เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการปรับหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ....ตามนโยบายของนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ ให้มีการปฏิรูปหลักสูตรการศึกษาทุกระดับชั้น ว่า  เรื่องดังกล่าว รมว.ศึกษาธิการ ได้มอบหมายให้ ดร.ภาวิช ทองโรจน์  ที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ รับผิดชอบในเรื่องนี้ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะต้องไปหารือกันดูว่าการปฏิรูปหลักสูตรดังกล่าวจะเป็นไปในทิศทางไหนและมีรูปแบบออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งเบื้องต้นเด็กไทยเรียนมาก แต่รู้น้อย หรือเรียนมากแต่ความสามารถทางการคิดยังไม่อยู่ในระดับที่น่าพอใจ ดังนั้นนโยบายของรมว.ศึกษาธิการ จึงมีความต้องการให้จัดการเรียนการสอนให้น้อย แต่เด็กต้องเรียนรู้ให้มาก ซึ่งประเด็นนี้ สพฐ.จะนำไปถอดรหัสดูว่า ในภาคปฏิบัติมีการจัดการเรียนการสอนส่วนไหนที่มากเกินไป หรือการจัดกิจกรรมแบบไหนที่ส่งผลให้เด็กเกิดพัฒนาการทางด้านการคิดไม่เพียงพอก็จะหยิบยกประเด็นเหล่านี้มาพิจารณา

เลขาธิการ กพฐ. ยังกล่าวถึงกรณีที่ รมว.ศึกษาธิการ ต้องการให้โรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูงเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะเพิ่มที่เรียนให้กับนักเรียนเขตพื้นที่บริการ เพื่อรองรับการเพิ่มขึ้นนักเรียน โดยเฉพาะในบางพื้นที่ที่มีการขยายตัวของจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น เช่น พื้นที่ที่มีสถานีรถไฟฟ้ามาถึง ก็จะมีคนหลั่งไหลมาอยู่มาก จึงคาดการณ์ได้ว่าจำนวนนักเรียนที่จะเข้ามาเรียนก็จะต้องเพิ่มขึ้น เพื่อต้องการให้นักเรียนได้เรียนในโรงเรียนใกล้บ้านที่มีคุณภาพดี หรือหากโรงเรียนมีพื้นที่จำกัดและอยู่ในพื้นที่ที่ดินราคาแพง ก็จะเปิดโอกาสให้สร้างอาคารสูง ๆ ส่วนต่างจังหวัดหากที่ดินราคาถูก ก็อาจจะใช้วิธีสร้างอาคารสองสามชั้น ทั้งนี้การเตรียมการรองรับดังกล่าว จะทำให้เด็กมีที่เรียนใกล้บ้านมากกว่า สพฐ.จะพิจารณาความเป็นไปได้ถึงแนวทางดังกล่าว โดยอาจจะหารือในรายละเอียดกับผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเสนอแนะและข้อคิดเห็นต่าง ๆ ต่อไป