นายกฯถกอุตฯแปรรูปยาง วอนม็อบเจรจาอย่ารุนแรง

6 ก.ย. 2556 | อ่านแล้ว 1470 ครั้ง

เมื่อวันที่ 6 กันยายน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมร่วมภาครัฐและเอกชน เพื่อแก้ไขปัญหาราคายางพารา โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า การเชิญภาคเอกชนมาหารือในวันนี้ เพราะต้องการฟังว่าในส่วนของภาคอุตสาหกรรมที่เป็นดีมานด์ จะช่วยดูแลราคายางพาราอย่างไรได้บ้าง ทั้งนี้ภาครัฐพยายามที่จะลดซัพพลายในตลาด ด้วยการนำยางมาใช้มากขึ้น เช่น ถุงมือยาง การทำถนน หากเอกชนต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลืออะไรขอให้แจ้งมา เพื่อที่จะทำให้เกิดการบริโภคยางธรรมชาติมากขึ้น

             “รัฐบาลจะใช้สต็อกยางที่มี ให้กระทรวงคมนาคมกับกระทรวงกลาโหม ไปพัฒนาการทำถนนด้วยยาง พร้อมทั้งจะต้องหาทางลดต้นทุนให้เกษตรกร สนับสนุนให้ใช้ยางธรรมชาติมากขึ้น และพร้อมอุดหนุนเอกชนลงทุนเพิ่ม อย่างไรก็ตามขอความร่วมมือให้เอกชน ร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมยางทั้งระบบ เพื่อทำให้แนวคิด Rubber City เป็นจริงมากขึ้น” น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว

นอกจากนี้ วันเดียวกัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์ที่เมืองทองธานี ถึงกรณีที่เกษตรกรชาวสวนยาพาราภาคใต้ ยืนยันให้รัฐบาลดูแลราคายาง 100 บาทต่อกิโลกรัมว่า ต้องรอให้คณะกรรมการแก้ปัญหาราคายางพารา ได้พูดคุยกันกับตัวแทนเกษตรกรให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งคงต้องขอร้องขอความเห็นใจ และวันนี้ ได้เชิญภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับกลางน้ำและปลายน้ำมาร่วมประชุม สิ่งที่ได้รับฟังจากภาคอุตสาหกรรมในการทำงานนั้น คงต้องคำนึงถึงตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ในส่วนต้นน้ำมีความเห็นร่วมกันว่า นอกจากการดูแลเกษตกรชาวสวนยางพาราระยะยาวแล้ว คงต้องพูดคุยดูพื้นที่เพาะปลูกให้มีความเหมาะสม เพื่อให้ได้ผลผลิตดีและมีคุณภาพ โดยเฉพาะเรื่องต้นยางที่จะทำอย่างไรให้ต้นทุนลดลง เพราะวันนี้ในส่วนต้นน้ำจากการรับฟังการที่จะเพิ่มการใช้ยางธรรมชาติมากขึ้น คงต้องพยายามลดต้นทุน เพื่อให้ต้นทุนของยางธรรมชาติได้สัมพันธ์กันกับยางสังเคราะห์ ดังนั้นต้องมาช่วยกันทำต้นน้ำให้ดีขึ้น

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ส่วนกลางน้ำ ภาครัฐจะเร่งระดมสนับสนุนนโยบายด้านการส่งเสริม ซึ่งทางกระทรวงการคลังได้ให้วงเงินไว้แล้วประมาณ 15,000 ล้านบาท โดยทางผู้ประกอบการพอใจ ซึ่งจะเน้นเรื่องการสร้างโรงงานแปรรูปให้มากที่สุด จะทำให้การใช้จำนวนยางพารามีมากขึ้น นอกจากนั้นเรื่องของถุงมือยางทั้งที่ใช้ในส่วนอุตสาหกรรมทางการแพทย์และภาคการเกษตร เราจะส่งเสริมส่วนนี้มากขึ้น ขณะเดียวกันเบื้องต้นผู้ประกอบการมีความต้องการอยู่แล้ว รวมไปถึงการส่งเสริมการใช้ยางพาราจากภาครัฐ ซึ่งภาครัฐวันนี้ได้เห็นชอบ โดยทางกระทรวงคมนาคมคงจะนำเอาวัสดุยางพาราไปประกอบในการก่อสร้างถนน ซึ่งการทำถนนหรือฟุตบาธจะแจ้งในรายละเอียดต่อไปว่าจะสามารถทำได้เร็วที่สุดเมื่อไรอย่างไร จำนวนเท่าไร และในส่วนของกระทรวงกลาโหม ที่จะใช้ปริมาณยางพาราให้มากขึ้นและผู้ส่งออกไปยังผู้ผลิตยางรถยนต์ ตรงนี้ได้ขอความร่วมมือจากภาคเอกชนที่จะส่งออกมากขึ้นรวมไปถึงการใช้ยางธรรมชาติมากขึ้นด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลยังยืนยันในราคาที่ 80 บาทใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ต้องดูความเหมาะสมระหว่างต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำด้วย ตอนนี้ยังขอไม่สรุปเรื่องของตัวเลข ขอรับฟังปัญหาจากพื้นที่ก่อน เพราะองค์ประกอบนี้ไม่เพียงแค่เรื่องราคาอย่างเดียว จริง ๆ ต้องดูเกษตรกรผู้ปลูก เจ้าของสวนยาง คนกรีดยางด้วย ขณะที่พื้นที่เพราะปลูกแต่ละภาคไม่เหมือนกัน คงต้องพูดคุยกันทั้งอุตสาหกรรมต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำให้ครบก่อน ภาพรวมออกมาอย่างไรรัฐพร้อมในการสนับสนุนและช่วยกันอย่างเต็มที่ เรามีความจริงใจที่จะเข้าไปแก้ปัญหาและทำอย่างเต็มที่จริง ๆ

ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มผู้ชุมนุมชาวสวยยางภาคใต้จะยกระดับการชุมนุมถ้ารัฐบาลไม่รับข้อเรียกร้องเรื่องของราคา นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เราไม่อยากเห็นเหตุการณ์ที่ไปถึงเรื่องความรุนแรง ต้องขอร้องผู้ชุมนุม เรายินดีที่จะพูดคุยกัน เราน่าจะใช้เวทีในการพูดคุยกันมากกว่า เพราะเราไม่อยากให้มีผลกระทบถึงเศรษฐกิจและความเชื่อมั่น ซึ่งตนเชื่อว่าวันนี้เศรษฐกิจโลกในไตรมาสที่ 3 และ 4 มีแนวโน้มทิศทางที่ดีขึ้น ถ้าเราช่วยกันสร้างความเชื่อมั่น ซึ่งตรงนี้จะทำให้เสถียรภาพต่าง ๆ ของประเทศและราคาสินค้าโตในระยะยาว ต้องขอความร่วมมือ เราไม่อยากเห็นความรุนแรง เพราะวันนี้อาจกระทบการท่องเที่ยว ธุรกิจต่าง ๆในภาคใต้ หากเราพูดกันและมีทางออกร่วมกันจะดีกว่า

เมื่อถามว่านายกฯจะลงพื้นที่ไปดูปัญหาเองหรือไม่ หลังเกิดเหตุรุนแรงของกลุ่มผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ ที่ อ.บางสะพาน น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ก็ติดตาม ต้องเรียกว่าติดตามปัญหาตลอดกับผู้ที่รับผิดชอบ แต่ปัญหาไม่สามารถจบได้โดยกลุ่มเดียว ฉะนั้นเราต้องคุยกันในหลาย ๆ กลุ่ม และเราไม่อยากเห็นเยาวชนเข้ามาร่วมในส่วนนี้ ซึ่งเราอยากเห็นการแก้ปัญหาในภาคการเกษตรจริง ๆ มากกว่าประเด็นที่มีการเมืองเข้ามาด้วย ทั้งนี้เราขอรับฟังและยินดีน้อมรับฟังการแก้ปัญหาของพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยาง โดยเราได้ส่งคณะรัฐมนตรีไปรับฟังปัญหาต่าง ๆ

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า แสดงว่าเรื่องของราคามีโอกาสที่จะขยับขึ้นให้ได้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เราขอหาทางออกที่พี่น้องผู้ชุมนุมจะจบและเห็นด้วย เพราะวันนี้จากที่ภาครัฐได้คุยกันหลายรอบ แต่การชุมนุมก็ยังไม่จบ ดังนั้นขอไปพูดคุยกัน เพื่อให้การชุมนุมกลับมาสงบสู่สภาพเดิม เราใช้เวทีห้องประชุมพุดคุยกันและมีคนร่วมทำฝานกับผู้ที่เกี่ยวข้องน่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า หากเราชุมนุมกันนานเกินไป เกรงจะกระทบภาพรวมในเรื่องของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว คงต้อขอร้องและขอความร่วมมือ

เมื่อถามว่า นายกฯมั่นใจหรือไม่ในการเจรจาจะหาข้อยุติได้ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า เราเชื่อมั่นถ้าเรามีเจตนาที่จะมาร่วมกันในการแก้ปัญหา ตรงนี้จะเป็นทางออก เมื่อถามว่า นายกฯยืนยันได้หรือไม่ แม้ไม่ใช่ฐานเสียงก็จะแก้ปัญหา น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ยืนยันแม้ไม่ใช่พื้นที่ฐานเสียงก็จะดูแล เรียกว่าเราไม่เลือกปฏิบัติอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า หากการชุมนุมมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นจะมีมาตรการอะไรหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เชื่อว่าประชาชนในภาคใต้คงไม่อยากเห็นความรุนแรง คงต้องขอความร่วมมือที่จะพูดคุยกัน และขอความกรุณาผู้ชุมนุม เราเปิดเวทีแล้วที่จะพูดคุยขอให้เวทีนี้เป็นการสื่อสารระหว่างภาครัฐ ประชาชนและผู้ประกอบการร่วมกัน

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์

www.facebook.com/tcijthai

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: