จากกรณีคนร้ายซุ่มยิงการ์ดม็อบสวนยางที่ต.บ้านตูล อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เมื่อเช้ามืดวันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บสาหัส 1 ราย ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 2 กันยายน พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำหรับเงินรางวัลสำหรับผู้ให้เบาะแสคนร้ายยิงการ์ดม็อบสวนยางนั้น หากมีเบาะแสที่เป็นประโยชน์ต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. มอบให้ 100,000 บาท และ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าฯนครศรีธรรมราช มอบเพิ่มเติมอีก 50,000 บาท โดยสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ 1599 หรือที่ ภ.จว.นครศรีธรรมราช นอกจากนี้เพื่อเป็นการป้องกันเหตุร้ายในการชุมนุม ผบ.ตร.จึงสั่งการให้เพิ่มจุดตรวจจุดสกัดสำหรับตรวจค้นสิ่งของผิดกฎหมายและอาวุธ จึงขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตรวจค้นยานพาหนะ
ต่อมา พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า อาการของนายสิทธิศักดิ์ ใจงาม แพทย์ได้ผ่าตัดช่วยเหลือจนอาการปลอดภัยแล้ว เบื้องต้นทราบว่าสาเหตุมาจากการเมาสุราและทะเลาะวิวาทจนเป็นเหตุใช้อาวุธปืนยิงกันจนเสียชีวิต โดยแพทย์ที่รักษาผู้บาดเจ็บแจ้งว่า ก่อนผ่าตัดนายสิทธิศักดิ์บอกข้อมูลเหตุดังกล่าวว่า มีคู่กรณีเกิดทะเลาะกับนายศิริชัยและใช้อาวุธยิงจนเสียชีวิต แต่แพทย์ไม่ได้ซักอะไรมาก พนักงานสอบสวนจะต้องไปสอบปากคำผู้บาดเจ็บอีกครั้ง ตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
“ก่อนหน้านั้นตำรวจก็พอจะทราบเรื่องอยู่แล้วว่า สาเหตุเกิดจากเรื่องอะไร กำลังจะเอารูปผู้ต้องสงสัยไปให้ผู้บาดเจ็บชี้ยืนยัน แต่คุณหมอนำผู้บาดเจ็บเข้าห้องผ่าตัดไปก่อน ซึ่งในกลุ่มผู้ชุมนุมมีคนเมา มีเรื่องทะเลาะกันทุกวัน มีรายหนึ่งฟันกันแขนเกือบขาด คดีนี้มีคนพยายามปั่นกระแส เบี่ยงเบนประเด็น แต่คนในพื้นที่รู้เรื่องดี” ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช กล่าวและว่า กรณีกลุ่มผู้ชุมนุมอยากให้ตำรวจออกจากพื้นที่เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะนั้น ตำรวจตั้งห่างจากม็อบ 10 กิโลเมตร เพื่อเป็นการรักษาความสงบ ถ้าให้ตั้งด่านโดยรอบ 2 กิโลเมตร ก็เอาปืนเข้าไปไม่ได้ แต่ตอนนี้ปืนเต็มไปหมด
“ยืนยันว่าไม่ใช่การกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐอย่างแน่นอน และได้ตั้งด่านตรวจสอบอาวุธใน 4 จุดสำคัญที่จะเข้าสู่ อ.ชะอวด เพราะเกรงว่าจะมีมือที่สามเข้ามาสร้างสถานการณ์ และเพื่อให้เหตุการณ์คลี่คลายโดยเร็วต้องขอความร่วมมือผู้ชุมนุมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ รวมถึง ผบ.ตร.ได้ตั้งรางวัลนำจับ 1 แสนบาท และผู้ว่าฯ สนับสนุนอีก 5 หมื่นบาท ให้แก่ผู้ที่แจ้งเบาะแสแล้วนำไปสู่การจับกุมคนร้าย” ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช กล่าว
ด้านนายยงยศ แก้วเขียว นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทย ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยกำนันผู้ใหญ่บ้านจำนวนหนึ่ง ได้ร่วมกันแถลงจุดยืนอีกครั้ง โดยสนับสนุนกลุ่มผู้ชุมนุมที่ได้รับความเดือดร้อนจากราคายางที่ตกต่ำ โดยนายพรสิทธิ์ ไพรสณฑ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.ช้างกลาง อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า สนับสนุนการชุมนุมของประชาชน และอยากเรียกร้องให้ภาครัฐรีบลงมาแก้ไขปัญหาโดยเร็ว ขณะที่กำนันผู้ใหญ่บ้านจะไม่เป็นโล่ให้ทางราชการ แต่จะอยู่ด้วยกับประชาชน
ขณะที่ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนหาสาเหตุ ซึ่งสันนิษฐานไว้ 2 ประเด็น คือ เรื่องส่วนตัว เพราะอาจจะมีความขัดแย้งกัน หรือเรื่องการชุมนุม เนื่องจากผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เป็นคนนอกพื้นที่ และสร้างความเดือดร้อนให้คนในพื้นที่ แต่เหตุเกิดช่วงกลางดึกทำให้หาพยานหลักฐานได้ยาก คงต้องใช้เวลาสอบสวน
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่รัฐมีความหวาดระแวงกันอยู่ตลอดเวลา หลังจากการสลายการชุมนุม และยิ่งเกิดเหตุการณ์ล่าสุดการ์ดผู้ชุมนุมเสียชีวิตและบาดเจ็บทำให้สถานการณ์เลวร้ายขึ้นไปอีก และมีความโกลาหลวุ่นวาย ดังนั้นเจ้าหน้าที่จะต้องรีบทำความเข้าใจกับผู้ชุมนุม ถ้าทุกอย่างยังอึมครึมนับวันม็อบจะรุนแรงขึ้น รัฐบาลต้องลงไปเอง ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ระดับจังหวัด ต้องส่งผู้มีอำนาจเต็มระดับรัฐมนตรีลงไปแก้ไข
ด้าน นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ประหลาดใจว่า หลังเกิดเหตุยิงชาวบ้าน 2 คน ไม่กี่ชั่วโมงทางตำรวจนครศรีธรรมราชประกาศออกสื่อว่า เป็นเหตุที่ชาวบ้านในพื้นที่ยิงกันเอง ประเด็นคือ ตำรวจยังไม่มีการตรวจสอบแล้วทราบได้อย่างไร จุดนี้ทำให้ผู้ชุมนุมเกิดความแคลงใจ
นายอภิชาต การิกาญจน์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า คาดว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ จากการประสานงานกับชาวบ้านทราบว่า คนร้ายยิงเข้าเป้าทุกนัดคือ เล็งที่ศีรษะ ลำคอและหน้าอก น่าจะเป็นการใช้ปืนติดลำกล้องลอบยิงจากระยะไกล เพราะด้านข้างเป็นป่าละเมาะ ซึ่งยิ่งทำให้ชาวบ้านแรงขึ้นทั้งคนในพื้นที่และแนวร่วมสวนยางภาคใต้ อย่างไรก็ตาม ได้ประสานช่วยเหลือในการจัดงานศพและเรื่องคดีความ เพราะมีการสร้างข่าวว่าชาวบ้านทะเลาะขัดแย้งและยิงกันเอง
ทางด้าน สมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประชุมสมาชิกกว่า 90 คน ที่โรงแรมไดมอนด์พลาซ่า จ.สุราษฎร์ธานี โดยมีมติ 4 ข้อ 1.ให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาเร่งด่วนเพื่อป้องกันไม่ให้เลวร้ายไปกว่านี้ 2.สมาคมยืนยันอยู่เคียงข้างชาวสวนยางและปาล์ม ไม่เห็นด้วยกับคำแถลงการณ์กรณีที่ระบุว่า สมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านภาคใต้คัดค้านการชุมนุม 3.ไม่เห็นด้วยเจ้าหน้าที่รัฐใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุม เพราะเดือดร้อนจากปัญหาราคายางไม่ใช่กลุ่มจัดตั้ง และ 4.สมาคมยืนยันไม่มีการหนุนหลังจากนักการเมืองหรือพรรคการเมือง
นายคำรณ เทือกสุบรรณ นายกสมาคม กล่าวว่า การชุมนุมวันที่ 3 กันยายนนั้นเห็นด้วย และที่ออกมาแสดงจุดยืนไม่ได้คิดเห็นแตกแยกกับผู้ว่าฯสุราษฎร์ธานี และไม่มีการเมืองอยู่เบื้องหลัง ทั้งนี้อยากให้รัฐบาลช่วยเหลือเกษตรกรอย่างจริงจัง เพราะได้รับความเดือดร้อนจริง
ด้าน นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผู้ว่าฯสุราษฎร์ธานี ได้ประชุมด่วนนายอำเภอทั้ง 19 อำเภอ และหัวหน้าส่วนราชการ 100 คน ที่ห้องประชุมชั้น 5 ศาลากลางจังหวัด เพื่อประเมินสถานการณ์ชุมนุมวันที่ 3 กันยายน โดยได้เตรียมความพร้อมและตั้งศูนย์อำนวยประสานกับทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวัง โดยไม่มีนโยบายใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุม แต่ที่ห่วงมากที่สุดคือเรื่องมือที่สามที่อาจจะแทรกเข้ามาได้
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา ภาคีเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางและสวนปาล์มน้ำมัน ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 2 ระบุว่า สืบเนื่องการชุมนุมเป็นวันที่ 9 แล้ว และระยะเวลา 9 วันที่ผ่านมา พี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางและชาวสวนปาล์มน้ำมันผู้ชุมนุม ถูกคุกคามจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจนได้รับบาดเจ็บ ถูกจับกุม ข่มขู่ และเวลาประมาณ 03.30 น. ของเมื่อคืนที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธยิงผู้ชุมนุม 2 คน ได้รับบาดเจ็บสาหัสจำนวน 1 คน และเสียชีวิต 1 คน ซึ่งเหตุการณ์การดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ควรเกิดขึ้นกับพี่น้องผู้เข้าร่วมชุมนุมโดยชอบธรรม และสันติ และเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ
ดังนั้นทางกลุ่มผู้ชุมนุมขอเรียกร้องให้รัฐบาลภายใต้การนำของ ฯพณฯ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ภายใต้ข้อเรียกร้องข้อที่ 1 ของพี่น้อง ภาคีเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางและสวนปาล์มน้ำมัน ที่ว่าขอให้เจ้าหน้าตำรวจยุติการคุกคามใดๆ และขบวนการทำลายความหน้าเชื่อถือของพี่ผู้ชุมนุม ยกเลิกการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์การแสดงออกโดยชอบธรรมของพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยาง เราขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว นายศิริชัย บุญนุวงศ์ ผู้ชุมนุมที่ผู้เสียชีวิต และครอบครัว นายสิทธิศักดิ์ ใจงาม ผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างสุดซึ้ง
และเราขอให้รัฐบาลรีบเร่งรัดปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของแถลงการณ์ภาคีเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางและสวนปาล์มน้ำมัน โดยเร่งให้ผู้ที่มีอำนาจในการเจรจา เช่น นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ หรือ รัฐมนตรีที่ได้รับการแต่งตั้ง หากไม่รีบปฏิบัติการตามข้อเรียกร้องเรา เราอาจจะมียกระดับการชุมนุมตามแถลงการณ์ฉบับที่เร็วกว่ากำหนด
ขอบคุณภาพประกอบข่าวจากไทยรัฐ
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ