เมื่อวันที่ 20 พ.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.กาญจนบุรี ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่มีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เห็นชอบแผนยุทธศาสตร์อนามัยสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2555-2559 ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำแผนยุทธศาสตร์อนามัยสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับที่ 2 พ.ศ.2555-2559 ไปสู่การปฏิบัติต่อไป ซึ่งแผนยุทธศาสตร์อนามัยสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับที่ 2 มีสาระสำคัญโดยสรุปคือ
1.กรอบแนวคิดของแผนยุทธศาสตร์ฯ
1.1 มุ่งคุ้มครองสุขภาพของประชาชนจากปัจจัยเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมบนพื้นที่ฐานของการบูรณาการการดำเนินงานของหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ทั้งในเชิงพื้นที่ ประเด็นและกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะประชากรกลุ่มเปราะบาง
1.2 ให้ความสำคัญกับการดำเนินงานอนามัยสิ่งแวดล้อม 7 ด้าน คือ 1.คุณภาพอากาศ 2.น้ำ การสุขาภิบาล และสุขอนามัย 3.ขยะมูลฝอยและของเสียอันตราย 4.สารเคมีเป็นพิษและสารอันตราย 5.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 6.การจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมในภาวะฉุกเฉินและสาธารณภัย และ 7.การประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ
1.3 มุ่งส่งเสริมบทบาทองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในการดำเนินงานอนามัยสิ่งแวดล้อมที่สอดคล้องกับสภาพปัญหาของพื้นที่ และทันต่อสถานการณ์ โดยการสนับสนุนของหน่วยงานทุกภาคส่วน และการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน
1.4 พัฒนากลไกการจัดการ กฎหมาย กฎระเบียบ มาตรฐานและมาตรการต่างๆ ให้สามารถรองรับการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพพัฒนาศักยภาพบุคลากร ระบบฐานข้อมูลที่เชื่อมโยงและเข้าถึงได้ง่าย พัฒนาเทคโนโลยีและองค์ความรู้ที่เหมาะสม และดำเนินงานโครงการป้องกันและลดความเสี่ยงจากปัญหาอนามัยสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ
2.วิสัยทัศน์ : มุ่งสู่การพัฒนาอนามัยสิ่งแวดล้อมที่สอดคล้องกับบริบทของสังคมไทยและประชาคมโลก เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างเสมอภาคและเป็นธรรม ด้วยการบูรณาการทุกภาคส่วน
3.วัตถุประสงค์ : เพื่อลดปัญหาและผลกระทบด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อขีดความสามารถในการจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อม และสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่รับผิดชอบ ด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ จากปัญหาอนามัยสิ่งแวดล้อมที่สำคัญ
4.เป้าหมายหลัก : ความเจ็บป่วยอันอาจเนื่องมาจากปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมลดลง
5.ยุทธศาสตร์และแนวทางการดำเนินงาน
5.1 ยุทธศาสตร์ที่ 1 การพัฒนาระบบบริหารจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อม โดยครอบคลุมทั้งภาครัฐทุกระดับและภาคเอกชนให้สอดคล้องกับบริบทปัญหาและสถานการณ์ พัฒนาบุคลากรด้านงานอนามัยสิ่งแวดล้อม จัดทำระบบและการเชื่อมโยงฐานข้อมูลสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ พัฒนากลกางด้านกฎหมาย กฎระเบียบ และมาตรการต่างๆ เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพ
5.2 ยุทธศาสตร์ที่ 2 การป้องกันและลดความเสี่ยงจากปัจจัยด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม โดยเร่งรัดการดำเนินงานโครงการที่เกี่ยวข้องในการป้องกัน และลดความเสี่ยง จากปัญหาอนามัยสิ่งแวดล้อม ที่สอดคล้องกับสภาพปัญหาและพื้นที่ ตลอดจนข้อตกลงตามนัยแห่งบทบัญญัติของกฎหมาย และพันธกรณีระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง
5.3 ยุทธศาสตร์ที่ 3 การเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาคีเครือข่าย และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน และประชาชนในการจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อม โดยระดมศักยภาพ และการมีส่วนร่วม จากทุกภาคส่วน ร่วมคิด ร่วมสร้างสร้างสรรค์งานอนามัยสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการบูรณาการและเสริมพลังระหว่างภาคีเครือข่าย และขับเคลื่อนผ่านสื่อต่างๆ เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องและสร้างจิตสำนึกสาธารณะ
5.4 ยุทธศาสตร์ที่ 4 การส่งเสริมบทบาทของอปท. ในการจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อม โดยส่งเสริมบทบาทของ อปท. ภายใต้หลักคิดการกระจายอำนาจ เสริมสร้างศักยภาพบุคลากร สนับสนุนและผลักดันการพัฒนาระบบงานอนามัยสิ่งแวดล้อมของท้องถิ่นให้เชื่อมโยงกับส่วนภูมิภาคและส่วนกลางอย่างมีประสิทธิภาพ
5.5 ยุทธศาสตร์ที่ 5 การพัฒนาองค์ความรู้และเทคโนโลยีด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม โดยให้เหมาะสมกับการดำเนินงานอนามัยสิ่งแวดล้อมในสถานการณ์ปัจจุบัน สร้างฐานการเรียนรู้ที่เชื่อมโยง แลกเปลี่ยนและเรียนรู้ร่วมกันอย่างต่อเนื่องพัฒนา และถ่ายทอดนวัตกรรมองค์ความรู้และเทคโนโลยี รวมทั้งพัฒนาระบบให้บริการทางวิชาการ เพื่อการเข้าถึงองค์ความรู้และเทคโนโลยีได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ
6.การแปลงแผนไปสู่การปฏิบัติและการติดตามประเมินผล
6.1 การแปลงแผนไปสู่การปฏิบัติ สธ. และทส. เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักในการปรับปรุงแผนไปสู่การปฏิบัติ โดยดำเนินการบูรณาการการดำเนินงานกับทุกภาคส่วน สร้างความรู้ความเข้าใจให้กับภาคีการพัฒนา เสริมสร้างศักยภาพบุคลากรในการดำเนินงานด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม ฯลฯ
6.2 การติดตามประเมินผล คณะกรรมการดำเนินงานอนามัยสิ่งแวดล้อม ติดตามและประเมินผลการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ฯ และรายงานการดำเนินงาน ปัญหาอุปสรรค และข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการอนามัยสิ่งแวดล้อมและคณะรัฐมนตรี
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ