมาจาก “ชินวัตรคอนเนกชั่น”

 

 

เปิดฤดูฟ้าผ่ากองทัพ-บัญชีนายพลรั่ว

 

 

เมื่อพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ลงนามในคำสั่งกระทรวงกลาโหม (เฉพาะ) ที่ 383/55 เรื่อง ให้นายทหารช่วยปฏิบัติราชการ เพื่อให้การบริหารราชการในกระทรวงกลาโหมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีผลให้ 3 พลเอก เด้งออกจากตำแหน่งทันทีภายใน 24 ชั่วโมง คือ พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวง พล.อ.ชาตรี ทัตติ รองปลัดกระทรวง และ พล.อ.พิณภาษณ์ สริวัฒน์  เจ้ากรมเสมียนตรา กระทรวงกลาโหม ไปช่วยปฏิบัติราชการที่สำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม เพราะมีข่าวหลุด-โผรั่ว

 

 

และมีข่าวพาดพิงถึงบุคคลระดับประธานองคมนตรี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ และร้าวไปถึงตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล อ้างถึงการเข้าพบนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

 

จึงเกิดฟ้าผ่ากลางกองทัพร้าวฉานไปทั้ง 3 เหล่าทัพ

 

 

 

 

 

 

 

บัญชีโยกย้ายนายพลสีกากีป่วน

 

 

รวมไปถึงการแตกแยกถึงขั้น 5 นายพลสีกากี “วอร์คเอาต์” ออกจากห้องประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร) ประชดการแต่งตั้งโยกย้ายระดับผู้บังคับการ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

 

5 นายพลตำรวจ ที่มีชื่อขึ้นบัญชี ไม่ยอมรับ “โผ” ของตำรวจ ประกอบด้วย 1. พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช 2.พล.ต.อ.ชาญชิต เพียรเลิศ 3.พล.ต.อ.บุญญฤทธิ์ รัตนะพร 4.พล.ต.ท.ศุภวุฒิ สังข์อ่อง และ 5.รศ.ร.ต.อ.สรพลจ์ สุขทรรศนีย์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ

 

เหตุผลที่ 5 นายพลตำรวจ ให้การกับสาธารณะคือ  “การแต่งตั้งครั้งนี้มีบางรายชื่อที่ทาง ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิพบว่ามีความไม่เหมาะสม ทั้งในเรื่องคุณสมบัติและในเรื่องหลักเกณฑ์ บางรายชื่อมีการปรับเปลี่ยนแบบกระทันหัน”

 

 

สลับขั้วตำแหน่งในกระบวนการยุติธรรม

 

 

ความร้าวฉานในสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังไม่ทันคลี่คลาย ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรก เพราะมีเหตุให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับหน่วยงานสายตำรวจ และสายปราบปรามยาเสพติด และกระทรวงยุติธรรม ต้องการปรับ ปลด ลด ย้าย หลายตำแหน่งตามมา อาทิ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยะวุฒิ เลขาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ไปเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม แทน ชาติชาย สุทธิกลม รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อนร่วมรุ่น สุเทพ เทือกสุบรรณ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่จะถูกเด้งเข้ากรุ เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม

 

ชื่อของ ธวัชชัย ไทยเขียว อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จะได้ไปเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม แล้วหยิบชื่อ ฐานิส ศรียะพันธุ์ รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) อดีตรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กลับมาเป็นอธิบดีกรมพินิจฯ

 

ส่วน พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม ไปเป็นอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ แทน พิทยา จินาวัฒน์ ที่จะเกษียณอายุราชการเดือนกันยายน 2555

 

นอกจากนี้ยังมีตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ถูกเสนอให้ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร. นั่งควบตำแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ส. เหมือนสมัย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว

 

สำหรับตำแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ท. ถูกกั๊กเก็บไว้ให้กับ พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีสลายการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2553

 

 

ลูกไม้มหาดไทย-ลูกน้องทักษิณ
 

 

สำหรับการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของ-นักปกครองของกระทรวงมหาดไทย มีเก้าอี้ต้องผลัดเปลี่ยนถึง 24 ตำแหน่ง ทั้งปลัดกระทรวง-อธิบดี-ผู้ว่าราชการจังหวัด-ผู้ตรวจราชการกระทรวง ทั้งเก้าอี้ตัวใหญ่ที่สุดคือ ปลัดกระทรวง 1 ตำแหน่ง รองปลัด 2 ตำแหน่ง อธิบดี 3 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ 16 ตำแหน่ง และ ผู้ตรวจ 2 ตำแหน่ง

 

โดย พระนาย สุวรรณรัฐ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งกำลังจะหมดวาระการเป็นข้าราชการใน 30 กันยายนนี้ มีชื่อ วิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย “สิงห์ดำ” รัฐศาสตร์ จุฬาฯ เช่นเดียวกับ “ยงยุทธ วิชัยดิษฐ์” รมว.มหาดไทย รุ่นพี่สิงห์ดำ รุ่น 13 ได้ครอบครองเก้าอี้ปลัดกระทรวงแทน หลังมีข่าวใต้ดินว่า เขาเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่เกาะฮ่องกง เมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา

 

 

แม้ “วิบูลย์” จะถูกจองคิว แต่เขามีคู่แข่งที่วิ่งมาในลู่เดียวกัน คือ  “วิเชียร ชวลิต” ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ที่ต้องการกลับมาเกษียณที่กระทรวงเก่า เขาจึงมักปรากฏตัวในตึกที่ทำการพรรคเพื่อไทยเป็นระยะประชิด ก่อน “วิบูลย์” จะมุ่งหน้าไปฮ่องกง 3 วัน  เขายังเป็นเพื่อนร่วมรุ่น วิทยาลัยตลาดทุน (วตท.) รุ่น 12 กับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อีกด้วย

 

ส่วนตำแหน่งอธิบดี  ที่กระทรวงหลองหลอดหลายตำแหน่ง ก็พัดหวนตามกระแสลมการเมือง อาทิ  เก้าอี้อธิบดีกรมป้องกันฯ ที่ว่างลง  ลงตัวที่ “ฉัตรชัย พรหมเลิศ” ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ซึ่งเป็น “สิงห์ดำ” อีกราย

 

สำหรับกรมการปกครอง ซึ่ง สุกิจ เจริญรัตนกุล อธิบดีจะเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายน  “พรรคเพื่อไทย” เคาะตัวแทนแน่นอนแล้วคือ ชวน ศิรินันท์พร  ที่โยกมาจากผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา จะได้เป็นอธิบดีกรมการปกครองสืบไป

 

กรมที่ดูแลงบประมาณมากที่สุดถึงหลักแสนล้าน อย่างกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ที่ “วีระยุทธ เอี่ยมอำเภา” จะเกษียณอายุ และแน่นอนที่สุดว่า เส้นทางของคนมาใหม่ สายเดียวกันคนในพรรคเพื่อไทย คือ แก่นเพชร ช่วงรังษี จากเดิมเป็นผู้ว่าฯ อุดรธานี ข้ามมาดูงานมวลชน ฐานเสียงแดงให้กับพรรคต่อไป

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตำแหน่งพ่อเมืองเชียงใหม่ ลูกน้องสาย “เจ๊แดง” เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ถูกจัดให้ถูกที่ถูกเวลา มีชื่อ ธานินทร์ สุภาแสน จากเชียงราย เตรียมเข้าเสียบแทน  ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ที่ถูกย้ายเข้ามาเป็นรองปลัดกระทรวง หลังอยู่ในตำแหน่งพ่อเมืองเชียงใหม่นานถึง 1 ปี 8 เดือน เช่นเดียวกับ ภานุ อุทัยรัตน์ อดีตเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ที่เด้งไปดอง ไว้ที่สำนักนายกรัฐมนตรีเกือบ 1 ปี  ก็สั่งย้ายอีกรอบให้กลับเข้ากระทรวงในตำแหน่งรองปลัด

 

เก้าอี้ตัวสำคัญของกระทรวงความมั่นคง แต่เกี่ยวข้องกับเรื่องเศรษฐกิจคือ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ซึ่ง อุดม พัวสกุล เกษียณอายุราชการ หลังจากเคาะระฆังรอมากว่า 1 เดือน ได้ชื่อ มณฑล สุดประเสริฐ จากรองอธิบดี ขึ้นแท่นแทน

 

 

กระทรวงเศรษฐกิจโยกเก้าอี้อลหม่าน

 

 

เก้าอี้ผู้บริหารกระทรวงการคลัง ถูกจัดการบัญชีเรียบร้อยตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม 2555 ตามข้อเสนอของ กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 10 ทั้งหมด 6 ตำแหน่ง

 

ซึ่งมีรองปลัดเกษียณอายุราชการ 1 คน คือ เสาวนีย์ กมลบุตร ปฏิบัติหน้าที่ หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายได้ ที่ดูแลทั้งกรมสรรพากร กรมศุลกากร และกรมสรรพสามิต ดังนั้นจึงต้องสรรหาผู้ที่เหมาะสมมาทำหน้าที่แทน แต่งตั้ง รังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ อธิบดีกรมบัญชีกลาง ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงการคลัง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ขณะที่ มนัส แจ่มเวหา  รองปลัดกระทรวงคลัง ขึ้นดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมบัญชีกลาง เพราะมีความเชี่ยวชาญอยู่ด้านทรัพย์สินคือ กรมธนารักษ์ และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.)

 

สมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมศุลกากร ไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพสามิต แทน เบญจา หลุยเจริญ อธิบดีกรมสรรพสามิต ที่จะสลับไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมศุลกากรแทน

 

นอกจากนี้ก็มีการแต่งตั้ง จักรกฤศฎิ์ พาราพันธกุล จากผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ซึ่งเติบโตเริ่มมาจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และสบน. ไปดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงการคลัง ดูแลด้านทรัพย์สินของรัฐ

 

และ จุฬารัตน์ สุธีธร ผู้ตรวจราชการกระทรวง ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการ สบน. แทน เพราะมีความสามารถ และเชี่ยวชาญด้านต่างประเทศ  เหตุผลเพราะเข้าใจเรื่องตราสารหนี้ของไทยได้ดี อาจทำให้อันดับของไทยดีขึ้น และช่วยให้เอกชนระดมทุนในต้นทุนที่ต่ำลงได้

 

แม้กิตติรัตน์จะให้เหตุผลเรื่องความรู้ ความเชี่ยวชาญเฉพาะ และการเตรียมกำลังคนสำหรับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ แต่ก็มีกระแสข่าวว่า เขาได้มีการหารือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เกี่ยวกับการโยกย้ายครั้งนี้ ผ่านระบบการสไกซ์  เพื่อเช็กหน้าเช็กเสียงครั้งสุดท้าย

 

 

คมนาคมเก้าอี้นี้บริหารแสนล้าน

 

 

คณะรัฐมนตรี สัปดาห์แรกของเดือนกันยายน (วันที่ 4 กันยายน 2555) อนุมัติให้ กระทรวงคมนาคมแต่งตั้ง ประณต สุริยะ เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง สมชาย เดชภิรัตนมงคล เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง ไว้ก่อน ก่อนที่จะโยกตำแหน่งใหญ่ตามมา

 

เพราะรู้กันว่า กระทรวงคมนาคมเป็นกระทรวงเกรดเอ มีงบประมาณปีละแสนล้านบาท เก้าอี้ใหญ่จะว่าง 3 ตำแหน่ง และปลัดกระทรวง ศิลปชัย จารุเกษมรัตนะ จะเกษียณอายุราชการ ซึ่งข้าราชการสะพัดกันทั้งกระทรวงว่า ฝ่ายการเมืองจะเก็บเก้าอี้นี้ไว้ให้ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มาขึ้นแท่นแทน แน่นอนที่สุดว่า ข่าวที่ออกจากทำเนียบเพราะชื่อนี้มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้การันตี

 

 

สำหรับคู่แข่งในลู่วิ่งนี้ มี สร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ รองปลัดกระทรวง สมชัย ศิริวัฒนโชค อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ส่วนอธิบดีกรมทางหลวง ม้าเต็งคือ สถิตย์ เลาหเจริญยศ รองอธิบดีฝ่ายบริหาร เก้าอี้อธิบดีกรมเจ้าท่า กำลังลุ้นระหว่างลูกหม้อ พงษ์วรรณ จารุเดชา รองอธิบดี ด้านโครงสร้างพื้นฐานทางน้ำ กับคนนอก ศรศักดิ์ แสนสมบัติ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ด้านการขนส่ง

 

 

กระทรวงไอซีที.มี “โผ” ข้ามห้วยแต่ได้ “คนใน”

 

 

ก่อนถึงวันแต่งตั้ง 1 สัปดาห์ จีราวรรณ บุญเพิ่ม ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ให้ความเห็นว่า มีผู้ที่เข้าข่าย 10 รายชื่อ ที่อยู่ในเกณฑ์จะถูกเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา ได้แก่ วรพัฒน์ ทิวถนอม รองปลัด, เมธินี เทพมณี ผู้ตรวจฯ และวิบูลย์ทัต สุทันธนกิตติ์ ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ แต่มีชื่อที่มาแรงคือ สุรชัย ศรีสารคาม ผู้ว่าฯนครนายก ซึ่งเป็นจังหวัดนำร่อง “Smart Province”

 

แต่ท้ายที่สุดหวยไปออกที่ ไชยยันต์ พึ่งเกียรติไพโรจน์ รองปลัดกระทรวง ได้คว้าพุงปลาไปกิน ขึ้นเป็นปลัดกระทรวงไฮเทค

 

 

แรงงาน-เกษตรฯ โยกอธิบดีสลับกรม

 

 

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์แต่งตั้ง ฉลอง เทพวิทักษ์กิจ เป็นรองปลัดกระทรวง โอฬาร พิทักษ์ เป็นรองปลัดกระทรวง วิจักร อากัปกริยา เป็นอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เกรียงศักดิ์ หงส์โต เป็นอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน ดำรง จิระสุทัศน์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร

 

ส่วนกระทรวงที่ต้องขับเคลื่อนนโยบายค่าแรง 300 บาท เงินเดือนปริญญาตรี 15,000 บาท ตามนโยบายเพื่อไทย นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รมว.แรงงาน ขาใหญ่ของพรรคเพื่อไทย บอกว่า จะโยกรองอธิบดี 4 กรม ได้แก่ สุรเดช วลีอิทธิกุล รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เป็นรองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) โชคชัย ศรีทอง รองอธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) เป็นรองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) วินัย ลู่วิโรจน์ รองอธิบดี กสร. ไปเป็นเป็นรองอธิบดี กรมการจัดหางาน (กกจ.) นายสมใจ บุญประสิทธิ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ไปเป็นรองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ทั้งหมดนี้เป็นแค่การจัดทัพข้าราชการ ในสังกัดรัฐบาลเพื่อไทย ที่จัดแถวใหม่ รองรับงบประมาณใหม่ในปี 2556

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ชินวัตรคอนเนกชั่น” ผันตัวเป็นอำมาตย์

 

 

ไม่นับรวมบรรดาเครือยข่ายข้าราชการระดับสูง และพรรคพวก เครือข่าย ของ “ชินวัตรคอนเนกชั่น” ที่ผันตัวจากอำมาตย์แดงไปเป็น ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจยักษ์ใหญ่ของประเทศ อาทิ

 

สรจักร เกษมสุวรรณ ที่เป็นตัวเต็งหาม ข้ามเมฆมาเป็น “ดีดีการบินไทย” เพราะล่าสุดพนักงานการบินไทยทุกคนได้รับแจ้งว่า ชื่อ “สรจักร” เป็นเพียงคนเดียวที่ผ่านการพิจารณาตามเงื่อนไข ของคณะกรรมการสรรหากรรมการ ที่มี อารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน

 

เช่นเดียวกับเอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ อดีตผู้อำนวยการสำนักโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เลขาธิการสภาการศึกษา ที่โบกมือลากระทรวงศึกษาธิการ เพื่อนั่งเป็นหัวเรือใหญ่ในสายสื่อของรัฐ ตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)

 

พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ที่กำลังจะเกษียณ ได้รับแต่งตั้งเป็นบอร์ด บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ว่าที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นบอร์ด บมจ.ไทยออยล์

 

ส่วนนายทหารที่มีบทบาทเคยเคียงข้าง “พ.ต.ท.ทักษิณ” อย่าง พล.อ.พฤณท์ สุวรรณทัต หัวหน้าฝ่ายเสนาธิการ ประจำรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ได้รับค่าเบี้ยประชุมในฐานะเป็นบอร์ดบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด

 

พล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 10 รุ่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ตำแหน่งบอร์ดบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)

 

พล.ท.ปรีชา วรรณรัตน์  อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่คนในทำเนียบรัฐบาลรู้จักดี เพื่อนนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 10 พ.ต.ท.ทักษิณ อดีตผู้สมัคร ส.ส.ตราด พรรคเพื่อไทย ยังได้เป็นกรรมการ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน)

 

ประเสริฐ บุญสัมพันธ์  ซึ่งถูกแต่งตั้งเป็น “กุนซือนายกรัฐมนตรี” ในฐานะ 1 ใน คณะกรรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) ก็ร่วมเป็นผู้บริหาร บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) , ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)   บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ด้วย

 

 

ส่วนชื่อสุดท้าย เป็นคนในเครือข่าย “ชินแซทเทลไลท์”  ยงสิทธิ์ โรจน์ศรีวิชัยกุล อดีตผู้บริหาร บริษัท ชิน แซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ก็ได้ร่วมวงเป็นผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ ในตำแหน่งเบอร์ 1 ขึ้นแท่นเป็น ผู้ว่าการองค์การรถไฟฟ้ามหานคร (รฟม.) อีกด้วย

 

 

 

 

 

 

บัญชีชื่อนักบริหาร-นักปกครอง-คนในกองทัพ-บอร์ดรัฐวิสาหกิจยักษ์ เหล่านี้คงอธิบายได้ระดับหนึ่งว่า ระบบอุปถัมน์ในประเทศไทย ยังแข็งแรงหนักแน่นเพียงใด และภายใต้ดวงอาทิตย์ดวงนี้ ไม่มีหน่วยงานไหนที่ไม่มีคนในเครือข่าย “ชินวัตรคอนเนกชั่น” นั่งเป็นผู้บริหาร

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: