“จู๋” ไทยอยู่ตรงไหน?

www.whereisthailand.info 14 ก.พ. 2555


 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ข้อถกเถียงว่าด้วยขนาดของจู๋ (ของคนอื่น) เป็นปัญหาที่ยืดเยื้อไม่รู้จบของมนุษยชาติ โดยเฉพาะเพศชาย มีการศึกษาจำนวนมากพยายามวัดขนาดของชาติเปรียบเทียบกันว่าชาติใดยาวที่สุด ให้ผลเป็นตัวอย่างเช่นชุดข้อมูลที่นำมาเสนอในที่นี้[1] ซึ่งเปรียบเทียบขนาดเฉลี่ยขององคชาตของประชากรประเทศต่างๆ อันมีขนาดแตกต่างกันไปตามชาติพันธุ์ ตั้งแต่เฉลี่ยยาวมาก เช่น

 

คองโก

17.93 เซนติเมตร

เอกวาดอร์

17.77 เซนติเมตร

กาน่า

17.31 เซนติเมตร

 

 

และลดหลั่นกันไป สำหรับประเทศในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกไกลเช่นไทย มีความยาวเฉลี่ยดังนี้

 

 

อินโดนิเซีย

11.67 เซนติเมตร

สิงคโปร์

11.53 เซนติเมตร

มาเลเซีย

11.49 เซนติเมตร

เวียดนาม

11.47 เซนติเมตร

ญี่ปุ่น

10.92 เซนติเมตร

จีน

10.89 เซนติเมตร

ฟิลิปปินส์

10.85 เซนติเมตร

อินเดีย

10.24 เซนติเมตร

ไทย

10.16 เซนติเมตร

กัมพูชา

10.04 เซนติเมตร

เกาหลีใต้

9.66 เซนติเมตร

 

แต่เช่นเดียวกับข้อมูลใดๆ เราควรตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะในกรณีนี้ซึ่งให้กลุ่มตัวอย่างวัดความยาวองคชาตและรายงานเข้ามาด้วยตัวเอง นั่นคือข้อมูลนี้อาจจะไม่ได้วัดว่าแต่ละชาติพันธุ์มีความยาวองคชาตเท่าใด แต่อาจชี้ว่าเจ้าขององคชาตมีความซื่อสัตย์ในการเก็บข้อมูลมากเพียงใด (จากการศึกษาพบว่า ข้อมูลที่ได้จากการเก็บข้อมูลด้วยตนเองจะมีค่ามากกว่าการศึกษาที่มีการใช้ผู้เก็บข้อมูลเสมอ)

 

ความยาวองคชาตเป็นเรื่องที่มีการศึกษากันมาก แต่กลับได้ข้อสรุปน้อยมาก เพราะมีปัญหาหลายประการ อาทิ ความยาวองคชาตสามารถนิยามได้หลายวิธี เช่น ความยาวขณะอ่อนตัว (flaccid length) หรือขณะแข็งตัว (erected length) ในบางกรณีบุรุษที่มีความยาว “ในห้องน้ำชาย” สั้นกว่ากลับมีความยาวขณะใช้งานที่พอๆกัน (พวกซุ่ม)

 

โดยมากการวัดขนาดจะวัดขณะแข็งตัว รวมทั้งชุดข้อมูลที่นำมาแสดงในที่นี้ด้วย แต่การวัดในขณะแข็งตัวก็ยังมีปัญหาในทางนิยาม(และทางปฏิบัติ) เพราะจะวัดจากส่วนใดถึงส่วนใด หากผู้วัดแต่ละคนวัดกันคนละจุดก็ย่อมได้ความยาวต่างกัน ปัญหาข้อหลังนี้แก้ได้ในการศึกษาโดยการขออาสามัครมาให้คณะวิจัยวัดอย่างเป็นระบบ แต่ก็มีปัญหาอีกว่าผู้ที่ิจู๋สั้นอาจจะอายและไม่อาสามาให้คณะวิจัยวัดความยาว ซึ่งจะทำให้กลุ่มประชากรที่สำรวจมีองคชาตยาวกว่าที่เป็นจริง หรือเรียกว่า selection bias เช่น ชาวเอเชีย 6″ อาจมีความเชื่อว่า “ไม่ต้องอายใครแล้ว” ในขณะที่ชาวคองโก 6″ อาจจะไม่มีความมั่นใจพอจะให้ใครวัด

 

ความคลาดเคลื่อนที่อาจเกิดจากปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมาทำให้การศึกษาองคชาตให้ผลขัดแย้งกันอยู่บ่อยครั้ง เช่นในตัวอย่างข้อมูลนี้พบความแตกต่างระหว่าง “ชาติ” และ “พันธุ์” มาก ในขณะที่บางการศึกษา[2]พบว่าความแตกต่างระหว่างชนชาติไม่ได้มากไปกว่าค่าความคลาดเคลื่อนทางสถิติเลย

 

ด้วยเหตุนี้ แอดมินขอย้ำอีกครั้งว่าความน่าเชื่อถือของข้อมูลเรื่องจู๋ๆ เช่นเดียวกับข้อมูลอื่นใด ควรพิจารณาจากหลายๆ แหล่งประกอบกัน รวมทั้งใช้วิจารณญาณของท่านผู้อ่านด้วย

 

ท้ายที่สุด เป็นที่สังเกตว่าปัญหาความยาวองคชาตนั้นเป็นเรื่องที่มีผู้สนใจใคร่รู้มากเสียจน Wikipedia มีบทความเรื่องนี้โดยเฉพาะยาวกว่าสิบหน้ากระดาษ A4 [3] และหลายท่านอาจไม่ทราบว่ามนุษยชาติได้ลงทุนวิจัยด้านการขยายขนาดองคชาต (รวมทั้งขนาดหน้าอกในกรณีของสตรี) มากกว่าการวิจัยด้านโรคอัลไซเมอร์ถึง 5 เท่า [4]

 

บางทีเรื่องนี้จึงอาจจะต้องยึดภาษิตไทยที่ว่า “จงพอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่”หรือกล่าวให้ถูก คือ “จงภูมิใจในสิ่งที่ตนมีอยู่”

 

ที่มา http://www.whereisthailand.info/2012/01/penis-size/

 

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ

  

Like this article:
Social share: