นักข่าวแทงบอลจากละอ่อนสู่ขั้นเซียน
การเล่นพนันบอลเริ่มจากความสนุกสนาน ด้วยการดูการแข่งขันฟุตบอล ระหว่างเพื่อน ทำให้ ปื๊ด (นามสมมุติ) ผู้สื่อข่าวสายการเมือง หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง เริ่มเข้าสู่วังวนของการพนันบอล ตั้งแต่อายุ 14 ปี ขณะยังเรียนชั้นม.2 ของโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว
จากนั้นเริ่มมีเพื่อนในละแวกบ้าน ที่เป็นเด็กเดินโพยชวนให้เล่นพนันบอล และเริ่มหาข้อมูลจากการซื้อหนังสือพิมพ์ฟุตบอล มีบทวิเคราะห์ต่างๆ รวมถึงราคาต่อรอง ด้วยความเป็นวัยรุ่นใจร้อนอยากลองเสี่ยงโชคแบบที่ได้เงินเร็ว จึงลองเข้าไปเล่นพนันบอลกับเพื่อนข้างบ้าน เมื่อเข้าไปลองเล่นครั้งรู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะต้องคอยลุ้นผลการแข่งขันทีมที่ตนเองเสี่ยงทาย แต่ในทางกลับกันรู้สึกว่าทำให้การดูฟุตบอลสนุกขึ้น ซึ่งก่อนหน้านั้นได้เคยรู้เรื่องอัตราการต่อรองจากเพื่อนที่เป็นเด็กเดินโพยมาแล้วว่า คู่ไหนราคาต่อรองอย่างไร ทำให้เข้าใจการเล่นมากขึ้น
ที่ไหนเป็นชุมชนที่นั่นมีพนันบอล
ปื๊ดเล่าว่า โต๊ะบอลมีอยู่ทุกที่ ที่ไหนมีคนพลุกพล่านที่นั่นมีโต๊ะบอล เช่น ตามหอพัก ข้างล่างหอบางหอจะมีตะกร้า ที่ทิ้งโพยบอลไว้สำหรับให้แทง คนเล่นก็จะรู้กันว่า จะต้องเอาเงินไปฝากไว้ที่ใคร เพื่อไปให้บ่อน ยามใต้หอ ฯลฯ คนเหล่านั้นจะได้ค่าน้ำชา เล็กๆน้อยจากโต๊ะบอล เรามีน้อยก็เล่นน้อย มี 500 บาท เล่น 500 บาท มี 1,000 บาท เล่น 1,000 บาท โดยจะไม่ให้ที่บ้านรู้ เก็บโพยให้มิดชิด จำคู่ที่เล่นให้ได้
ปื๊ดบอกว่า ตั้งแต่เริ่มเล่นพนันบอล เมื่ออายุ 14 ปี กระทั่งปัจจุบันอายุ 30 ปีเศษแล้ว เขายังคงเล่นอยู่ แต่ไม่ถึงกับเป็นตัวยง เพราะไม่ติดมาก มีเงินก็เล่น เงินหมดก็หยุด จนกระทั่งเรียนจบมหาวิทยาลัย ทำงานก็ยังเล่นอยู่บ้างประปราย ไม่ได้ติดขนาดหนัก คนที่เล่นแล้วติดเป็นแสนๆ คือพวกที่มีเงินอยู่บ้าง เวลาเล่นคนเหล่านั้นก็จะเล่นอยู่ที่ระดับหลักหมื่น
ไม่ได้โชคดีเสมอไป-ได้เสียแก้ตัวในคืนเดียว
“ได้เงินจากการเล่นพนันบอลครั้งแรกเพียง 50 บาท เพราะไม่กล้าเล่นมาก จากนั้นจึงค่อยๆ ขยับราคาขึ้นตามกำลังเงินในกระเป๋า เมื่อเข้ามหาวิทยาลัยก็เล่นกับเพื่อนในคณะคู่หนึ่งไม่เกิน 1,000 บาท เมื่อโชคชะตาไม่เข้าข้าง ก็เริ่มเสียบอลมากขึ้นเรื่อยๆ จนต้องเพิ่มราคาพนันสูงขึ้น เพื่อหวังเอาทุนคืนจากเงินที่เสียไป วันทั้งวันหายใจเข้าออกมีแต่ฟุตบอล”
ปื๊ดกล่าวว่า ปกติการแข่งขันฟุตบอลจะมีตั้งแต่เวลา 19.00-02.00 น. ถ้าเราเสียพนันบอลในช่วงคู่แรก 19.00น. เราก็จะแก้มือได้ในคู่เวลา 22.00 น. และหากคู่ที่สองเสียอีก เราก็มีโอกาสแก้ตัวได้ในคู่สุดท้ายเวลา 02.00น. เรียกว่า การเล่นพร้อมจะได้เสียทุกเวลา มันเหมือนคนโลภ แต่ถ้าเล่นทั้งคืนก็อาจจะหมดตัวได้ เพราะแต่ละคืนมีการเล่นกันถึง 20-30 คู่ มีการแข่งกันหลายประเทศ แต่ละคนก็ไม่บอกกันว่าใครเสียเท่าไหร่ ไม่มีใครบอกกัน ยกเว้นคนที่เล่นกับเจ้าของโต๊ะ ซึ่งคนเล่นหลักหมื่นถือว่าน้อยมาก และถ้าโชคดีได้มาก็เท่ากับที่เคยเสียไปแล้ว
“คนส่วนใหญ่เล่นแล้วจะเสีย เพราะหยุดไม่อยู่ ดวงจะขึ้นๆ ลงๆ ไม่ได้เสียตลอดเวลา ช่วงที่ได้ก็มี ก่อนแทงบอลก็ต้องศึกษาข้อมูล ตัวผู้เล่นว่าใครจะลงบ้าง สถิติทีมที่เราแทงเป็นอย่างไร ก่อนหน้านี้ที่เคยแข่งกันเป็นอย่างไร”
หนี้พอก-เสียเวลาจนต้องเลิกเล่น
“มันเป็นปัญหาตรงที่เวลาเราเสียต้องยืมเงินเพื่อน ขอพ่อแม่ไปใช้หนี้ รู้สึกเบื่อชีวิตผีดิบ ที่ต้องนอนดึก ชีวิตไม่เป็นระบบระเบียบ ต้องคอยมาซื้อหนังสือวิเคราะห์บอลมาอ่าน วันหนึ่งๆ หมดเวลาไปกับฟุตบอลตั้งแต่เช้าจนถึงตีสี่ของอีกวัน รวมๆ ทั้งอาทิตย์ก็ไม่ไหว ก็เลยตัดสินใจเลิกเล่น พอเลิกเล่นก็รู้สึกดี ได้นอนเต็มที่ สบายตัว สบายใจ สบายกระเป๋า ไม่ต้องเครียดหาเงินมาใช้หนี้เวลาเสียพนัน ไม่ต้องหมกมุ่น มีเวลาไปสนุกกับเพื่อน หันไปสนใจเรื่องอื่นๆ”
ขณะที่ทำงานเป็นนักข่าว ปื๊ดเล่าว่า ชีวิตการเล่นพนันบอลแตกต่างจากสมัยเรียนมากนัก เพราะอาชีพนักข่าว ส่วนใหญ่ที่เล่นพนันบอล เพียงเพราะต้องการเข้าสังคมกับนักข่าวด้วยกัน มีเรื่องให้คุยกันได้ โดยเฉพาะในสำนักงาน เพื่อนร่วมงานหลายคนเล่น ก็เล่นพนันบอลเหมือนกัน แต่จะเล่นแบบสนุกสนาน ด้วยเงินเดิมพันไม่มากนัก แต่จะเล่นเพื่อเข้าสังคม ไม่ได้คาดหวังเรื่องเงินมากนัก
แม้แต่นายทหารก็เคยเสียพนันเป็นล้าน
ขณะที่ทหารอาชีพคนหนึ่ง ที่มียศระดับนายพัน ยอมเปิดเผยกับศูนย์ข่าว TCIJ ถึงการเข้าไปสู่วังวนของการพนันบอล แบบคนเล่นหนักมือ ถึงขั้นเคยเสียเงินให้กับโต๊ะหลักล้านบาท เขาบอกว่า เรียนรู้เรื่องพนันบอลมาจากเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ด้วยที่ว่าเห็นเพื่อนเล่นแล้วได้เงินคราวละมากๆ จึงอยากลองดูบ้าง ในครั้งแรกๆที่เห็นเงินหลักหมื่นมาวางกองอยู่ตรงหน้าก็ยั่วใจ จึงขยับการเล่นมากขึ้นเรื่อยๆ และถลำลึกเข้าไปในที่สุด ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่า การพนันไม่มีคำว่าเป็นธรรม
“จากที่เคยแทงด้วยเงินหมื่น ก็มากขึ้นไปเล่นบอลเดี่ยวคู่ละ 100,000 บาท ได้ก็ได้แค่ 80,000 บาท หรือถ้าเสียก็อาจเสียถึง 110,000 บาท เจ้าของโต๊ะได้เปรียบอยู่แล้ว แต่เราก็อยากเล่น อย่างที่บอกว่าถ้าเราเสี่ยงทายถูกก็ดี แต่เราไม่ได้โชคดีทุกวัน โชคชะตาไม่ได้เข้าข้างเราเสมอไป วันดีคืนดีเสียครั้งละเป็นแสน ก็มี สมมติว่าแทง 10 คู่ แต่ถูกแค่ 6 คู่ ก็ไม่คุ้มเหมือนกัน การเล่นก็จะโทรศัพท์ฝากแทงกัน แต่พอเรารู้ว่าเราดวงไม่ดีก็หยุด เพราะมันกระทบกับสภาพคล่องทางการเงิน มีอยู่ครั้งหนึ่งเสียเป็นหลักล้าน แต่ไม่ถึง 10 ล้านบาท ตอนนั้นถือว่ากระทบหนักมาก” นายทหารคนเดิมกล่าว
เตือนนักเล่นให้มีสติ-จิตอ่อนอย่าเล่น
และแม้เขาจะเป็นนักเล่นมือหนัก แต่เขายังมองเห็นด้านมืดของการพนันบอลอยู่มากมาย นายทหารคนดังกล่าวบอกว่า การเล่นพนันบอลเป็นการหาเงินในช่องทางที่รวดเร็ว แต่ขณะเดียวกันการได้เสียก็จะเกิดขึ้นจำนวนมากด้วย เพราะการแข่งขันฟุตบอลมีทุกวัน ทำให้เกิดความล้มเหลวได้ง่ายมาก เพราะขณะที่มีการแทงบอลจะพูดกันด้วยวาจา ไม่ได้เห็นตัวเงิน แต่เมื่อถึงเวลาที่เราควักเงินจ่ายหลังจากเสียพนัน นั่นเราจะรู้ว่าคือการสูญเสียมหาศาล ฉะนั้นคนเล่นต้องมีจิตใจที่เข้มแข็ง เพราะถ้าเราไม่รู้จักยั้งคิดจะอันตรายมาก เพราะเมื่อเราเสีย เราก็อยากได้คืน ได้แล้วโลภอยากได้มาก ก็จะยิ่งทำให้ถลำลึกลงไป ฉะนั้นจิตใจเราต้องไม่อ่อนแอ ไม่ให้มันครอบงำเราได้
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ