เมื่อวันที่ 21 ต.ค. ที่หน้าศาลาประดู่หก ถ.ราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เครือข่ายคัดค้านแผนพัฒนาภาคใต้จากหลายจังหวัด ออกมาเคลื่อนไหวก่อน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาเป็นประธาน เปิดการรณรงค์สนับสนุนพระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช เป็นมรดกโลกแล้ว
ในการเคลื่อนไหวภายใต้ชื่อ เพชรเกษม 41 ปฏิบัติการต้มปูแดง ของเครือข่ายฯ ยืนยันไม่ไปยื่นหนังสือหรือเคลื่อนไหวใด ๆ ที่บริเวณวัดพระมหาธาตุ เนื่องจากเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ควรแก่การเคารพศรัทธา เพียงแต่ต้องการประกาศเจตนารมณ์ ในการคัดค้านแผนพัฒนาภาคใต้ ที่จะส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมและประชาชน โดยมีการอ่านแถลงการณ์ ทำกิจกรรมต้มปู ประกอบพิธีการปิด ถ.ราชดำเนิน เป็นการชั่วคราว และมีป้ายข้อความว่า “ปฏิบัติการเพชรเกษม 41 ปกป้องภาคใต้สู่แหล่งผลิตอาหารโลก” และยังมีการถือป้ายมีข้อความ “อย่าสร้างภาพเพื่ออนุมัติโครงการทำลายเลใต้”
นายทรงวุฒิ พัฒแก้ว ผู้ประสานงานเครือข่าย เปิดเผยว่า ปฏิบัติการเพชรเกษม 41 ต้มปูแดง ปกป้องภาคใต้สู่แหล่งผลิตอาหารโลก หมายถึงการปกป้อง แหล่งอาหารที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีความหลากหลายทางชีวภาพ ทางวัฒนธรรมและระบบนิเวศน์ที่ทำให้คนใต้มีอาหารกิน มีความสุข ไม่มีความจำเป็นใดที่จะต้องมาทำลายแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ดังกล่าว ซึ่งผลวิจัยของสภาพัฒน์ ฯ ยืนยันว่า ภาคใต้เป็นแหล่งสร้างงานให้กับประชาชนจากภาคอื่น ๆ ได้มีงานทำ เนื่องจากภาคใต้ มีทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ และเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญอันดับต้น ๆ ของโลก
ดังนั้นการที่รัฐบาลผลักดันหรือสนับสนุนให้มีการพัฒนาอุตสาหกรรมมลพิษ เช่น โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน โครงการขุดเจาะน้ำมัน และท่าเรืออุตสาหกรรมเชฟรอน ในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งเป็นแนวนโยบายที่ไม่สอดคล้องกับสภาพพื้นที่ในภาคใต้ และเป็นนโยบายที่ขัดแย้งกับแนวทางของสหประชาชาติที่เรียกร้องให้ประชาคมโลกรักษาแหล่งอาหาร เพื่อการเผชิญวิกฤติอาหารในอนาคตอันใกล้
ทางเครือข่ายจึงออกมาเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์ เพื่อสื่อไปยังนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ที่เดินทางมาประชุมครม.สัญจรที่เกาะสมุย และเดินทางมาปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ในครั้งนี้ โดยยืนยันว่า ทางเครือข่ายจะปกป้องพื้นที่ผลิตอาหารของภาคใต้ให้ถึงที่สุด และทางเครือข่ายยืนยันจะไม่ไปเคลื่อนไหว บริเวณวัดพระธาตุ ซึ่งเป็นสถานที่นายกฯ มาร่วมงานผลักดันวันมหาธาตุขึ้นเป็นมรดกโลกแต่อย่างใด
ด้านนายสมบูรณ์ กำแหง เครือข่ายรักสตูล กล่าวว่า ทราบข่าวมาว่าอาจจะมีการนำโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา (แลนด์บริดจ์สงขลา-สตูล) จะเข้าพิจารณาในที่ประชุมครม.สัญจร ที่เกาะสมุยในครั้งด้วย หากเป็นจริงรัฐบาลต้องตอบคำถามประชาชนให้ได้ ในเรื่องความคุ้มทุนและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งที่ผ่านมาภาคประชาชนและนักวิชาการ ตั้งคำถามมาตลอดแต่ยังไม่เคยได้คำตอบ
นอกจากนั้นโครงการแลนด์บริดจ์สงขลา-สตูล ยังมีผลกระทบต่อพื้นที่อุทยานแห่งชาติ รัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร และ HIA ก็ยังไม่ได้ทำ เพราะโครงการนี้เป็นโครงการที่มีผลกระทบต่อประชาชนอย่างมาก และอีกประเด็นคือ ความคุ้มทุนของโครงการ เมื่อก่อสร้างแล้วจะมีความคุ้มทุนหรือขาดทุน ประเด็นเหล่านี้รัฐบาลต้องตอบคำถามให้ได้ ไม่ใช่เดินหน้าก่อสร้างโครงการโดยไม่สนใจผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ