เมื่อช่วงเช้าวันที่ 19 พฤศจิกายน นายบารัค โอบาม่า ประธานาธิบดี ประเทศสหรัฐอเมริกา ออกเดินทางจากโรงแรมโฟร์ซีซั่น ไปยังท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อขึ้นเครื่องบินแอร์ฟอร์ชวัน เดินทางไปเยือนประเทศพม่าอย่างเป็นทางการ โดยมีนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ศึกษาธิการ รวมทั้งเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย เดินทางไปส่งที่สนามบิน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปีที่ประธานาธิบดีประเทศสหรัฐอเมริกา เดินทางไปเยือนพม่า

ทั้งนี้นายบารัค มีกำหนดการอยู่ในพม่าประมาณ 6 ชั่วโมง โดยจะเข้าหารือกับพล.อ.เต็ง เส่งประธานาธิบดีของพม่า และนางอองซาน ซูจี ผู้นำฝ่ายค้านของพม่า หลังจากนั้นประธานาธิบดีประเทศสหรัฐอเมริกา จะเดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 21 ที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-21 พฤศจิกายน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเดินทางเยือนครั้งประวัติศาสตร์นี้ มีเป้าหมายที่จะสนับสนุนให้รัฐบาลพม่า เดินหน้าปฏิรูประบอบประชาธิปไตย นอกจากนี้โอบามายังจะให้คำมั่นสัญญาว่า จะให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่พม่ามูลค่า 170 ล้านดอลลาร์ เพื่อใช้ในการพัฒนาประเทศ

เจ้าหน้าที่คณะบริหารของนายโอบามาเปิดเผยว่า นอกเหนือจากความช่วยเหลือด้านการเงินมูลค่าดังกล่าวแล้ว โอบามาจะประกาศฟื้นฟูปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือแก่พม่า โดยในโอกาสนี้นายโอบามาจะจะเข้าพบกับพล.อ.เต็ง เส่ง ประธานาธิบดีพม่าที่ทำเนียบรัฐบาล และจะพบกับนางออง ซาน ซูจี ผู้นำพรรคฝ่ายค้านที่บ้านพัก

นอกจากนี้นายโอบามาจะเดินทางไปกล่าวสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยย่างกุ้ง ซึ่งเป็นศูนย์รวมความเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1980 และจากนั้นจะเดินทางไปเข้าร่วมประชุมระดับภูมิภาคที่พนมเปญ

นายโอบามาเปิดเผยในระหว่างการเดินทางเยือนประเทศไทยเมื่อวานนี้ว่า การเดินทางเยือนพม่าในวันนี้ไม่ใช่เป็นการรับรองรัฐบาลทหารพม่า แต่เป็นการสนับสนุนให้พม่ามีความคืบหน้าในการปฏิรูประบอบประชาธิปไตย พร้อมกับกล่าวว่า การที่นางออง ซาน ซูจี ได้รับเลือกตั้งให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และการที่รัฐบาลพม่ายอมปล่อยตัวนักโทษหลายร้อยคนนั้น ถือเป็นความมุ่งมั่นของรัฐบาลพม่าที่จะดำเนินการปฏิรูปการเมือง

ขอบคุณภาพจาก AFP