แม้จะทราบกันดีอยู่แล้วถึงผลเสียของการพนันบอล ที่ทำให้หลายคนถึงกับต้องล้มละลาย บางรายเครียดจนคิดสั้นฆ่าตัวตายก็มี แต่ปัจจุบันกลับพบว่า มีนักพนันหน้าใหม่ๆ พยายามแสวงหาหนทางเพื่อเข้าสู่วงการพนันบอลกันอยู่อย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นการพนันสามารถเล่นกันได้ทุกวัน หาได้ง่าย มีอัตราเสี่ยงแบบ 50 : 50 ซึ่งเป็นแรงจูงใจที่นักพนันเหล่านี้บอกว่า มีโอกาสที่จะได้เงินมากกว่าการซื้อหวย หรือสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่อยู่ในอัตรา 1 ใน 100 และปัจจุบันรูปแบบของการพนันบอลที่พยายามสร้างสรรค์ให้มีความหลากหลายมากขึ้น เป็นอีกปัจจัยสนับสนุนให้มีการแทงบอลกันอย่างแพร่หลาย
พนันบอลได้เสียมีหลักแค่ 2 รูปแบบ
ดร.วิษณุ วงศ์สินศิริกุล อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต หนึ่งในคณะวิจัยด้านการพนัน ให้สัมภาษณ์ศูนย์ข่าว TCIJ ว่า ปัจจุบันการเล่นพนันบอลในประเทศไทยมีหลายรูปแบบ เช่น การทายผลการแข่งขัน การทายคนทำประตูแรก ทายสกอร์สูง-ต่ำ ทายผลครึ่งแรก ครึ่งหลัง ทายคนทำประตูสุดท้าย และอื่นๆ แล้วแต่เจ้ามือซึ่งส่วนใหญ่เป็นเว็บไซต์ออนไลน์จะคิดขึ้น โดยนักพนันสามารถเลือกเล่นได้ตามชอบ โดยให้เห็นผลว่า เป็นการเพิ่มอรรถรสในการดูฟุตบอล รวมถึงการเชียร์ทีมโปรดในดวงใจ
แต่สำหรับในประเทศไทยแล้ว การเลือกเล่นพนันในรูปแบบที่หลากหลายนี้ อาจสร้างความสับสนและยุ่งยาก โดยเฉพาะคนที่ไม่ได้ดูฟุตบอลอย่างลึกซึ้ง เพียงแต่ต้องการดูเพื่อเล่นการพนันเท่านั้น ความนิยมในการเล่นในประเทศไทยจึงตกผลึกอยู่ 2 รูปแบบหลักๆ คือ บอลเต็ง หรือ บอลเดี่ยว และ บอลสเต็ป หรือบอลชุด ซึ่งหากจะอธิบายเพื่อเข้าใจง่าย
สำหรับ “การเล่นบอลเต็ง” หรือ บอลเดี่ยว เป็นการเลือกเล่นพนันบอลแบบเป็นคู่ คู่ละเท่าไหร่ก็ว่ากันไป ได้หรือเสียก็คิดเป็นคู่ตามที่ผู้เล่นพนันจะเลือกเล่น การเล่นพนันชนิดนี้เอง ที่เป็นการพนันที่มักจะสร้างปัญหาให้กับนักพนันในประเทศไทยมากที่สุด เพราะส่วนใหญ่จะต้องใช้เงินจำนวนมากในการเล่นพนัน ถ้าทีมที่คนเล่นทายเกิดชนะก็จะได้เงินมาก คนเล่นฮึกเหิม เพราะกำเงินได้ครั้งละมากๆ แต่ถ้าหากทีมที่ตนเองเล่นเกิดแพ้ ก็ต้องสลดเหมือนกัน บางรายเริ่มต้นแทงในราคาที่ไม่สูงมากนัก แต่พอได้ก็เริ่มมีกำลังใจ จึงเล่นเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดเมื่อเสียมากไม่มีเงินจ่าย เมื่อถูกกดดันจากเจ้ามือเข้ามากๆ อาจจะถึงขั้นเข้าสู่วงการอาชญากรรมร้ายแรง ตามที่เป็นข่าวกันอยู่ทั่วไป
ส่วน “การเล่นบอลสเต็ป” หรือ บอลชุด คือเลือกเล่นเป็นชุดตามโพยที่โต๊ะแต่ละแห่งกำหนดไว้ ส่วนมากจะกำหนดไว้ว่าต้องแทง 3 คู่ขึ้นไป ทุกทีมที่เลือกไว้จะต้องไม่มีทีมใดแพ้หรือเสียเลย เช่น มีฟุตบอลเตะกัน 10 คู่ เลือกทีมที่ชนะมา 4 คู่ ผลที่ออกมาทีมที่เลือกไว้ต้องไม่มีทีมใดที่แพ้เลย คนแทงจึงจะได้เงิน แล้วจึงนำไปคิดกับราคาต่อรองอีกทีหนึ่ง ซึ่งการเล่นในรูปแบบนี้กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย และกำลังแพร่กระจายไปในกลุ่มนักพนันทุกระดับ มีการคาดการณ์กันว่าหากการพนันบอลชนิดนี้ไม่ได้รับการแก้ไขในอนาคตก็มีความเป็นไปได้ที่จะเข้ามาครองอันดับการพนันยอดนิยมตีคู่ไปกับการเล่นหวยของคนไทยเลยทีเดียว
ราคาต่อรองยากจะเข้าใจ-แต่ไม่ยากถ้าจะเล่น
นอกจากรูปแบบการเล่นที่นักพนันจะต้องทำความเข้าใจ และศึกษาเพื่อเพิ่มโอกาสในการพนันบอลของตนให้เพิ่มขึ้นแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดอีกประการหนึ่งคงหนีไม่พ้นคือ การทำความเข้าใจเรื่องราคาต่อรองฟุตบอล ที่มักจะเห็นได้ทั่วไปในหนังสือเชียร์บอล หรือหนังสือเกี่ยวกับฟุตบอลหลายแห่ง ที่จะนำมาตีพิมพ์ไว้ให้นักพนันได้ใช้เป็นข้อมูลในการวิเคราะห์ตามหลักการของตัวเอง หรือหากลองติดตามรายการโทรทัศน์ที่เกี่ยวกับฟุตบอลก็อาจจะเห็นการนำตัวเลขเหล่านี้มาเสนอกันอย่างโจ่งแจ้ง แบบไม่กลัวเซ็นเซอร์กันเลยทีเดียว
ราคาต่อรองฟุตบอล เป็นราคาที่โต๊ะพนันบอลจะตั้งราคาทีมที่มีคุณสมบัติดีกว่า หรือ เรียกกันง่ายๆ ว่าเก่งกว่า ด้วยปัจจัยต่างๆ เช่น ตัวผู้เล่น ฟอร์ม สภาพอากาศ สิ่งแวดล้อม สนาม ฯลฯ เพื่อต่อให้กับทีมรอง ซึ่งแต่ละคู่จะต่อรองกันเท่าไหร่บ้างนั้น ก็แล้วแต่ว่าทีมไหนเจอกับทีมไหน โดยราคาบอลจะถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน คือ 1.การต่อบอลแบบต่อลูก เช่น ป.ป., ครึ่งลูก, ครึ่งควบลูก, เสมอ เป็นต้น และ การต่อแบบที่เรียกว่า การต่อเงิน (หักค่าน้ำ หรือค่าบริการของโต๊ะ) เช่น –10, +10, -5 เป็นต้น
หากแยกราคาต่อรองทั้งสองชนิดออกมา จะพบว่า ราคาต่อบอลแบบต่อลูก จะถูกแบบออกไปได้อีก 3 แบบ คือ 1.เสมอ คือไม่มีใครต่อให้ใคร ผลเตะออกมาอย่างไรก็คิดได้เสียกันไปตามนั้นเลย แบบที่ 2 คือ แบบเต็ม เช่น ครึ่งลูก 1 ลูก 2 ลูก ผลการแข่งขันออกมาอย่างไรก็ต้องเอาราคาที่ต่อ ไปรวมด้วย จึงคำนวณออกมาว่า ฝ่ายใดแต้มมากกว่า จึงจะเป็นฝ่ายชนะ เช่น ทีมลิเวอร์พูล ต่อครึ่งลูกให้ทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ผลออกมาเสมอ 1-1 แต่ลิเวอร์พูลต่อให้ครึ่งลูก ก็จะกลายเป็น 1-1.5 ฝ่ายที่เล่นแมนยูฯไว้ ก็จะชนะ เพราะลิเวอร์พูลต่อไว้ให้ครึ่งลูก หรือ ทีมเชลซีต่อหนึ่งลูกให้ทีมลิเวอร์พูล ผลออกมาเชลซีชนะ 2-1 แต่เชลซี ต่อให้ 1 ลูก ก็จะกลายเป็น 2-2 สุดท้ายคือเจ๊ากัน หรือเสมอกัน ไม่มีใครได้ใครเสีย อย่างนี้เป็นต้น
ส่วนแบบสุดท้ายคือ “แบบควบ” แบบนี้อาจจะทำให้คนศึกษาใหม่สับสนได้เล็กน้อย แต่คงไม่ยากต่อการทำความเข้าใจหากมีใจรักจะเป็นนักพนันจริงๆ เช่น ครึ่งควบลูก ลูกควบลูกครึ่ง, ป.ป. ย่อมาจาก แปะปั๊ว-เสมอควบครึ่ง ซึ่งราคาต่อรองแบบนี้เหมือนกับนำเงินมาแบ่งครึ่งหนึ่งแล้วแทงสองราคา เช่น ทีมลิเวอร์พูลต่อ ครึ่งควบลูกให้ทีมแมนยูฯ ถ้าหากเล่นลิเวอร์พูลที่ 100 บาท จะเหมือนกับได้เล่นที่ราคาครึ่งลูกที่ 50 บาท ถ้าผลออกมาลิเวอร์พูลชนะ 1-0 ก็จะได้ในส่วนที่เล่นครึ่งลูก 50 บาท และในส่วนอีก 1 ลูกจะเจ๊า นั่นคือนักพนันจะได้ครึ่งเดียว แต่ถ้ารองแมนยู เงินจำนวน 50 บาทแรกที่รองในราคาครึ่งลูกจะเสีย เพราะลิเวอร์พูลชนะ แต่อีกส่วนที่รองในราคา 1 ลูกจะนับว่าเป็นเจ๊าหรือเสมอ นั่นคือจะเสียในราคาครึ่งเดียว แต่ถ้าผลออกมาเสมอฝ่ายที่เล่นต่อ ก็จะเสียทั้งสองส่วนคือเสียเต็มราคา ฝ่ายที่เล่นทีมรองก็จะได้เต็มราคา แต่ถ้าชนะมากกว่า 1 ลูก เช่น คะแนนชนะเป็น 2-0 ฝ่ายที่เล่นทีมต่อก็จะได้เต็ม แต่ฝ่ายที่เล่นรองก็จะเสียเต็มเช่นเดียวกัน
คนที่ไม่ได้เล่นพนันเมื่ออ่านมาถึงตรงนี้คงจะเกิดอาการงงงวยพอสมควร เพราะหากไม่ใช่นักพนันที่เชี่ยวชาญอย่างแท้จริงแล้ว อาจจะต้องใช้เวลาในการเทียบเคียงตามหลักคณิตศาสตร์อยู่พอสมควร แต่ สำหรับนักพนันแล้วล่ะก็ ถือว่าเป็นเรื่องพื้นฐาน
ราคาต่อรองแบบต่อเงิน (ค่าน้ำ)
ราคาต่อรองแบบต่อเงินหรือที่ รู้จักกันทั่วไปในวงการพนันบอลว่า “ค่าน้ำ” ซึ่งความเป็นจริงคือ ค่าบริการที่นักพนันจะต้องถูกหัก เพื่อจ่ายให้กับโต๊ะพนันหากแทงชนะขึ้นมา แต่ถ้าหากแทงเสียก็จะต้องเสียเต็มเช่นกัน ซึ่งราคาต่อรองแบบต่อเงินนี้ จะถูกกำหนดไว้ในท้ายของราคาต่อลูกด้วย เช่น ครึ่งลูกลบสิบ (ลบสิบคือราคาต่อเงิน) ซึ่งแบ่งได้ 4 แบบ ได้แก่ 1.เสมอ หรือ ขาว ซึ่งต้องบอกด้วยว่าเสมอทีมใด เช่น เสมอทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด หรือ แมนยูฯต่อขาว ใครเล่นแมนยู ถ้าได้จะคิดเงินในอัตราแทง 5 ได้ 4 ส่วนทีมรองจะได้เต็ม แทง 5 ได้ 5 ไปเลย แบบนี้มักจะใช้ในกรณีที่ต่อลูกแล้วทีมต่อยังได้เปรียบอยู่ แต่ไม่มากนัก
แบบที่สอง ได้แก่ -10 (ลบสิบ) ทีมที่ต่อและรองจะคิดเงินในอัตราส่วนเท่ากันคือ แทง 5 ได้ 4.5 หรือแทง 10 ได้ 9 ใช้ในกรณีที่ต่อลูกแล้วสองทีมไม่ค่อยได้เปรียบเสียเปรียบกันมากนัก
ส่วนแบบที่ 3 ได้แก่ +10 (บวกสิบ) ทีมต่อจะคิดเงินในอัตราส่วนแทง 11 ได้ 8 ส่วนทีมรองจะคิดเงินในอัตราส่วนแทง 9 ได้ 10 เช่น รองทีมลิเวอร์พูลในราคา +10 ไว้ 100 บาท แต่เวลาเสียจะเสียเพียง 90 บาท ใช้ในกรณีที่สองทีมฟอร์มต่างกันมากๆ ต่อลูกแล้วก็ยังต่างกันมากอยู่ และ แบบที่ 4 คือ -5 (ลบห้า) ฝ่ายต่อจะคิดในอัตราส่วนแทง 5 ได้ 5 ฝ่ายรองจะคิดในอัตราส่วนแทง 5 ได้ 4 ใช้ในกรณีที่ต่อลูกแล้วฝ่ายรองดูได้เปรียบนิดๆ
ทั้งหมดเป็นราคาต่อรองต่างๆ ที่จะถูกกำหนดเป็นมาตรฐานโดยบริษัทพนันขนาดใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทในประเทศอังกฤษ ที่เปิดให้บริการอย่างถูกกฎหมาย ที่เป็นที่รู้จักในระดับชาติปัจจุบัน อาทิ แล็ดโบรคส์ (Ladbrokes), วิลเลี่ยม ฮิลล์ (William Hill) และ โครัล (Coral) เป็นต้น ในขณะที่ระดับภูมิภาค หรือระดับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะมีบริษัทการพนันในประเทศมาเลเซีย เป็นผู้กำหนดราคาและอัตราต่อรองแล้วนี้ ซึ่งจะเป็นไปตามข้อกำหนดสากลที่ใช้กันทั่วโลก เจ้ามือหรือโต๊ะบอลไม่มีสิทธิ์กำหนด เพราะถึงจะกำหนดเองก็มักจะไม่ได้รับความนิยมจากลูกค้า และอาจจะเสียเวลาทำความเข้าใจมากไป ทำให้เสียเวลาโดยไม่จำเป็น
แต่ไม่ว่าจะเป็นการพนันบอลในรูปแบบใด จากข้อมูลสถิติไม่ว่าจากการวิจัยหรือโพลสำรวจความคิดเห็นต่างๆ ก็พบว่า เงินส่วนใหญ่ไม่ได้ตกอยู่ที่นักพนัน หรือ นักเล่นทั่วไปเพราะไม่เคยพบว่ามีใครได้เงินเป็นกอบเป็นกำจากการพนันชนิดนี้ นอกจากเป็นเงินหมุนเวียนได้และเสียอยู่อย่างนี้ แต่ส่วนใหญ่มักจะเสียมากกว่า ทำให้คนที่ได้ล้วนแต่เป็นเจ้ามือตั้งแต่ระดับ เด็กเดินโพย ขึ้นไปยังโต๊ะรับแทงบอลระดับยักษ์ใหญ่ทั้งสิ้น
‘บอลเดี่ยว’ เสี่ยงกว่าแต่ได้มาก
จากการเปิดเผยจากเจ้าของโต๊ะบอลขนาดย่อม ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวกลางรับแทงพนันบอลแบบบอลเดี่ยว จัดยอดส่งโต๊ะบอลใหญ่ รายหนึ่งให้ข้อมูลว่า นอกจากผลการแพ้ชนะแบบต่อลูกแล้ว ปัจจุบันยังมีการเปิดให้แทงแบบสูง-ต่ำ ได้อีกด้วย หมายถึงสกอร์รวมจากทั้ง 2 ทีม มารวมกัน หลังจากการแข่งขันจบ เช่น ทำประตูผลแพ้ชนะกันที่ 3 : 2 เท่ากับ 5 อัตราต่อรอง 2 ลูกครึ่งเท่ากับ สูง (มากกว่า 2 ลูกครึ่ง) รวมทั้งการพนันในรูปแบบอื่นที่แล้วแต่บริษัทพนัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเว็บไซต์พนันออนไลน์ จะผุดไอเดียขึ้นมา เช่น การทายว่าใครจะเป็นคนทำประตูเป็นคนแรก, การทำประตูจะเกิดขึ้นในครึ่งแรกหรือครึ่งหลัง, จะมีใบเหลือกี่ใบ เกิดขึ้นในช่วงเวลาใด มากมายแล้วแต่จะเลือกเล่น ถือเป็นการคิดขึ้นมาเพื่อเพิ่มความสนุกสนานในการเล่นพนันบอล และเหล่านี้ส่วนใหญ่มักจะเล่นพนันกันในในเว็บไซต์พนันออนไลน์ เพื่อให้คนเข้าไปเล่นมากขึ้น
เจ้ามือรายนี้เล่าเพิ่มเติมว่า ในแต่ละวันมีนักพนันบอลรายใหม่ๆ ติดต่อเพื่อขอเข้าสู่วงการ แต่ใช่ว่าเมื่อติดต่อเข้ามาเขาจะยอมรับเป็นลูกค้า เพื่อเพื่อหวังประโยชน์จากเงินรายได้ของลูกค้าอย่างเดียว เพราะต้องประเมินคนเหล่านี้ด้วยว่า มีโอกาสหรือความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน ก่อนที่จะตกปากรับแทง เพราะสิ่งสำคัญของการแทงบอลระหว่างสองฝ่าย ก็คือความไว้เนื้อเชื่อใจในการรับจ่ายเงินกันหลังจบการแข่งขัน ส่วนใหญ่จะเล่นอันอย่างต่ำที่หลักพันกว่าบาทขึ้นไป ซึ่งการเคลียร์เงินก็ขึ้นอยู่กับการตกลงกันระหว่างเจ้ามือกับลูกค้าว่าจะจ่ายกันแบบวันต่อวัน หรือเคลียร์เป็นรอบ เป็นรายสัปดาห์ แต่สำหรับรายนี้ยืนยันว่า ชอบที่จะเคลียร์กันวันต่อวันมากกว่า
“ลูกค้าที่เล่นบอลแบบนี้ ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนฝูง คนรู้จักที่พอมีรายได้ อันนี้เราจะเน้นเรื่องของความไว้ใจเป็นหลัก บางคนที่เห็นแล้วว่าไม่โอเค ผมจะไม่เสี่ยงเลย บางคนบอกแทงปากเปล่าสูงๆ 5-6 หมื่น ก็จะถามว่าจะไหวเหรอถ้าดูแล้วไม่ไหวจะไม่รับเลย บางโต๊ะก็มีมาตรการของเขาว่าจะจัดการอย่างไร ถ้าหากถูกเบี้ยว แล้วแต่นโยบายใครนโยบายมัน สำหรับของผมคนที่จะแทงจะต้องเคลียร์หนี้เก่าก่อนแล้วถึงจะแทงใหม่ได้ หรือไม่ก็ต้องเอาเงินสดมาวางไว้ เพราะการแทงบอลแบบนี้ต้องใช้เงินเยอะ ถ้าไม่มีจริงๆ อาจจะทำให้เกิดปัญหาอาชญากรรมได้ เพราะฉะนั้นถ้าไม่มั่นใจก็อย่าเสี่ยง”
‘บอลชุด’ ขวัญใจคนรายได้น้อย
สำหรับการเล่นพนันบอลที่กำลังมาแรง เข้าถึงทุกระดับอยู่ในขณะนี้ คงหนีไม่พ้นการเล่นบอลชุด หรือ บอลสเต็ป การเล่นแบบนี้หากตั้งใจจะเล่นแล้ว สามารถหาเจ้ามือเล่นได้ในเกือบแทบทุกชุมชน หรือแม้กระทั่งในสถาบันการศึกษา จากการสัมภาษณ์ นักศึกษาชาย คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยของรัฐชื่อดัง คนหนึ่ง ระบุว่า เขาสามารถที่จะเล่นพนันบอลแบบสเต็ป หรือบอลชุด ได้ เพียงแค่เดินออกไปยังโต๊ะบอลที่อยู่ไม่ห่างจากวิทยาลัยย่านจ.สระบุรี ซึ่งด้านหน้าเปิดเป็นร้านขายน้ำแข็ง แต่ด้านในเปิดเป็นโต๊ะพนันบอล เมื่อไปถึงก็สามารถหยิบโพยบอลได้ทันที อยากเล่นคู่ไหนก็กาลงไปแล้วแต่ข้อมูล มีเงินขั้นต่ำเพียง 50 บาท ก็เล่นได้แล้ว
โดยวิธีการเล่น ผู้เล่นจะต้องแทงให้ครบทุกคู่ที่มีการแข่งในคืนนั้น ถ้าถูกคู่แรก จากที่แทง 50 บาท จะได้ 100 บาท ถ้าคู่ที่สองถูกอีก จำนวนเงินที่ได้จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ที่สำคัญคือต้องแทงให้ถูกทุกคู่ ถ้าแทงผิดหนึ่งคู่ จะไม่ได้เงินเลยเคยแทงได้เงินมากที่สุด 1,700 บาท โดยยืนยันว่าการเล่นพนันบอลแบบนี้ ความสนุกอยู่ที่การหาข้อมูล วิเคราะห์ และต้องพยายามแทงให้ถูกทุกคู่ ซึ่งทำให้เงินที่ได้รับทวีคูณขึ้นไปอีก และ สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ ราคาในการเล่นต่อครั้งไม่จำเป็นต้องมากก็เล่นกันได้แล้ว อย่างไรก็ตามนักศึกษาส่วนใหญ่ที่ตกเข้าไปสู่วังวนแห่งการเล่นพนันบอล ต่างก็สรุปเหมือนกันว่า หากรวมเงินที่เล่นไปจะพบว่า มีจำนวนการเสียพนันมากกว่าส่วนที่ได้มา และทุกครั้งที่เสียจะต้องตกอยู่ในความรู้สึกหวาดระแวง เป็นหนี้เป็นสิน อยู่ในความทุกข์มากกว่าตอนที่เล่นได้มากมายนัก
บอลออนไลน์ระบาดหนัก-เพิ่มนักพนันหน้าใหม่
“การพนันบอลชุด นักพนันก็จำเป็นต้องศึกษาเรื่องราคาต่อรองเช่นเดียวกัน แต่เรื่องนี้ไม่ยากหรอกสำหรับคนที่มีใจรัก ไม่ว่าจะเป็นชาวบ้าน หรือคนอาชีพไหนก็เรียนรู้ได้ การเล่นแบบนี้จึงแพร่หลายมากจนน่าเป็นห่วง ซึ่งนอกจากการแทงพนันบอกที่มีรูปแบบหลักๆ ที่ว่ามานี้แล้ว ปัจจุบันการพนันออนไลน์ ก็กำลังเข้ามามีอิทธิพลมากขึ้น โดยเฉพาะกับกลุ่มที่เคยเล่นพนันบอลเดิม” ดร.วิษณุกล่าว พร้อมทั้งอธิบายต่อว่า สิ่งที่ค้นพบจากการทำงานวิจัยในหลายปีที่ผ่านมานี้ คือ รูปแบบการเล่นในอดีตกับ ปัจจุบันไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงไปเลย แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ ความหลากหลาย และความสะดวกสบายของการพนันบอล โดยในอดีตการแทงพนันบอล จะใช้วีโทรแทงกันทางโทรศัพท์ ต้องแทงก่อนบอลเตะ ครึ่งชั่วโมง แต่ตอนนี้ สามารถแทงกันได้แบบเรียลไทม์ เพราะมีการพนันแบบออนไลน์ ที่มาแรงสุดๆ อย่างไรก็ตามสรุปได้ว่า กลุ่มนักพนันบอล สามารถแยกได้เป็น 3 กลุ่มคือ 1.กลุ่มที่เล่นทุกคู่เลย เล่นเป็นประจำทุกสัปดาห์ เรียกได้ว่าเป็นนักพนันบอลแบบอาชีพ กลุ่มที่ 2 ได้แก่กลุ่มที่เล่นเมื่อเกิดทัวร์นาเม้นสำคัญๆ เช่น บอลโลก ยูโร ยูฟ่า และ กลุ่มที่ 3 คือ กลุ่มที่เล่นสนุกๆ ติดปลายนวม
“สำหรับกลุ่มแรก และกลุ่มที่ 2 นี่เหตุผลของการเล่นมากที่สุดก็คือ ต้องการได้เงิน อยากมีรายได้จากการเล่นพนันบอล เมื่อเล่นได้แล้วก็ติดใจไม่เลิก จนบางคนกลายเป็นโรคติดพนันไปก็มี แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือ กลุ่มที่ 2 เพราะกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่มีโอกาสในการเพิ่มเข้ามาเป็นนักพนันบอลรายใหม่เพิ่มขึ้น เพราะหลังทัวร์นาเม้นสำคัญๆ จบแล้วแต่เขาไม่จบสุดท้ายก็กลายเป็นนักพนันบอลถาวรไปได้ในที่สุด” ดร.วิษณุกล่าว
แล้วหลังการแข่งขันบอลยูโร ในปีนี้ ประเทศไทยจะมีนักพนันบอลหน้าใหม่เกิดขึ้นอีกกี่คน ????
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ