เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน กลุ่มอนุรักษ์ต้นน้ำท่าแซะรวมตัวกันเข้ายื่นหนังสือ แก่นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ที่ศาลากลางจังหวัดชุมพร ขอให้ยุติการสร้างเขื่อนท่าแซะ ในพื้นที่บ้านร้านตัดผม ต.สองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เนื่องจากส่งผลกระทบต่อชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมาก หากมีการก่อสร้าง

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ที่โรงแรมนานาบุรี จ.ชุมพร ในเวทีรับฟังความคิดเห็นที่จัดขึ้นโดยกรมชลประทาน มีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมชลประทาน  ชลประทาน ผู้นำท้องถิ่น องค์การบริหารส่วนตำบล กรมโยธาธิการและผังเมือง ฯลฯ รวมทั้งบริษัทผู้รับเหมาโครงการ แต่ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการกลับไม่ถูกเชิญให้เข้าร่วม ซึ่งในเวทีดังกล่าวเจ้าหน้าที่กรมชลประทานยืนยันว่า จะต้องสร้างเขื่อนท่าแซะอย่างแน่นอน เพราะการดำเนินการแล้วเสร็จในทุกขั้นตอน เหลือเพียงนำเครื่องจักรเข้ามาในพื้นที่เท่านั้น

ทางด้านตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์ต้นน้ำท่าแซะระบุว่า หากมีการก่อสร้างจะมีพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมประมาณ 9,800 ไร่ ต้องใช้งบประมาณในการก่อสร้างจำนวนมาก ไม่คุ้มกับการก่อสร้างที่ต้องแลกด้วยผืนป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ากรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ กว่า 3,000 ไร่ และจะมีประชาชนได้รับผลกระทบ 800 ครอบครัว

จึงขอให้รัฐบาลยกเลิกโครงการก่อสร้างเขื่อนท่าแซะ โดยให้ผู้ว่าฯ ชุมพร และกรมชลประทาน เสนอ ต่อรมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อยกเลิกโครงการดังกล่าวทันที และหากจะมีการดำเนินโครงการพัฒนาใด ๆ ในลุ่มน้ำท่าแซะ ต้องให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบเข้าไปมีส่วนร่วมในทุกกระบวนการการตัดสินใจด้วย รวมทั้งให้เปิดเผยข้อมูลที่แท้จริงต่อสาธารณะและประชาชนที่จะได้รับผลกระทบ

ด้านนายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าฯ ชุมพร กล่าวว่า ตนไม่มีอำนาจไปสั่งการ ทำได้เพียงเป็นนายไปรษณีย์ส่งต่อข้อคิดเห็นของประชาชนไปยังกรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ขณะที่ นายชนการ ทิพย์ประเสริฐสุข ป้องกันจังหวัดชุมพร กล่าวว่า ขอให้พี่น้องที่รับได้รับผลกระทบนอนหลับให้สบายใจ เพราะมีมติคณะรัฐมนตรีให้ชะลอโครงการเขื่อนท่าแซะ และเขื่อนจะไม่มีการสร้างอย่างแน่นอน แม้ว่าผู้ได้รับผลกระทบจะอธิบายให้ฟังถึงคำยืนยันต่อการก่อสร้างเขื่อนของเจ้าหน้าที่กรมชลประทาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีดังกล่าวทำให้ประชาชนที่เข้ายื่นหนังสือไม่มั่นใจในคำพูดของผู้ว่าฯ ชุมพร และป้องกันจังหวัดชุมพร เนื่องจากมองว่าอาจมีการบิดเบือนข้อมูล