เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน สมาชิกสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ (สกต.) ออกแถลงการณ์ เรื่อง การสังหารโหดแกนนำผู้หญิงนักต่อสู้เพื่อการปฏิรูปที่ดินทำกิน จากกรณีสมาชิกของสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ ได้แก่ นางมณฑา ชูแก้ว อายุ 50 ปีเศษ และนางปราณี บุญรักษ์ อายุ 52 ปี ที่อาศัยอยู่ในชุมชนคลองไทรพัฒนา หมู่ 2 ต.ไทรทอง อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2551 ถูกซุ่มยิงด้วยอาวุธสงครามจากคนร้ายไม่ทราบจำนวนจนเสียชีวิตคาที่ทั้งสองคน โดยในที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนปืน เอส.เค.และเอ็ม16 จำนวน 19 ปลอกตกอยู่ เมื่อเช้าวันที่ 19 พฤศจิกายน 2555
ตามการคาดการณ์ของชาวบ้านในพื้นที่ กรณีการเสียชีวิตดังกล่าวเนื่องมาจากปมความขัดแย่งเรื่องที่ดินทำกิน เนื่องจากพื้นที่ชุมชนคลองไทรพัฒนา เดิมเป็นพื้นที่ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ตั้งแต่ พ.ศ.2537 แต่มีการนำพื้นที่ไปใช้เพาะปลูกปาล์ม และไม่มีการจัดสรรให้กับเกษตรกรตามเจตนารมณ์ ต่อมาชาวบ้านจึงเข้ามาเรียกร้องให้ทาง ส.ป.ก.ดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อแก้ไขปัญหาการไร้ที่ดินทำกินของเกษตรกรตามนโยบายของรัฐบาล และถูกกดดันข่มขู่ คุกคามจากกลุ่มอิทธิพลที่ดูแลจัดการผลประโยชน์ให้บริษัทฯ ตลอดมา
นอกจากนี้ที่ผ่านมามีการคุกคามโดยใช้รถแบคโฮไถบ้าน เผาบ้าน และลอบสังหารชาวบ้านในชุมชนคลองไทรพัฒนา คือนายสมพร พัฒภูมิจนถึงแก่ชีวิตมาแล้ว เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ.2553 ซึ่งจนบัดนี้ก็ยังจับผู้กระทำผิดไม่ได้ และในช่วง 5 ปีที่ผ่านมากลุ่มอิทธิพลยัง มีความพยายามข่มขู่คุกคามชาวบ้านหลายครั้งหลายหน
แถลงการณ์ ของ สกต.ระบุว่า เหตุที่มาของความขัดแย้งและการสูญเสียชีวิตในครั้งนี้ เป็นผลเนื่องมาจากการทำงานที่ล่าช้าในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลและหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง พร้อมระบุเรียกร้องต่อรัฐบาลให้เร่งดำเนินการดังนี้ 1.เร่งรัดการติดตามจับกุมฆาตกร และผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์รุนแรงครั้งนี้มาลงโทษตามกฎหมายโดยเร็ว เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชน และป้องกันมิให้มีการคุกคามชีวิต ทรัพย์สิน ของผู้บริสุทธิ์อีกต่อไป
2.ขอให้รัฐบาลจัดส่งเจ้าหน้าที่จากสำนักงานตำรวจภาค 8 ไปอยู่ประจำชุมชน เพื่อดูแลประชาชนในชุมชนให้เกิดความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน 3.ให้รัฐบาลดำเนินการเยียวยาการสูญเสียชีวิตของประชาชน ทั้ง 2 คนผู้ซึ่งได้รับความเสียหายถึงชีวิตจากการกระทำความผิดทางอาญาของผู้อื่น ซึ่งมีมวลเหตุมาจากความไม่เป็นธรรมในการจัดสรรทรัพยากร และการปฏิรูปที่ดินให้กับเกษตรกรก็มีความล่าช้า นับตั้งแต่ประชาชนได้เรียกร้องสิทธิให้มีการนำที่ดินแปลงนี้เข้าสู่ขบวนการปฏิรูปให้เกษตรกรที่ขาดแคลนที่ดินทำกิน จนบัดนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าแต่ประการใด
4.ให้รัฐบาลเร่งรัดดำเนินการในการปฏิรูปที่ดินตามแนวทางโฉนดชุมชน และส่งมอบที่ดินให้กับชุมชนซึ่งเป็นเกษตรกรผู้ไร้ที่ดินทำกิน 5.ให้รัฐบาลเร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการ ตรวจสอบการครอบครองที่ดิน และการซื้อขายที่ดินเขต ส.ป.ก.ในแปลงที่ถูกบุกรุกทำประโยชน์โดยบริษัทจิวกังจุ้ยอย่างผิดกฎหมายโดยเร่งด่วน
ทั้งนี้การแก้ปัญหาที่ดินทำกินของเกษตรกรในพื้นที่ดังกล่าวนั้น เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ.2553 สำนักงานประสานงานเพื่อจัดให้มีโฉนดชุมชน สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ทำการตรวจสอบพื้นที่ตามขั้นตอนอย่างละเอียดแล้ว และอนุมัติให้พื้นที่คลองไทรพัฒนาจัดทำโฉนดชุมชนตามโครงการโฉนดชุมชนนำร่องในปี พ.ศ.2553 ช่วงรัฐบาลนายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ เพื่อแก้ไขปัญหาการไร้ที่ดินของเกษตรกร
ส่วนกรณีความคืบหน้าในทางคดีฟ้องขับไล่ระหว่างสำนักงานปฏิรูปที่ดิน กับ บริษัท จิวกังจุ้ยพัฒนา คดีอยู่ในชั้นศาลฎีกาบริษัทยื่นขอทุเลาบังคับคดีคุ้มครองผลอาสินในขณะเดียวกัน สำนักงานปฏิรูปที่ดินก็ได้ยื่นร้องถึงอัยการจังหวัดกระบี่ ให้ยื่นเรื่องต่อศาลขอยกเลิกการทุเลาบังคับคดี เพื่อเป็นการปกป้องผลประโยชน์ของ ส.ป.ก.แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังมิได้ดำเนินการใด ๆ จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์รุนแรงครั้งล่าสุดนี้ขึ้น
ด้านนายสุทธิพงศ์ สุทธิชูเกียรติ รองเลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินแห่งชาติ ซึ่งเคยลงไปสำรวจพื้นที่ในแปลงสวนปาล์มดังกล่าวแล้ว กล่าวว่า ต้องเร่งให้อัยการจังหวัดกระบี่ ได้ดำเนินการตามเจตนารมณ์ของ ส.ป.ก. โดยเร็ว เพราะนอกจากบริษัทฯจะยังสามารถเก็บเกี่ยวผลอาสินแล้ว ยังได้ทำการตัดแบ่งที่ดิน ส.ป.ก.เป็นแปลงย่อยๆ เพื่อขายให้กับกลุ่มผู้มีเงิน เจ้าหน้าที่บางคนของรัฐ โดยมีกลุ่มอิทธิพลในพื้นที่คอยดูแลจัดการ ซึ่งเป็นการกระทำที่ล่วงละเมิดกฎหมาย ดังนั้นจึงมีความเห็นว่าศาล สามารถที่จะยกเลิกการทุเลาบังคับคดีได้ เพื่อให้บริษัทฯ หยุดใช้เงื่อนไขทางกฎหมายมากระทำการรุนแรงกับชาวบ้านดังเช่นที่ผ่านมา
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ