เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 30 มี.ค. นายสมชัย แสงแก้ว หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 50 นาย เข้าทำลายรื้อถอนแปลงยางพาราของชาวบ้านสมาชิกเครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด บ้านทับเขือ-ปลักหมู ต.ช่อง อ.นาโยง จ.ตรัง และ ต.บ้านนา อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง ซึ่งมีพื้นที่ทำกินที่ถูกทำลาย 8 ไร่ ของชาวบ้าน 2 ราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ชาวบ้านสมาชิกเครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัดได้รวมตัวกันราว 20 คน ติดตามกลุ่มเจ้าหน้าที่ไปยังหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก แต่นายสมชัยได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ออกจากพื้นที่ไปแล้ว
นางปรีดา พุฒนวล สมาชิกองค์กรชุมชนบ้านทับเขือ-ปลักหมู กล่าวว่า เมื่อชาวบ้านรู้ข่าวการเข้ารื้อถอนทำลายแปลงสวนยางพาราในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า จึงพยายามแสดงตัว โดยทำแนวเขตให้ชัดเจนและมีการปักป้ายระบุว่า เป็นสมาชิกองค์กรชุมชนบ้านทับเขือ-ปลักหมู ภายใต้เครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด เครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย แต่ไม่คิดว่าจะมีการดำเนินการกับคนในชุมชนเร็วขนาดนี้
นางปรีดากล่าวว่า นายสมชัย แสงแก้ว หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า ซึ่งนำกำลังเข้าทำลายรื้อถอนแปลงยางพาราของชาวบ้านในครั้งนี้ เคยเข้าร่วมรังวัดแนวเขตพื้นที่โฉนดชุมชน ขององค์กรชุมชนบ้านทับเขือ-ปลักหมู ร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่ และนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ด้วย
“ชาวบ้านเสียความรู้สึก เพราะเราทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยาน เจ้าหน้าที่ป่าไม้มาโดยตลอด เมื่อมีปัญหาก็มีการปรึกษาหารือ มีการพูดคุยกันโดยตลอด ก่อนหน้านี้หากเจ้าหน้าที่จะเข้าพื้นที่โฉนดชุมชน ก็จะมีการแจ้งกับทางชุมชนก่อน การทำอย่างนี้ทำให้ชาวบ้านรู้สึกผิดหวังและเสียความรู้สึกมา” นางปรีดากล่าว
นางปรีดากล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาสมาชิกองค์กรชุมชนบ้านทับเขือ-ปลักหมู พยายามรักษากฎกติกาของชุมชนไม่ให้มีการบุกรุกป่า และหยุดใช้สารเคมีในการทำการเกษตร อีกทั้งยังมีข้อมูลที่ยืนได้ว่า พื้นที่ที่นำมาจัดทำโฉนดชุมชนนี้เป็นที่ทำกินเดิมของชาวบ้าน ต่อจากนี้ไปคงต้องรอคุยคณะกรรมการเครือข่ายแต่ละส่วน พร้อมย้ำว่า สิ่งที่ชาวบ้านถูกกระทำ ทำให้เสียความรู้สึกมาก โดยเฉพาะเมื่อพื้นที่ที่โดนเป็นพื้นที่ที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการประสานงานเพื่อจัดให้มีโฉนดชุมชน (ปจช.) แล้ว และยังเป็นที่ที่หนึ่งในคณะกรรมการของ ปจช.อยู่ด้วย สำหรับพื้นที่ของนายเรวัต รักทองจันทร์ หนึ่งในชาวบ้านที่ถูกทำลายพื้นที่ทำกินเพียง 3 ไร่ ตอนนี้ต้องไปทำงานรับจ้างก่อสร้างในตัว อ.นาโยง และยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว เพราะในพื้นที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์มือถือ
ด้านน.ส.พงษ์ทิพย์ สำราญจิตต์ ที่ปรึกษาเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย (คปท.) กล่าวแสดงความเห็นว่า การดำเนินการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งเรื่องที่ดินของรัฐบาลปัจจุบัน แม้จะมีการจัดประชุมคณะกรรมการประสานงานเพื่อจัดให้มีโฉนดชุมชนไปแล้ว 2 ครั้ง โดยมีเป้าหมายการจัดทำโฉนดชุมชน 2 ล้านไร่ ในระยะเวลา 3 ปี แต่ในระดับพื้นที่กลับมีการทำลายพื้นที่เกษตรของชาวบ้าน ทั้งที่บ้านทับเขือ-ปลักหมูนี้ถือเป็น 1 ในพื้นที่ 55 แปลงแรกที่ถูกกำหนดให้มีการจัดการที่ดินในรูปแบบโฉนดชุมชน
น.ส.พงษ์ทิพย์ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า เหตุที่เกิดขึ้นอาจเป็นผลพวงจากประเด็นทางการเมือง ระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากพื้นที่นี้เป็นพื้นที่นำร่องโฉนดชุมชนตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ส่วนอีกประเด็นคือ กระแสข่าวเรื่องฝุ่นควันและการตัดไม้ทำลายป่าในช่วงที่ผ่านมา อาจเป็นโอกาสให้ทางหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่าอาศัยเป็นข้ออ้างเข้าไปปฏิบัติการในพื้นที่ของชาวบ้านดังกล่าว
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ