เมื่อวันที่ 2 มกราคม ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงข่าวคดีที่กรุงเทพมหานครอนุมัติให้ขยายอายุสัมปทานการเดินรถไฟฟ้าบีทีเอส ว่า คณะกรรมการคดีพิเศษร่วมกับอัยการมีมติร่วมกันให้แจ้งข้อหาแก่ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร อาทิ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม., นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ อดีตปลัดกรุงเทพมหานคร, นางนิลวรรณ เพชระบูรณิน อดีตรองปลัดกทม. ปัจจุบันดำรงตำแหน่งปลัดกทม., นายธนา วิชัยสาร ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง กทม. รวมทั้งผู้บริหาร บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด และผู้บริหาร บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอส รวม 11 คน ในข้อหาร่วมกันประกอบกิจการรถรางโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือได้รับสัมปทานจาก รมว.มหาดไทย ตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59, 83, 84 และ 86
ทั้งนี้จากการที่ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และผู้บริหาร บริษัท กรุงเทพธนาคมฯ ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามประกาศของคณะปฏิวัติ ทำให้สัญญาให้บริการเดินรถรวมถึงสัญญาอื่นที่เกี่ยวข้อง เป็นนิติกรรมที่มีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามชัดเจน โดยกฎหมายก็ถือว่าตกเป็นโมฆะ
นอกจากนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า รมว.มหาดไทย เป็นผู้ที่มีอำนาจ และมีหน้าที่ควบคุมดูแลการปฏิบัติราชการของกรุงเทพมหานคร ซึ่งหากรมว.มหาดไทยเห็นว่า การปฏิบัติใด ๆ ของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ขัดต่อกฎหมาย หรือเป็นไปในทางทำให้เกิดการเสียประโยชน์ของกรุงเทพมหานคร รมว.มหาดไทยสามารถยับยั้งหรือสั่งการตามที่เห็นสมควรได้ กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงมีหนังสือไปถึงรมว.มหาดไทย โดยให้มีการพิจารณาถึงการปฏิบัติราชการของกรุงเทพมหานคร หากไม่ชอบโดยกฎหมาย กระทรวงมหาดไทยในฐานะผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย อาจจำเป็นต้องดำเนินการยกความเสียเปล่าแห่งความเป็นโมฆะของสัญญาขึ้นกล่าวอ้างได้ ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษได้นัดหมายให้ผู้ต้องหาทั้ง 11 คน มาพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ในวันที่ 9 มกราคม ตั้งแต่เวลา 9.00-15.00 น.
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ