ผู้ว่าฯพัทลุงจี้ม.ทักษิณยุติสร้างวิทยาลัยภูมิปัญญา
เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ที่ศาลากลางจังหวัดพัทลุง มีการประชุมพิจารณาแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของสมาชิกเครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด กรณีพิพาทที่สาธารณะประโยชน์ทุ่งสระ ระหว่างมหาวิทยาลัยทักษิณกับชาวบ้านใสกลิ้ง บ้านท่าช้าง ต.พนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง โดยมีนายวิญญู ทองสกุล ผู้ว่าฯ พัทลุง เป็นประธาน ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพัทลุง นายอำเภอควนขนุน นายกเทศบาลตำบลพนางตุง ชาวบ้านเครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัดจากจ.พัทลุง และจ.ตรัง ประมาณ 150 คน ทั้งนี้ไม่มีตัวแทนจากมหาวิทยาลัยทักษิณ เข้าร่วมประชุมด้วย
หลังจากใช้เวลาในการประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง นายวิญญูได้สรุปผลการหารือต่อที่ประชุมว่า ภายในเดือนสิงหาคม 2555 จังหวัดพัทลุงจะทำหนังสือขอให้มหาวิทยาลัยทักษิณ ยุติการก่อสร้างวิทยาลัยภูมิปัญญาชุมชน ในที่ดินสาธารณะทุ่งสระ เดือนกันยายน 2555 จังหวัดพัทลุงจะเจรจากับมหาวิทยาลัยทักษิณ ขอให้ยุติการก่อสร้าง และเดือนตุลาคม 2555 จังหวัดพัทลุงจะให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพัทลุง ลงรังวัดที่ดินที่มหาวิทยาลัยทักษิณได้ก่อสร้างไปแล้ว
ส่วนในเดือนพฤศจิกายน 2555 ถึงธันวาคม 2555 จะให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพัทลุง ทำหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทยขอให้เพิกถอนการใช้ประโยชน์ในที่ดินสาธารณะทุ่งสระ ของมหาวิทยาลัยทักษิณ ในส่วนที่มหาวิทยาลัยทักษิณยังไม่ดำเนินการก่อสร้าง
“เมื่อกระทรวงมหาดไทยเพิกถอนแล้ว ที่ดินก็จะกลับมาเป็นหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง ตามเดิม ชาวบ้านสามารถขอไปออกโฉนดชุมชนได้ กระทรวงมหาดไทยจะใช้เวลาในการพิจารณาประมาณ 3 เดือน ถ้าขอถอนอนุญาตไม่ได้ให้ชาวบ้านฟ้องศาลปกครอง” นายวิญญูกล่าว
เร่งช่วยชาวบ้าน 14 รายที่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดี
นายวิญญูกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้มอบหมายให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพัทลุง ทำหนังสือส่งถึงมหาวิทยาลัยทักษิณ กรณีที่ชาวบ้านเรียกร้องขอให้ชะลอการก่อสร้าง หรือการดำเนินการใด ๆ ที่จะก่อให้เกิดความขัดแย้ง โดยให้มหาวิทยาลัยทักษิณหยุดดำเนินการก่อสร้างเพิ่มเติม ในปีงบประมาณ 2557ส่วนกรณีขอให้ยุติการดำเนินคดีในชั้นพนักงานสอบสวน 2 ราย คือ นางสายัญ ดำมุสิก และ นายโสภณ ดำมุสิก รวมทั้งให้ความช่วยเหลือชาวบ้าน 8 ราย ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีในชั้นศาล และขอให้ประสานงานไปยังพนักงานอัยการจังหวัดพัทลุง เพื่อชะลอการสั่งฟ้อง หรือสั่งไม่ฟ้องคดีกับชาวบ้านทั้ง 14 ราย ซึ่งเข้าสู่ชั้นพนักงานสอบสวน ชั้นอัยการจังหวัดพัทลุง และศาลจังหวัดพัทลุงตามลำดับ จังหวัดไม่มีอำนาจไปก้าวล่วง
ผู้ว่าฯจวกขอใช้ที่ดินที่หนึ่งแต่กลับไปใช้อีกแห่ง
ส่วนข้อเรียกร้องของชาวบ้านขอให้ยกเลิกมติของคณะกรรมการกำกับการใช้ที่ดินของรัฐ จังหวัดพัทลุง ปี 2551 ที่อนุญาตให้วิทยาลัยภูมิปัญญาชุมชน มหาวิทยาลัยทักษิณ ใช้พื้นที่บ้านใสกลิ้ง 635 ไร่ พร้อมกับมีมติอนุญาตให้วิทยาลัยภูมิปัญญาชุมชน ใช้พื้นที่เฉพาะที่ก่อสร้างอาคารไปแล้วเท่านั้น ความผิดพลาดของมหาวิทยาลัยทักษิณคือ ได้รับอนุญาตให้ใช้ที่ดินไปแล้ว ปล่อยทิ้งร้างไม่ดำเนินการใช้ประโยชน์ แต่กลับไปใช้ที่ดินสาธารณะทุ่งลานโย อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง แทน ขณะที่คณะกรรมการกำกับการใช้ที่ดินของรัฐ จังหวัดพัทลุงก็ไม่ได้ยกเลิกมตินั้น
“ที่ดินของมหาวิทยาลัยทักษิณ ที่สาธารณะทุ่งลานโยมากพอแล้ว ส่วนการก่อสร้างวิทยาลัยภูมิปัญญาชุมชน ที่จะใช้งบประมาณของปีงบประมาณ 2556 เสร็จสิ้นแล้ว เราจะให้ยุติการก่อสร้างวิทยาลัยภูมิปัญญาชุมชน ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2557 เป็นต้นไป” นายวิญญูกล่าว
จังหวัดพัทลุงจะไปเจรจากับมหาวิทยาลัยทักษิณ เพื่อรังวัดการใช้ประโยชน์ใหม่ หลังจากมหาวิทยาลัยทักษิณ หมดปีงบประมาณ 2555 และ 2556 มันเสร็จสิ้นแล้ว โดยให้วิทยาลัยภูมิปัญญาชุมชนใช้พื้นที่ที่ก่อสร้างอาคารแล้วเท่านั้น ถ้าต่างฝ่ายต่างตกลงกันได้เรื่องก็จบ จะรายงานไปยังกระทรวงมหาดไทยขอให้เพิกถอนการอนุญาต หากมหาวิทยาลัยทักษิณไม่ยินยอม เห็นว่าชาวบ้านควรนำเรื่องนี้ฟ้องศาลปกครอง
ชาวบ้านหวั่นม.ทักษิณไม่เชื่อผู้ว่าฯ-ขยายพื้นที่เพิ่ม
นายเอกสิทธิ์ หนองอ่อน ชาวบ้านสมาชิกเครือข่ายรักษ์แผ่นดินทุ่งสระ ต.พนางตุง อ.ควนขนุน กล่าวว่า การก่อสร้างวิทยาลัยภูมิปัญญาชุมชน ซึ่งใช้ปีงบประมาณ 2555 และปีงบประมาณ 2556 แล้วให้ยุติในปีงบประมาณ 2557 จะขัดกับข้อเรียกร้องของชาวบ้าน ให้วิทยาลัยภูมิปัญญาชุมชนใช้พื้นที่ที่ก่อสร้างอาคารแล้วเท่านั้น เกรงว่าในปีงบประมาณ 2555 และปีงบประมาณ 2556 จะมีการก่อสร้างรุกล้ำเพิ่มขึ้น
“จริงๆ แล้ววันนี้ อธิการบดีมหาวิทยาลัยทักษิณก็มา ผู้อำนวยการวิทยาลัยภูมิปัญญาชุมชนก็มา แต่ไม่เข้ามาชี้แจงในที่ประชุมว่า ปีงบประมาณ 2555 และปีงบประมาณ 2556 ของมหาวิทยาลัยทักษิณ กินพื้นที่ตรงไหนอีก น่าจะให้วิทยาลัยภูมิปัญญาชุมชนใช้พื้นที่ที่ก่อสร้างอาคารแล้วเท่านั้น ตามความเห็นของผู้ว่าฯพัทลุง ถ้าใช้เงินปีงบประมาณ 2555 และปีงบประมาณ 2556 จะลุกลามทำให้ชาวบ้านมีความเดือดร้อนเพิ่มขึ้น” นายเอกสิทธิ์กล่าว
นายวิญญูกล่าวว่า ถ้าชาวบ้านเกรงมหาวิทยาลัยทักษิณ จะขยายพื้นที่ก่อสร้างในปีงบประมาณ 2555 และปีงบประมาณ 2556 ให้ชาวบ้านเจรจากับมหาวิทยาลัยทักษิณเอง เพราะมหาวิทยาลัยทักษิณตั้งงบประมาณไปแล้ว ก็ต้องก่อสร้างตามที่กำหนดไว้ตามปีงบประมาณ ใครไปขัดขวางก็มีความผิด อีกทั้งกระทรวงมหาดไทยอนุญาตใช้พื้นที่ที่สาธารณะประโยชน์ทุ่งสระแล้ว
นายเอกสิทธิ์ กล่าวโต้กลับว่า มหาวิทยาลัยทักษิณไม่ขออนุญาตใช้พื้นที่จากกระทรวงมหาดไทยเลย ตนมีเอกสารหลักฐานยืนยัน การขออนุญาตที่สาธารณะหัวป่าหวาย 4,000 ไร่นั้น คนละแปลงกับที่สาธารณะทุ่งสระ 635 ไร่ ที่วิทยาลัยภูมิปัญญาชุมชน มหาวิทยาลัยทักษิณกำลังก่อสร้าง
ที่ดินพัทลุงระบุที่สาธารณะทุ่งสระได้รับอนุญาตแล้ว
ด้วยนายบุญควง พานิชศิลป์ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพัทลุง ชี้แจงว่า พื้นที่ที่กระทรวงมหาดไทยอนุญาตคือที่ดินสาธารณะ 4,000 ไร่ ส่วนรายละเอียดที่คณะกรรมการกำกับการใช้ที่ดินของรัฐ จ.พัทลุง ปี 2551 มีมติอนุญาตให้มหาวิทยาลัยทักษิณใช้ประโยชน์อยู่ตรงไหนตนไม่ทราบรายละเอียด
นายยุทธชัย ทองวัตร ประธานเครือข่ายรักษ์แผ่นดินทุ่งสระ ชี้แจงว่า ที่ดินสาธารณะหัวป่าหวาย 4,000 ไร่ ที่มหาวิทยาลัยทักษิณได้รับอนุญาตให้ใช้ประโยชน์ ถูกกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมคัดค้านไม่ให้ใช้ เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ชุ่มน้ำ ทางมหาวิทยาลัยทักษิณจึงขอใช้พื้นที่ใหม่คือ ที่ดินสาธารณะ 1,500 ไร่ ทางฝั่งตะวันตกของถนนลำปำ–ทะเลน้อย และได้รับอนุญาตจากสภาตำบลพนางตุง ในขณะนั้น ต่อมากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามมาคัดค้านห้ามใช้ประโยชน์อีก เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ชุ่มน้ำ จึงเหลือพื้นที่ฝั่งตะวันออกคือ ที่ดินสาธารณะทุ่งสระ 635 ไร่ ตนยืนยันว่า ที่ดิน 4,000 ไร่ อยู่ริมทะเลน้อย ไม่ใช่ที่ดินสาธารณะทุ่งสระ 635 ไร่
นายบุญควงชี้แจงว่า มติของคณะกรรมการกำกับการใช้ที่ดินของรัฐ จ.พัทลุง ปี 2551 ให้สร้างมหาวิทยาลัยทักษิณ แต่การขอใช้ที่ดินสาธารณะ 1,500 ไร่ ต้องไปสำรวจรังวัดใหม่ว่า รวมที่ดินสาธารณะทุ่งสระ 635 ไร่ ด้วยหรือไม่ ขณะนี้มหาวิทยาลัยทักษิณได้รับอนุญาตให้ใช้ที่ดินสาธารณะสาธารณะทุ่งสระ 635 ไร่ จากกระทรวงมหาดไทยแล้ว
ชาวบ้านโวยจังหวัดอืดไม่ประสานมหาวิทยาลัยแก้ปัญหา
นายยุทธชัยกล่าวต่อว่า เมื่อปี 2554 มีการประชุมร่วมกันระหว่างนายนิพนธ์ บุญญภัทโร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย) ตัวแทนมหาวิทยาลัยทักษิณ ตัวแทนชาวบ้าน และผู้ว่าฯพัทลุง ในขณะนั้น หลังจากการประชุมนายนิพนธ์ได้ทำบันทึกรายงานและข้อเสนอต่อนายสาทิตย์ว่า ได้ให้มหาวิทยาลัยถอนคดีที่มหาวิทยาลัยทักษิณฟ้องชาวบ้าน โดยให้ผู้ว่าฯพัทลุง ปรึกษากับมหาวิทยาลัยทักษิณ และอัยการจังหวัดพัทลุง
“นอกจากนี้ยังให้จังหวัดพัทลุงร่วมกับมหาวิทยาลัยทักษิณ จัดทำแผนผังพื้นที่ให้ชัดเจน เพื่อเสนอให้ถอนสภาพที่ดินสาธารณะประโยชน์ทุ่งสระ กับกระทรวงมหาดไทย ขอให้มหาวิทยาลัยทักษิณดำเนินการก่อสร้างเฉพาะในพื้นที่ที่ได้ก่อสร้างไปแล้วเท่านั้น และให้คืนพื้นที่ส่วนที่เหลือให้ชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์ โดยให้สภามหาวิทยาลัยทักษิณรับข้อเสนอไปพิจารณา และให้จังหวัดพัทลุงดำเนินการไปตามนโยบายรัฐบาล แต่จนถึงขณะนี้จังหวัดพัทลุง ยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ” นายยุทธชัยกล่าว
นายวิญญูกล่าวว่า เอกสารดังกล่าวเป็นเพียงบันทึกข้อเสนอต่อรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่บันทึกการประชุม ลงนามความร่วมมือ (MOU) กับมหาวิทยาลัยทักษิณ แต่อย่างน้อยก็เป็นเอกสารเบื้องต้น ให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพัทลุงทำข้อเสนอต่อกรมที่ดิน ขอให้มหาวิทยาลัยทักษิณยุติการดำเนินการหลังสิ้นปีงบประมาณ 2555 นี้เลย ส่วนคดีก็ให้ดำเนินไปตามกระบวนการทางกฎหมาย จังหวัดไม่สามารถไปก้าวล่วงกระบวนการยุติธรรมได้ อย่างไรก็ตาม นายอำเภอควนขนุนยังสามารถเรียกสำนวนการสอบสวนมาตรวจสอบ หรือเรียกพนักงานสอบสวนมาชี้แจง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมได้
จวกม.ทักษิณเมินทุกหน่วยที่จะเข้ามาแก้ปัญหา
ด้านนายยุทธชัยกล่าวว่า ที่ผ่านมามหาวิทยาลัยทักษิณไม่เคยให้ความสนใจหนังสือของหน่วยงานต่างๆ เลย แม้แต่มติของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ปี 2552 ที่ให้ขอใช้ที่ดินสาธารณะทุ่งสระกับกระทรวงมหาดไทย ตนเพิ่งทราบล่าสุดจากนายกเทศบาลตำบลพนางตุง ว่ามหาวิทยาลัยทักษิณเพิ่งขออนุญาตขอใช้ประโยชน์ที่ดินสาธารณะทุ่งสระจากกระทรวงมหาดไทย ตนและชาวบ้านเห็นว่า ผู้ว่าฯ พัทลุง ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับการใช้ที่ดินของรัฐ จังหวัดพัทลุง สามารถแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้านได้
ขณะที่นายวิญญูกล่าวว่า ตนไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่ดินสาธารณะทุ่งสระได้ เนื่องจากเป็นที่ดิน นสล. อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงมหาดไทย ขณะนี้กระทรวงมหาดไทยได้อนุญาตให้มหาวิทยาลัยทักษิณใช้ประโยชน์ไปแล้ว ตนอยากแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้าน แต่ทำไม่ได้ เพราะต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย
“ก่อนมาประชุมได้เจรจากับอธิการบดีมหาวิทยาลัยทักษิณ แต่ไม่ยอมมาประชุม อธิการบดีมหาวิทยาลัยทักษิณบอกว่า ให้นำผลสรุปที่ของที่ประชุมครั้งนี้ ไปคุยกับมหาวิทยาลัยทักษิณ ตอนนี้จังหวัดพัทลุงต้องรีบออกหนังสือให้มหาวิทยาลัยทักษิณยุติการก่อสร้าง ส่วนมหาวิทยาลัยทักษิณจะพิจารณาอย่างไรก็เป็นสิทธิของมหาวิทยาลัย ผมบอกให้อธิการบดีมหาวิทยาลัยทักษิณไปสร้างต่อที่มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง แต่มหาวิทยาลัยทักษิณอ้างว่า ต้องขอมติสภามหาวิทยาทักษิณก่อน และยังมีข้ออ้างอีกหลายเรื่อง” ผู้ว่าฯ พัทลุงกล่าว
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ