‘หวยไม่มีวันตาย’(1)คนไทยเล่นกันจนชิน ไม่เคยคิดว่าผิดกฎหมาย-หวังรวยทางลัด วิจัยระบุมากถึง23ล้านคน-เงิน5.4แสนล. 

ทีมข่าวศูนย์ข่าว TCIJ 21 พ.ค. 2555 | อ่านแล้ว 4020 ครั้ง

สำหรับเมืองไทย ‘หวยไม่มีวันตาย’

 

 

หากมีคำถามในกลุ่มคนทุกสาขาอาชีพว่า “เคยเล่นหวยหรือไม่” คำตอบที่ได้รับ 9 คน จาก 10 คน จะตอบว่า เคยเล่น เคยซื้อ ซื้อเป็นบางครั้ง ซื้อมานานแล้ว ยังซื้อเป็นประจำ .... เรียกง่ายๆว่า ชี้ไปที่คนไหนก็โดน ทั้งเล่นหวยใต้ดินและสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือบางคนมากไปกว่านั้น อาจลามไปถึงหวยออมสิน หวยธกส. หวยหุ้น หวยปิงปอง ฯลฯ

 

จากปรากฎการณ์เหล่านี้ ทำให้ดูเหมือนว่า การเล่นหวยของคนไทยกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดา หวยไม่ได้ถูกให้ค่าว่าเป็น “การพนัน” แต่หวยกลับกลายเป็นกิจกรรมหนึ่ง หรือส่วนหนึ่งของชีวิตของคนในสังคมไทยไปแล้ว

 

ซึ่งหากถามคนที่เล่นหวยต่อไปว่า เล่นเพื่ออะไร ก็จะได้รับคำตอบว่า เล่นสนุกๆ เป็นการเสี่ยงโชคแบบง่ายๆ เผื่อว่าจะโชคดี เป็นการเล่นเพื่อผ่อนคลาย ไม่ได้คิดจริงจังอะไร ขยับไปถึงบางรายที่มากไปกว่านั้นคือ การเล่นเพื่อหวังโชคขนาดใหญ่ ที่สามารถตั้งตัวได้จากการเสี่ยงของตัวเองก็มี แต่ส่วนใหญ่ก็ยังเชื่อว่าการเล่นหวย ไม่ถึงกับทำให้หมดตัวหรือถึงขั้นล่มจม

 

จากแนวคิดดังกล่าวของประชาชนส่วนใหญ่ที่เล่นหวย และไม่เห็นว่าหวยเป็นการพนันที่จะทำให้ล่มจมหรือหมดตัว งานวิจัยของนักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์เรื่อง “หวย ซ่อง บ่อน ยาบ้า เศรษฐกิจนอกกฎหมาย และนโยบายสาธารณะในประเทศ” โดย ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ และคณะ เมื่อปี 2544 พบว่า หวยใต้ดินซึ่งนับว่าเป็นการพนันชนิดหนึ่ง เป็นกิจกรรมที่ประชาชนขาดทุนมากที่สุด คือปีละ 162,600 ล้านบาท นั่นหมายความว่า หวยใต้ดินเป็นการพนันที่ประชาชนเล่นมากที่สุด

 

ซึ่งสอดคล้องกับการที่ศูนย์ข่าว TCIJ ประเมินอย่างไม่เป็นทางการ จากการถามคนทั่วไป พบว่า ร้อยละ 90 คนทุกกลุ่มอาชีพเคยเล่นหวยใต้ดิน หรือซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือสลากการกุศลในโอกาสต่างๆ โดยผู้เล่นหวยมีตั้งแต่ เกษตรกร ผู้ใช้แรงงาน พ่อค้าแม่ค้า พนักงานบริษัทเอกชน ข้าราชการ เจ้าของกิจการซึ่งมีฐานะดีกว่า นักเรียน นักศึกษา ซึ่งจัดว่าเป็นผู้ที่มีการศึกษาสูงว่า แต่คนที่เล่นหวยกลุ่มใหญ่ที่สุดคือ ชาวบ้านระดับรายได้ต่ำ จากงานวิจัยของดร.สังศิตพบว่าในปี 2544 หรือเมื่อกว่า 10 ที่ผ่านมา มีผู้เล่นหวยใต้ดินในประเทศไทยถึง 23.7 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 51 ของประชากรที่เป็นผู้ใหญ่ทั้งประเทศ คือมีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป

 

และจากการสำรวจของสถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อปี 2554 สุ่มตัวอย่างประชาชนในพื้นที่ 16 จังหวัดจากทุกภาค พบว่า มีประชาชนนิยมเล่นหวยใต้ดินทั้งเล่นประจำและเล่นเป็นครั้งคราวประมาณ 19 ล้านคน โดยในเขตเมืองมากกว่าชนบท ซึ่งงานวิจัยชิ้นนี้ตัวเลขอาจจะน้อยกว่า การสำรวจเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว แต่ผลการสำรวจทำให้มองเห็นได้ว่า หวยยังเป็นการพนันที่มีผู้นิยมเล่นเป็นจำนวนมาก และเป็นการพนันที่ได้รับความนิยมสูงสุดมากกว่าการพนันชนิดอื่น หรืออาจจะเรียกว่า “หวยไม่มีวันตาย” ไปจากประเทศไทยก็ว่าได้

 

ศูนย์ข่าว TCIJ จะนำเสนอข่าวสืบสวนว่าด้วย “หวยไม่เคยตาย” ต่อเนื่อง 5 ตอน เนื้อหาครอบคลุมเรื่องราวของการเล่นหวย สาเหตุของการเล่น ผลประโยชน์ในวงการหวยว่ามีจำนวนมากน้อยเพียงใด ผลกระทบที่เกิดจากการเล่นหวย รวมทั้งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ซึ่งประชาชนใช้เป็นช่องทางในการหาเลขเพื่อนำมาแทงหวย และสื่อต่างๆ ที่เป็นตัวกระตุ้นให้การเล่นหวยกลายเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวันของคนไทย ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดนี้ส่วนหนึ่งได้นำงานวิจัยทางวิชาการมานำเสนอ เพื่อให้เห็นด้วยว่าปัจจัยทั้งหลายเกิดความสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงอย่างไร เพื่อสะท้อนให้เห็นว่าสังคมไทยกำลังตกอยู่ในวังวนของการพนันที่เรียกว่า “หวย” อย่างแยกไม่ออก ซึ่งส่งผลกระทบต่างๆ ตามมามากมาย ที่หลายฝ่ายจะต้องเร่งแก้ไขให้เป็นรูปธรรมอย่างรวดเร็ว

 

 

งานวิจัยชี้คนมีรายได้สูงเล่นหวยมากขึ้น

 

 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคนทั่วไปจะมองว่าหวยใต้ดินเป็นการพนันของคนจน คนมีรายได้น้อย การศึกษาไม่สูงมากนัก ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงวัย เล่นกันมากในพื้นที่ชนบทมากกว่าในเมือง แต่งานวิจัยของดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ และคณะ เมื่อปี 2550 ระบุว่า จากสัดส่วนของผู้ที่เคยซื้อหวยใต้ดิน กระจายอยู่ทั้งในกลุ่มผู้มีรายได้ต่ำ ปานกลาง และค่อนข้างสูง เช่น กลุ่มผู้มีรายได้เดือนละต่ำกว่า 5,000 บาท มีสัดส่วนของผู้ที่เคยซื้อหวยใต้ดินร้อยละ 16.4 ส่วนกลุ่มผู้มีรายได้เดือนละระหว่าง 5,000-10,000 บาท มีสัดส่วนของผู้ที่เคยซื้อหวยร้อยละ 27.9  ส่วนกลุ่มที่มีรายได้สูงขึ้นมาเดือนละระหว่าง 10,000-15,000 บาท มีสัดส่วนร้อยละ 34.3 และกลุ่มที่มีรายได้เดือนละระหว่าง 15,000-20,000 บาท มีสัดส่วนร้อยละ 32.5 ในขณะที่กลุ่มผู้มีรายได้เดือนละเกิน 20,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 27.6 ตัวเลขดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า หวยไม่ได้เป็นความหวังของกลุ่มผู้มีรายได้น้อยเท่านั้น แต่ยังเป็นความหวังของคนชั้นกลางที่มีรายได้เดือนละมากกว่า 20,000 บาท  ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของสถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อปี 2554 พบว่า ผู้มีรายได้เดือนละระหว่าง 5,000-10,000 บาท มีผู้เล่นหวยมากถึง 5.5 ล้านคน และอันดับสองคือ ผู้ที่มีรายได้มากกว่าเดือนละ 20,000 บาท เล่นหวย 4.4 ล้านคน ซึ่งมากกว่าผู้ที่รายได้เดือนละต่ำกว่า 5,000 บาท ที่มีผู้เล่นหวย 4 ล้านคน

 

 

ชาวบ้านเล่นหวยเพราะอยากรวย

 

 

นอกจากนี้ จากงานวิจัยของน.ส.นพนันท์ วรรณเทพสกุล เรื่อง “เศรษฐกิจหวยใต้ดิน : มุมมองการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจสังคมไทยผ่านธุรกิจการพนัน” ระบุว่า หวยใต้ดินเป็นการพนันของคนรุ่นเก่าที่มีฐานะยากจน ดังนั้นผู้ที่เล่นหวยส่วนใหญ่ จึงฝากความหวังไว้กับเงินรางวัลที่จะได้หากถูกรางวัล ผู้ที่เล่นหวยจะไม่คิดว่าการเล่นหวยจะทำให้ชีวิตตัวเองลำบาก

นางประยูร บุญมายะพันธุ์ แม่ค้าย่านตลาดบางจาก กรุงเทพฯ ให้สัมภาษณ์ศูนย์ข่าว TCIJ ว่า เชื่อว่าคนไทยเกินร้อยละ 90 เคยเล่นหวย โดยเฉพาะหวยใต้ดิน สาเหตุที่เล่นเพราะมีความหวังว่าจะถูกรางวัลเหมือนคนอื่นที่เคยโชคดี แล้วจะรวย เนื่องจากผลตอบแทนจากเงินรางวัลที่จะได้รับสูงพอที่จะเป็นแรงจูงใจอย่างดีที่ทำให้คนหันมาซื้อหวย และคนที่ซื้อหวยส่วนใหญ่มักมีความโลภและอยากรวยทั้งนั้น

 

“ง่ายๆแค่ถูกรางวัลเลขท้าย 2 ตัว ก็จะได้บาทละ 65 บาท ซื้อ 100 บาท ได้เงินแล้ว 6,500 บาท เงินรางวัลที่จะได้ตรงนี้ เป็นตัวหลอกล่อทำให้คนเล่นหวยมากขึ้น และเล่นใต้ดินมากกว่าหวยรัฐบาล เพราะได้เงินรางวัลตอบแทนมากกว่า ถามว่ามีใครที่ไม่เล่นหวยหรือเปล่า มีนะแต่น้อยมาก คิดว่า 90 เปอร์เซ็นต์ต้องมีคนเคยเล่นหวย”

 

 

 

 

 

ถ้าคุยเรื่องหวย-คนไม่รู้จักกันก็พูดกันรู้เรื่อง

 

 

นางประยูรกล่าวว่า การเล่นหวยเป็นกิจกรรมที่ทุกคนในสังคมมีส่วนร่วมได้ คำถามที่ว่างวดนี้หวยจะออกอะไร เป็นเรื่องที่คุยได้กับทุกคนแม้จะไม่รู้จักกัน หรือไม่สนิทกันก็ตาม

 

“ลูกค้าที่มาซื้อของ เรื่องที่จะพูดกันได้ยาวคือ ได้เลขเด็ดอะไรมา ที่ไหนให้หวยแม่น งวดที่แล้วใครถูกบ้าง ซึ่งแน่นอนว่าถ้ามีคนถูกจะรู้กันเร็วมาก หรือบางครั้งไม่ถูกก็มีข่าวลือว่าถูกก็มี”

 

เมื่อถามว่าย่านบางจากมีการเล่นหวยชนิดอื่นอีกหรือไม่ นอกจากหวยใต้ดิน สลากกินแบ่งรัฐบาล นางประยูรกล่าวว่า  ที่มีก็จะเป็นหวยออมสิน แต่อย่างอื่นแถวนี้ไม่ค่อยนิยมเล่น แต่เท่าที่ทราบ รู้ว่าที่อื่นหรือในต่างจังหวัดจะมีการเล่นหวยหุ้น หวยปิงปอง ส่วนใหญ่จะเป็นแม่ค้าในตลาดที่นิยมเล่น และหากเทียบหวยกับการพนันชนิดอื่นนั้น หวยเป็นการพนันที่เล่นง่ายกว่า อย่างพนันบอลเล่นยาก ต้องรู้จักทีมฟุตบอล ต้องคอยนั่งดู แต่หวยไม่ต้องทำอย่างนั้น และสามารถหาเลขได้จากทุกที่ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากความฝัน

 

“คิดว่าที่คนชอบเล่นหวยเพราะมันสนุกตรงได้ลุ้น อย่างเราฝันและตีออกมาเป็นตัวเลข แล้วไปซื้อ พอถึงวันหวยออก เราก็คอยลุ้นว่าจะถูกตามที่ตีออกมาเป็นเลขหรือเปล่า ถึงจะไม่ถูกแต่แค่เฉียดก็มีความสุขแล้ว ได้คุยกับเพื่อนอีกนานว่าเฉียดรางวัล”

 

 

ทั้งซื้อ-ขายเป็นเรื่องปกติเหมือนไม่ผิดกฎหมาย

 

 

นางประยูรแสดงความเห็นด้วยว่า คนส่วนใหญ่แทบจะไม่คิดว่าหวยเป็นการพนันผิดกฎหมาย เพราะรัฐบาลเป็นผู้ออกสลากกินแบ่งรัฐบาลเอง ซึ่งทำให้ชาวบ้านคิดว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ส่วนการซื้อหวยใต้ดิน ยังไม่เคยเห็นตำรวจดำเนินการตามกฎหมายกับเจ้ามือ หรืออาจจะมีการดำเนินการแต่เราไม่เคยรู้ ส่วนพวกที่เป็นคนเดินโพยหวยนั้น น้อยมากที่จะโดนตำรวจจับ ถึงแม้จะโดนจับในที่สุดจะตกลงกันได้

 

“ยังไม่เคยเห็นเจ้ามือหรือคนเดินโพยหวยถูกจับเข้าคุกเลยสักคน ถ้าโดนจับก็จะตกลงกันได้  เรื่องไปไม่ถึงสถานีตำรวจด้วย เมื่อก่อนอาจจะมีตำรวจมาเดินดูวันหวยออก แต่ระยะหลังไม่เคยเห็น จนชาวบ้านน่าจะคิดว่าหวยไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย”

 

ปัจจุบันหวยกลายเป็นการพนันที่ประชาชนเล่นด้วยความสนุกสนาน อย่างเปิดเผย และไม่คิดว่าใครจะหมดตัวเพราะหวย ถ้าไม่โลภมากจนเกินไป ซึ่งกรณีแบบนี้จะเกิดกับคนที่เล่นวิ่ง หมายความว่า ผู้เล่นหวยคนนี้ได้เลขตัวใดตัวหนึ่งมาก และต้องการเล่นเลขตัวนี้เพียงอย่างเดียว ก็จะทุ่มเงินเพื่อซื้อเลขนี้ เนื่องจากผลตอบแทนจะได้น้อย เช่นแทงเลขนี้ 1,000 บาท หากถูกจะได้แค่เท่าเดียว คือได้ 1,000 บาทเท่านั้น คนทั่วไปจะไม่นิยมเล่น ไม่ค่อยสนุก ไม่ได้ลุ้น เพราะคนที่นิยมซื้อหวยส่วนใหญ่จะชอบลุ้น จากความฝันหรือเลขเด็ดที่ได้มา ดังนั้นส่วนใหญ่จะต้องซื้อหลายตัว เช่น เลขท้าย 2 ตัว 3 ตัวขึ้นไป อาจจะซื้ออย่างละหลายตัว และถ้าหากมั่นใจในเลขที่ได้มาจะซื้อทั้งหวยใต้ดินและสลากกินแบ่งรัฐบาล

 

 

แหล่งเลขเด็ดมีทั้งใช้สูตรคิด-ความฝัน-สถานที่ศักดิ์สิทธิ์

 

 

ป้าเล็ก แม่ค้าขายข้าวแกงในย่านเดียวกัน ป้าเล็กเป็นผู้หนึ่งที่นิยมเล่นหวยมาก เป็นที่รู้จักกันดีว่าถ้าต้องการเลขเด็ดหรือต้องการคุยเรื่องหวยให้มาที่ร้านข้าวแกงป้าเล็ก ซึ่งในแต่ละงวดป้าเล็กจะซื้อประมาณ 20,000 บาท ทั้งหวยใต้ดินและสลากกินแบ่งรัฐบาล และถ้างวดไหนมีเลขเด็ด และมั่นใจว่าจะถูกอาจจะลงทุนซื้อถึง 30,000 บาท ซึ่งการเล่นหวยของป้าเล็กนอกจากเพราะอยากรวยแล้ว ยังเป็นความชอบส่วนตัวอีกด้วย

เมื่อถามถึงเลขเด็ดในแต่ละงวดนั้น ป้าเล็กเล่าว่า เลขเด็ดที่ได้มานั้นมาจากสูตรการคิดหวยของตนเอง ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยใครให้รู้ได้ แต่ถึงแม้จะมีสูตรของตนเองแล้ว ในแต่ละงวดจะตระเวนไปสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทุกที่ที่มีการร่ำลือว่าศักดิ์สิทธิ์ให้เลขเด็ด มีคนถูกหวย

 

“เลขส่วนใหญ่ที่นำมาซื้อจะมาจากสูตรของป้าเอง แล้วก็ตีจากความฝัน หาจากที่อื่นด้วย ทุกที่ที่เขาบอกว่าบอกหวยแม่น ศักดิ์สิทธิ์ ไปหมด อย่างแถวนี้จะมีศาลแม่นาคพระโขนง วัดมหาบุศย์  ไปบ่อยเพราะใกล้บ้าน หลวงพ่อปากแดง นครนายกก็ไป นครปฐมก็ไป ไปหมดถ้ามีคนบอกว่ามีเลขเด็ด แล้วก็เลขจากที่อื่นด้วย แต่ละงวดจะมีลือกันว่า เลขตัวไหนจะมา ป้าจะเก็บทุกเลข แล้วมาเปรียบเทียบกับเลขที่ได้จากสูตรของป้า ถ้ามีเลขที่ใกล้เคียงจะซื้อตัวนั้นทั้งหมดก็ถูกเกือบทุกงวด มากบ้างน้อยบ้าง เพราะซื้อมาก”

 

แม่ค้าข้าวแกงกล่าวอีกว่า การเล่นหวยเป็นการเสี่ยงที่สนุก และเป็นการพักผ่อนจากการขายของในแต่ละวัน การคิดหวยจากสูตรทำให้มีความสุข และคอยลุ้นว่าจะหวยจะออกเลขที่ซื้อหรือไม่ ถ้าไม่ถูกงวดนี้ งวดต่อไปเริ่มต้นใหม่

ทางด้าน ลุงใหญ่ อาชีพขับรถแท็กซี่ กล่าวว่า ซื้อหวยทุกงวดส่วนใหญ่จะเป็นหวยใต้ดิน ได้เงินมากกว่าสลากกินแบ่งรัฐบาล เลขที่ได้มานั้นจะเชื่อความฝันของตนเองมากกว่า ถ้างวดไหนฝันดีจะลงทุนซื้อมาก แต่ถ้าไม่ฝันหรือไม่สามารถตีเป็นเลขได้ จะซื้อน้อยลง

 

จากพฤติกรรมของผู้เล่นหวยที่ศูนย์ข่าว TCIJ สัมภาษณ์ สอดคล้องกับงานวิจัยอย่างเช่นงานวิจัยของ นพนันท์ เรื่องเศรษฐกิจหวยใต้ดิน พบว่า ส่วนใหญ่ผู้ที่เล่นหวยจะฝากไว้กับความเชื่อและความหวัง กำหนดจากสิ่งที่เหนือกว่าและไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งอาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้หวยมีลักษณะพิเศษแตกต่างจากการพนันชนิดอื่น เช่น การเล่นหวยให้ความรู้สึกว่า ผู้เล่นมีส่วนร่วมในกิจกรรมของสังคม ที่สมาชิกสังคมมีการเล่นหวยเป็นกิจวัตร นอกจากนี้การเล่นหวยเป็นเรื่องความเชื่อ ผู้เล่นส่วนใหญ่รู้สึกว่าเล่นง่าย ขึ้นอยู่กับดวงโดยมีความฝันเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจว่าจะซื้อเลขไหน  ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนเล่นหวยจำนวนมาก ได้แก่ความชอบ ได้เสี่ยงโชค สนุกสนาน และอยากรวย

 

 

จากหวยชาวบ้านถึงสลากของรัฐบาล

 

 

แม้ว่าจากการได้สัมภาษณ์ผู้เล่นหวยในเขตกรุงเทพมหานคร จะนิยมเล่นหวยเพียงชนิดเดียว คือหวยใต้ดินควบคู่ไปกับสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือ ลอตเตอรี่แต่ปัจจุบันจากงานวิจัยของนพนันท์พบว่า ธุรกิจหวยใต้ดินได้รับการพัฒนาเป็นองค์กรที่ทันสมัย มีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้บริการ ผ่านเว็บไซต์ต่างๆ ซึ่งบริการที่ปรากฏในเว็บไซต์มีทั้งหวยใต้ดิน หวยหุ้น เช่น ดาวโจนส์ นิคเคอิ ฮั่งเส็ง ผู้เล่นสามารถเล่นได้ตามใจชอบ  เล่นได้ทุกวัน ไม่มีการจำกัดเวลา ว่าจะต้องออกต้นเดือน และกลางเดือนเท่านั้น สามารถแทงได้ตั้งแต่ 1บาทขึ้นไป ใช้ต้นทุนอย่างต่ำเพียง 300 บาท

 

อย่างไรก็ตามการเล่นหวยใต้ดินออนไลน์ หรือผ่านทางอินเตอร์เน็ตได้รับความนิยมน้อยมาก จากการสำรวจของมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เมื่อปี 2553 ระบุว่า มีนักเล่นหวยใต้ดินที่เล่นผ่านอินเตอร์เน็ต ไม่น่าจะมากกว่าร้อยละ 1.5

 

อย่างไรก็ตามในส่วนของหวยหุ้น ซึ่งสามารถซื้อได้วันละ 4 ครั้ง ซึ่งมีทั้งนิคเคอิ ฮั่งเส็ง หุ้นไทย และดาวโจนส์ ในขณะที่หวยใต้ดินซื้อได้เดือนละ 2 ครั้งเท่านั้น และยังให้ผลตอบแทนมากกว่าหวยใต้ดินประมาณ 10 บาท เช่น เลขท้าย 2 ตัวหวยใต้ดิน หากถูกจะได้เงิน 70 บาท ถ้าเป็นหวยหุ้นเจ้ามือจะจ่าย 80 บาท แต่หวยหุ้นกลับไม่ได้รับความนิยมเท่ากับหวยใต้ดิน ซึ่งชาวบ้านที่เล่นหวยให้ความเห็นว่า การเล่นหวยคือการเสี่ยงโชค ผู้เล่นหวยจะต้องมีลางบอกเหตุบางอย่าง ที่ทำให้เชื่อว่าจะมีโชค ซึ่งโชคนั้นไม่ได้เกิดขึ้นทุกวัน

นอกจากหวยใต้ดินที่ควบคู่ไปกับสลากกินแบ่งรัฐบาล หวยหุ้นแล้ว ในบางพื้นที่ยังมีหวยชนิดต่างๆ เช่น หวยปิงปอง หวยมาเลย์ ขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่ ว่าประชาชนในพื้นที่นั้นนิยมเล่นหวยชนิดใด ซึ่งนอกจากหวยใต้ดินแล้ว บรรดาสลากเพื่อการกุศลต่างๆ ควรจะนับเป็นส่วนหนึ่งของหวยด้วยเหมือนกัน แต่เป็นการออกอย่างถูกกฎหมายโดยรัฐบาลหรือหน่วยงานราชการ โดยมีเป้าหมายเพื่อระดมเงินออมพร้อมๆกับให้ประชาชนได้มีโอกาสเสี่ยงโชคด้วย

 

การเกิดขึ้นของสลากเพื่อการเสี่ยงโชค เหมือนเป็นต้นกำเนิดของหวยนั้น เริ่มมาตั้งแต่สมัยต้นรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้ตั้งโรงหวยโดยให้เอกชนเป็นผู้รับสัมปทานดำเนินการอย่างถูกกฎหมาย มีการออกหวยเรียกว่า หวย ก ข เป็นที่นิยมเล่นในหมู่คนไทยอย่างแพร่หลาย ส่งผลให้ประเทศมีรายได้จากการจัดเก็บอากรหวยเป็นจำนวนมาก และนับเป็นรายได้ที่สำคัญ

 

ต่อมาในรัชสมัยพระบาลสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริให้ยกเลิกการเล่นพนันทุกชนิดรวมทั้งยกเลิกการให้สัมปทานหวยด้วย การเล่นหวยจึงเป็นสิ่งผิดกฎหมายตั้งแต่นั้นมา สลากเสี่ยงโชคถูกนำเข้ามาในไทยอีกครั้งหนึ่ง เรียก “ลอตเตอรี่” หรือ “สลากกินแบ่งรัฐบาล” ปัจจุบันนี้มีสลากที่เป็นที่รู้จักพอๆ กับสลากกินแบ่งรัฐบาลคือสลากออมสิน ออกโดยธนาคารออมสินที่ตั้งเป้าไว้เพื่อให้ผู้ที่ชอบการเสี่ยงโชค หันมาออมเงินและได้ลุ้นในแต่ละงวดด้วย ซึ่งนอกจากสลากออมสินแล้ว ธนาคารออมสินยังมีสลากออมสินที่ออกในวาระต่างๆ และยังมีสลากออมทรัพย์ทวีสิน ออกโดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ซึ่งมีเป้าหมายคล้ายกับธนาคารออมสิน โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือเกษตรกรที่นิยมการเสี่ยง

 

 

จากหวยใต้ดินสู่หวยบนดิน-ผลประโยชน์ที่ไม่ลงตัว

 

 

หวยบนดินเป็นอีกหนึ่งนโยบายของอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2546 ให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ดำเนินการจำหน่ายสลากแบบเลขท้าย 2 ตัว และ 3 ตัว เพิ่มเติมจากการจำหน่ายสลากแบบเดิมที่มีอยู่ ซึ่งวัตถุประสงค์ของนโยบายดังกล่าว เพื่อเป็นการนำหวยใต้ดินซึ่งผิดกฎหมาย มาผ่านกระบวนการทางกฎหมายและปรับปรุงให้เป็นของรัฐบาล โดยนำรายได้ไปสร้างประโยชน์แก่ประเทศชาติ ซึ่งโครงการสำคัญที่นำรายได้จากหวยบนดิน ไปใช้คือ โครงการหนึ่งทุนหนึ่งอำเภอ

 

งานวิจัยของนพนันท์ระบุว่า หวยบนดินเป็นนโยบายที่โดนใจประชาชน เนื่องจากมีความเป็นธรรม ไม่เอาเปรียบประชาชนเหมือนกับสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่คนขายมักจะขายเกินราคาที่กำหนด หรือบางครั้งที่มีข่าวลือว่า มีหวยล็อกเลขเด็ด ราคาจะพุ่งขึ้นไปเท่าตัว ในขณะที่หวยใต้ดินมีทั้งเป็นธรรมและไม่เป็นธรรม เช่น บางครั้งมีกระแสข่าวเรื่องเลขล็อก เจ้ามืออาจเปลี่ยนแปลงกติกาการจ่ายเงินรางวัล หรือไม่รับเลขที่มีข่าวว่าเป็นเลขล็อก ในขณะที่ส่วนที่เป็นธรรมของหวยใต้ดินคือ ซื้อในวงเงินน้อยๆได้ มีเปอร์เซ็นต์ลดให้ถ้าซื้อจำนวนมาก ส่วนหวยบนดินรัฐบาลจ่ายในอัตราที่เท่ากัน ไม่มีการโกง

 

ทั้งนี้จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เรื่อง “หวยใต้ดิน-หวยบนดิน : พฤติกรรมการบริโภคของคนไทย” สำรวจประชากร 1,394 คน ได้คำตอบว่า หวยบนดินสามารถทดแทนหวยใต้ดินได้ในระดับหนึ่ง และซื้อหวยใต้ดินลดลงเมื่อมีหวยบนดิน โดยให้เหตุผลว่า หวยใต้ดินหาซื้อยาก กลัวผิดกฎหมาย ต้องการถูกรางวัลแจ็คพ็อตจากหวยบนดิน  อย่างไรก็ตามยังมีคนบางกลุ่มซื้อหวยใต้ดิน เนื่องจากใช้เครดิตซื้อได้

ขณะที่การศึกษาขนาดเศรษฐกิจของหวยใต้ดิน เมื่อปี 2543 โดย ดร.ผาสุก พงษ์ไพจิตร ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ และนวลน้อย ตรีรัตน์ ประมาณการขนาดของผลประโยชน์หวยใต้ดินระหว่างปี 2536-2538 อยู่ในราว 320,000 ล้านบาทต่อปี และเมื่อปี 2546 งานวิจัยของดร.สังศิตพบว่า จำนวนเงินที่เป็นผลประโยชน์จากหวยใต้ดินเพิ่มขึ้นเป็น 540,000 ล้านบาท เมื่อรัฐบาลออกหวยใต้ดินให้ถูกกฎหมาย ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม 2546-16 พฤศจิกายน 2549 ทำให้รัฐบาลมีรายได้จากการจำหน่ายหวยบนดินเป็นเงินทั้งสิ้น 135,000 ล้านบาท ประมาณการว่า ปริมาณเงินที่ยังคงมีการเล่นหวยใต้ดิน คงเหลือในราว 283,000 ล้านบาท

 

อย่างไรก็ตามหวยบนดินดำเนินการในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี คือตั้งแต่ 2546-2550 ต้องหยุดดำเนินการ เนื่องจากขัดต่อพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2517 หวยบนดินมีการดำเนินการเข้าข่ายสลากกินรวบ ไม่ใช่สลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะออกสลากกินรวบนั่นเอง

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: