เป็นที่รู้กันดีว่าบริเวณชายแดนไทยที่ติดกับพม่า ลาว และกัมพูชา มีบ่อนคาสิโนอยู่หลายแห่งที่มีเจ้าของเป็นคนไทย และมีลูกค้าคนไทยเดินทางไปเสี่ยงโชคไม่ขาดสาย กล่าวได้ว่าเงินจำนวนมากไหลออกนอกประเทศทุกวัน จนเป็นอีกหนึ่งเหตุผลสำหรับผู้ที่สนับสนุนให้มีบ่อนคาสิโนถูกกฎหมายในเมืองไทย ยกขึ้นมาใช้สนับสนุน
ศูนย์ข่าว TCIJ พูดคุยกับผู้จัดการโรงแรมซึ่งมีบ่อนคาสิโนรวมอยู่ด้วย ในเขตประเทศพม่าติดชายแดนไทย จังหวัดเชียงราย เจ้าของโรงแรมและบ่อนคาสิโนแห่งนี้คือ เฮีย ก ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในจ.เชียงราย ผู้จัดการรายนี้ยอมเปิดเผยประสบการณ์การบริหารจัดการบ่อนคาสิโน ส่วยสาอากรต่าง ๆ ที่ต้องจ่ายให้แก่เจ้าหน้าที่รัฐทั้งฝั่งไทยและพม่า รวมไปถึงความคิดเห็นต่อการเปิดบ่อนคาสิโนถูกกฎหมายในเมืองไทย
บ่อนวิ่งกรุงเทพฯ แย่งลูกค้าบ่อนชายแดน
เขาอธิบายเบื้องต้นว่า ลักษณะของบ่อนคาสิโนมี 2 ประเภท ประเภทแรกคือคอมเพล็ก คาสิโน ที่มีโรงแรมเป็นส่วนประกอบสำหรับนักเล่นที่มียอดการใช้จ่ายถึงตามเป้า กล่าวคือมีห้องเป็นค่าคอมมิชชั่น ส่วนประเภทที่ 2 คือโรงแรมที่ถูกระบุว่ามีห้องเกม
“ต่างกันนะครับ สมมุติคุณไปโรงแรมในเมืองไทย จะมีเกมรูม เข้าไปจะเห็นโต๊ะพูล สนุ้กเกอร์ ที่นี่เป็นโรงแรมที่มีเกมรูม ไม่ใช่คาสิโนที่มีโรงแรม ดังนั้น จึงมองว่าที่นี่เล็ก คุณมองให้ดีว่าที่นี่เป็นรีสอร์ตพักผ่อน กินบรรยากาศ ที่มีห้องเกมให้เล่น แต่คนไปมองว่าบ่อนคือบ่อน”
เขาเล่าว่าบ่อนแห่งเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2534 แต่เซ็นสัญญากับทางพม่าปี 2543 โดยต้องจ่ายค่าเช่าพื้นที่เขตปกครองพิเศษ 1,000 เอเคอร์ หรือ 2,300 ไร่ให้แก่ทางพม่าเดือนละ 40,000 เหรียญ แต่ห้ามคนพม่าเข้ามาเล่น เขาบอกว่าทางพม่าจะได้ปิดตาข้างเดียวบอกกับคนอื่นได้ว่าไม่มีคาสิโนเพราะคนพม่าไม่เล่น
ธุรกิจบ่อนคาสิโนแห่งนี้เริ่มเฟื่องฟูมากที่สุด ในช่วงปี 2543-2547 ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนไทย 99 เปอร์เซ็นต์ มีตั้งแต่นักการเมือง นักธุรกิจ ไปจนถึงชนชั้นสูง แต่เมื่อถึงปี 2548 ก็เริ่มขาดทุน เหตุจากหุ้นส่วนรายหนึ่งขอแยกตัวออกไปบริหารจัดการเอง จึงเท่ากับแบ่งกลุ่มลูกค้าไป แต่หุ้นส่วนรายนั้นกลับไม่มีประสบการณ์การบริหารบ่อนคาสิโน ทำให้ขาดทุน ประกอบกับมีบ่อนคาสิโนหรูหรามาเปิดใกล้ ๆ ในฝั่งลาว จึงยิ่งทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ลงไปอีก
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ดึงลูกค้าของบ่อนไปคือ การเกิดบ่อนเถื่อนบ่อนวิ่งในกรุงเทพฯ นอกจากลูกค้าที่หายไปแล้ว บ่อนวิ่งในกรุงเทพฯ และบ่อนชายแดนในละแวกใกล้เคียง ยังดึงพนักงานของบ่อนไปด้วยการให้เงินเดือน 2 เท่า
“เพราะเขาไม่ต้องฝึก แต่เราฝึกเด็กจากศูนย์ ในกรุงเทพฯ เด็กจากเราทั้งนั้น ที่นี่เราฝึกจับชิพนะครับ ถ้านิ้วยาวไม่พอจับชิพสูงจากโต๊ะ 20 อัน คือจับไม่ถึงอันล่าง เราไม่เอา คุณเห็นในหนังใช่มั้ยครับ การตีชิพ ขานชิพ ที่นี่จะคล่อง เพราะว่าสไตล์เรามาเก๊า ตุรกี ครั้งแรกฝึก 3 สัปดาห์ ไม่มีเงินเดือนให้ มีแต่ที่พักกับอาหาร”
ระบบรักษาความปลอดภัยเข้ม
ด้วยจำนวนเงินที่หมุนเวียนภายในบ่อนวันหนึ่งหลายสิบหลายร้อยล้านบาท การอบรมพนักงานและการรักษาความปลอดภัยจึงเป็นเรื่องสำคัญ เขาอธิบายหน้าที่ของพนักงานในบ่อนแห่งนี้ว่า พนักงานที่ทำหน้าที่แจกไพ่หรือเจ้ามือ หรือดีลเลอร์ (Dealer) ถ้าเป็นชายใส่เสื้อกั๊กสีเขียว หญิงใส่เสื้อกั๊กแดง คอยแจกไพ่ ขานไพ่ บอกว่าใครได้ใครเสียและคิดคำนวณตัวเงินได้-เสียได้อย่างรวดเร็ว
ข้างๆ ดีลเลอร์มีพนักงานใส่เสื้อกั๊กสีทองเรียกว่า Inspector คอยเฝ้าดูการทำงานของดีลเลอร์ และในกรณีที่ดีลเลอร์ทำชิพหล่น Inspector จะเป็นคนทำหน้าที่ก้มลงไปเก็บ เพราะมีกฎว่าดีลเลอร์ห้ามละสายตาจากโต๊ะเด็ดขาด ห้ามเคลื่อนกายออกไป มือต้องอยู่บนโต๊ะเสมอ
“ส่วนสูทแดงคือผู้จัดการประจำจุด ถ้าเป็นสูทดำคือชีฟเมเนเจอร์ ผู้จัดการรอบกลางวัน ผู้จัดการรอบกลางคืน สุดท้ายคือคาสิโนเมเนเจอร์ เรายังมีโรลลิ่งอีกตำแหน่งหนึ่ง คือแคชเชียร์เดิน ลูกค้าแค่เอาเงินส่งให้ โรลลิ่งก็จะไปแลกชิพมาให้”
ข้อห้ามเด็ดขาดของที่นี่คือ พนักงานทุกคนห้ามเกี่ยวข้องกับยาเสพติด หากจับได้และยอมรับ มาตรการเดียวคือไล่ออก แต่ถ้าจับได้แล้วไม่ยอมรับ ทางคาสิโนจะส่งตัวกลับฝั่งไทย และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาควบคุมตัวไปตรวจสอบต่อไป
กรณีที่มีลูกค้าใหม่เข้ามาเช่นกรณีของเรา ก็จะถูกจับตาดูเป็นพิเศษ มีการทำบันทึกรายงานว่าแต่งตัวอย่างไร ผมสั้น-ยาว สวมเสื้อแบบไหน สีอะไร มีอะไรผิดสังเกตหรือไม่ เป็นต้น แล้วผู้จัดการประจำจุดหรือสูทแดงจะเป็นคนอ่านรายงาน ถ้าสอบถามแล้วไม่ได้ความจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนนั้นก็จะโดนเตือนว่า ให้ข้อมูลไม่ละเอียด เพราะบางครั้งพอเห็นว่าเป็นลูกค้าขาประจำก็มักไม่รายงาน และถ้าในรายงานพบว่าลูกค้าคนใดผิดสังเกตจริงก็จะทำการย้อนเทปจากกล้องวงจรปิดดู
“เรามีกล้องวงจรปิดแบบทันสมัยมาก ที่สามารถซูมจนเห็นถึงขนบนแขนลูกค้าได้เลย 45 นาที เราต้องหมุนเวียนเปลี่ยนคนดูกล้อง ถ้าจะตีกัน ไปข้างนอกครับ ออกไปเลย รปภ. เราล็อกเลย แต่เราดูไม่ออกว่าลูกค้าคนไหนมีวี่แววจะตุกติก เว้นเสียแต่ได้รับแจ้งจากบ่อนเพื่อนบ้านว่า ให้ระวังคนคนนี้ ก็จะให้กล้องจับตาดู ที่เคยมีเหตุการณ์ก็คือ ล้วงกระเป๋าหยิบชิพคนอื่น แล้วก็มีกระเทยส่งผู้หญิงบริการมาให้ลูกค้า พอผู้หญิงขึ้นห้องกับลูกค้า กระเทยก็ปีนห้องขโมยของ”
เมื่อถามว่า กรณีที่จับตัวคนก่ออาชญากรรมในบ่อนได้แล้วทำอย่างไร เขาลดเสียงลงและกล่าวยิ้มๆ ว่า
“ก็อาจจะกระทืบนิดหน่อย คุณกล้ามาหยามเราขนาดนี้ได้ยังไง ผมเชื่อว่าที่อื่นก็เป็นอย่างนี้”
ไพ่-ชิพ ต้องสั่งทำเอง หลุด 1 ใบเสียหายหลายล้าน
เรื่องไพ่และชิพก็เป็นเรื่องสำคัญที่บ่อนคาสิโนต้องควบคุมใกล้ชิด มีการสั่งทำเป็นพิเศษจากต่างประเทศ เขาเล่าว่าบ่อนแห่งนี้สั่งทำไพ่จากประเทศญี่ปุ่น ด้านหลังจะมีสัญลักษณ์ของทางคาสิโน แล้วขนส่งจากท่าเรือคลองเตยมาลงที่เชียงแสน แล้วขนข้ามมาอีกทอดหนึ่ง เขายกตัวอย่างกรณีที่เคยเกิดเหตุไพ่หายมาเล่าให้ฟังว่า
“มีครั้งหนึ่งปี 2545 กล่องมีรอยฉีก ไพ่หายไป 12 สำรับ ผมไปถึงคนคุมคนงานเลย ผมไปตามเอาคืนแม้แต่ขี้เถ้าที่เขาบอกว่าเผาไปแล้ว จริง ๆ แล้วเป็นแค่ชาวบ้านที่อยากจะเล่นไพ่ แต่ถามว่าถ้ามันหลุดไป 1 ใบ สมมติเอซ โพดำ หลุดไปถึงมือนักเล่น 1 ใบ ความเสียหายกี่ล้านที่จะเกิดขึ้น ฉะนั้นต้องคุมให้ได้ เวลาของลง ผมต้องให้คนขึ้นไปบนตู้คอนเทนเนอร์ด้วย ลงเรือต้องมีคนติดในเรือไปด้วย เจ้าที่จะเอาคนงานมายกก็ต้องเป็นเจ้าประจำที่เราเคยใช้อยู่ มันค่อนข้างละเอียดอ่อน จุกจิก พอมาถึงก็ต้องตรวจนับ ฉะนั้น โอกาสที่เราจะโกงเพื่อเอาเปรียบลูกค้า ไม่มี ผมถึงบอกว่าตอนนี้บ่อนอยู่ในสภาวะขาดทุน บางทีลูกค้ามาทุบไปสี่ห้าล้าน เราก็เหนื่อยแล้ว เคยมีนะครับที่เราจ่ายเงินเดือนพนักงานช้า เพราะโดนลูกค้าทุบครั้งละสิบล้าน ยี่สิบล้าน หมุนเงินไม่ทัน”
ขาจร-ขาใหญ่-จังเก็ต
กลุ่มลูกค้าที่เข้ามาเล่นจะแบ่งเป็นขาจรและขาใหญ่หรือขาประจำ โดยกลุ่มขาจรจะเป็นกลุ่มที่ถ้าเสียก็หมดแล้วหมดเลย ไม่มีการให้เครดิต ส่วนจะไปจำนำทรัพย์สินที่ติดตัวมากับโรงรับจำนำที่ตั้งอยู่ภายในโรงแรม เพื่อไปเล่นต่อนั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ยกเว้นรถ
“เราห้ามมีการจำนำรถในพื้นที่จอดรถของเรา ถ้ามีคนบอกว่ามาเอารถโดยไม่มีใบฝากรถมา ห้ามให้รถไป”
ส่วนกลุ่มกระเป๋าหนักคือขาใหญ่และขาประจำ กลุ่มนี้ไม่จำเป็นต้องพกเงินสดมาเล่น แต่จะคุยเพื่อขอเครดิตโดยตรงกับเฮีย ก เช่นถ้าขาใหญ่มีเครดิต 10 ล้านบาท ก็สามารถเข้ามาขอชิพเล่นได้เลย หากเสียขาใหญ่ก็จะโอนเงินผ่านบัญชีมาให้ แต่ถ้าได้ทางบ่อนจะเป็นฝ่ายโอนเงินไป
“การจะให้เครดิตใครต้องเป็นเรื่องของเจ้านาย ผมไม่รู้ แต่อย่างหนึ่งคือ เรื่องความไว้เนื้อเชื่อใจ หนี้สูญก็เยอะแยะ อย่าลืมว่ามันเป็นเรื่องของเงินลอย ๆ อย่างเดียว มาถึงบอกว่า 10 ล้าน เบิกชิพเสร็จ เสียหรือได้ ในนี้บางคนอาจจะไม่ได้จับเงินสดเลย จับแต่ชิพ ฉะนั้น เงินหมุนเวียนธนาคาร คุณรู้มั้ยธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งในแม่สายมีเงินหมุนเวียนเป็นหมื่นล้านบาท”
ยังมีกลุ่มลูกค้าที่ได้เครดิตผ่าน ‘จังเก็ต’ ลักษณะคล้ายนายหน้าหาลูกค้าให้กับทางบ่อน สมมติว่า นาย ก เป็นจังเก็ตสามารถหาลูกค้าได้ 10 คน ก็จะติดต่อมาที่เจ้าของบ่อนขอเครดิต 10 ล้านบาท สำหรับลูกค้า 10 คน คนละ 1 ล้านบาท ถ้าเล่นได้ก็ได้ไป แต่ถ้าเล่นเสีย จังเก็ตจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
“ในมาเก๊าที่เกิดการอุ้มเพราะเสียแล้วไม่จ่าย เพราะจังเก็ตต้องรับผิดชอบ ถ้าจังเก็ตดีก็ดีไป ถ้าไม่ดีก็อุ้มลูกค้าตัวเองไปรีด เพื่อเอาเงินมาคืนบ่อนให้ได้ จังเก็ตก็ไม่ใช่นักเลง แต่เป็นคนที่เราไว้เนื้อเชื่อใจ เหมือนเป็นคนทำบัญชีให้เรา ที่นี่ก็มี บ่อนใหญ่ต้องมีจังเก็ต ต้องมีเป็นมือเป็นเท้าให้ ไม่อย่างนั้นเจ้าของบ่อนที่มีชื่อเสียงก็จะรับแต่ขาจร เพราะขาประจำมาจากจังเก็ต บ่อนเถื่อน บ่อนวิ่งในกรุงเทพฯ ก็มีจังเก็ตของตัวเอง คนที่จะเป็นจังเก็ตต้องได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากเจ้าของบ่อน คุ้นเคยกันมา ไม่ใช่จู่ๆ จะเป็นได้”
หัวใจของบ่อนคือความไว้เนื้อเชื่อใจ
เมื่อถามว่าอะไรคือหัวใจสำคัญของธุรกิจบ่อนคาสิโน เขาตอบว่าความไว้เนื้อเชื่อใจที่ลูกค้ามีต่อบ่อน เขาอธิบายว่าลูกค้าทุกคนที่เข้าบ่อน คิดเหมือนกันคือ ต้องการมาเอาเงินจากบ่อน แต่บ่อนจะคิดเหมือนลูกค้าคือจะเอาเงินจากลูกค้าอย่างเดียวไม่ได้ เขาจึงเน้นย้ำว่าบ่อนคาสิโนขนาดใหญ่ จะโกงลูกค้าไม่ได้เด็ดขาด เพราะจะทำให้บ่อนเสียชื่อทันที และไม่มีลูกค้าเข้ามาเล่น แต่บ่อนขนาดเล็กอาจจะมีการโกงลูกค้า
“บ่อนใหญ่โกงลูกค้าไม่ได้ครับ แต่คนเล่นโกงได้ โกงได้จริง ๆ บางทีกก ๆ อยู่ ใต้แขนเสื้อยังดึงออกมาได้เลย พวกโป๊กเกอร์น่ะโกงง่าย”
เขาบอกว่าในกรณีที่ลูกค้ามือขึ้นมาก ๆ ทางบ่อนไม่มีนโยบายขอให้ลูกค้าหยุดเล่น แต่ที่อื่นมี
“บางคนไพ่เขาขึ้นดี ลง 10 ล้าน เรามึนเลย คุณได้ เราดีใจ ถ้าคุณกลับมาอีก ถ้าคุณได้ แล้วไม่กลับมาอีก เราเสียดายเงินเหมือนกัน แต่เรารู้ว่าถ้าคุณกลับมาอีก คุณต้องเอาเงินมาคืนเราแน่ เขาเรียกแชร์ไปแชร์มา ลูกค้าขาประจำ คราวที่แล้วเอาเราไปห้าล้าน คราวนี้เสียสิบ คนเล่นจะได้ใจ คราวที่แล้วได้ ปรากฏว่าคราวนี้เสีย บ่อนเราไม่กลัวลูกค้าจะได้ แต่เรากลัวลูกค้าไม่กลับมา”
“เราไม่มีการทำการตลาดครับ ที่นี่มีแค่ภาพลักษณ์ว่า บ่อนเราไว้ใจได้ ไม่ต้องโปรโมต การทำบ่อนอยู่ที่ความไว้เนื้อเชื่อใจ การทำการตลาดไม่จำเป็น ถ้าเราไม่เคยเบี้ยว ถ้าสร้างความเชื่อใจแก่ลูกค้าได้ เราก็จะได้ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง แค่เราบอกว่าให้ค่าคอมฯ 2 เปอร์เซ็นต์ แค่นี้ลูกค้าก็วิ่งมาแล้ว”
รัฐมนตรี-เจ้ามือเก่า-นักลงทุน จับมือดันบ่อนคาสิโนถูกกฎหมาย
สำหรับแนวคิดการเปิดบ่อนคาสิโนถูกกฎหมายในเมืองไทย ผู้จัดการรายนี้เห็นด้วยกับการมีบ่อนคาสิโนในเมืองไทย เพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ
“ที่อื่นเขากอบโกยเงินกันไปเท่าไหร่แล้ว ผมไปดูงานที่เก็นติ้ง มาเลเซีย เขาทั้งลูกเอาไปเลย ผมว่าถ้าเมืองไทยมี ดี แต่อยู่ที่การควบคุม คุณอาจจะทำเป็นเขตพิเศษหรืออะไรก็ได้ แล้วเก็บภาษีให้ดี อย่ามองว่านี่คือบ่อน หรือพวกผีพนัน ถ้ามองแบบนี้ก็จะกดบ่อนให้ต่ำ แต่เมืองนอกเขาแชร์ เท่ากันหมด มันคือสถานที่สำหรับผ่อนคลาย ที่สำหรับความบันเทิง ใคร ๆ ก็อยากไปเที่ยวลาสเวกัส เล่นไม่เล่นก็ช่าง”
เขากล่าวว่า หากจะทดลองเปิดควรเลือกแหล่งที่มีชาวต่างชาติจำนวนมาก อย่างพัทยาหรือภูเก็ต เพื่อกอบโกยเงินตราต่างประเทศ และควรให้มองว่าเป็นแหล่งบันเทิง เป็นเอ็นเตอร์เทนเม็นต์ คอมเพล็กซ์ อย่าไปมองว่าเป็นคาสิโน หลังจากนั้นจึงค่อยขยายตัวออกไป ทดลองหามาตรการสำหรับคนต่างชาติ ซึ่งเป็นคนที่มีระเบียบวินัยสูงกว่า ซึ่งจะเป็นตัวอย่างให้แก่การดูแลบ่อนคาสิโนต่อไป แล้วจึงนำมาลองใช้กับคนเอเชียหรือคนไทย
“เราป้องกันคนไม่ให้ไปเล่นไม่ได้ ผมถามว่าจะตั้งในเมืองไทย เขาจะให้คนไทยเข้าไปเล่นหรือเปล่า ถ้าตั้งบ่อนคาสิโนในเมืองไทย แต่รับเฉพาะคนต่างชาติ ก็จะเหมือนกับที่ท่าขี้เหล็ก ที่นั่นจะมีแถวตีนสะพาน แถวตลาดท่าล้อ เขาเรียกว่าบ่อนปงถุน เป็นภาษาพม่า พวกขาใหญ่ แทงหนัก ขึ้นไปอยู่ข้างบน แต่ข้างล่างมีตำรวจเก็บส่วย พวกที่มีเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็เล่นข้างล่างซะ”
เมื่อถามถึงข่าวที่ว่า หากมีการอนุญาตให้เปิดบ่อนคาสิโนถูกกฎหมายจริง นักธุรกิจที่จะมาลงทุนได้ถูกวางตัวไว้หมดแล้วจากกลุ่มการเมือง เขาแสดงความเห็นว่า รัฐมนตรีส่วนใหญ่ก็เป็นนักเล่น อาจจะจับมือกับเจ้ามือเก่า และนักธุรกิจที่อยากลงทุน น่าจะร่วมกันผลักดันให้เปิดบ่อนคาสิโนถูกกฎหมาย
“ใครวางแผน คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นคนวางแผนทั้งนั้น ถามผม ผมก็แค่ลูกกระจ๊อกตัวหนึ่ง จริงๆ มันถูกวางไว้หมดแล้ว”
แฉต้องจ่ายส่วยหน่วยงานทุกตัวย่อ
ส่วยเป็นสิ่งที่แยกไม่ออกกับธุรกิจการพนัน ผู้จัดการรายนี้กล่าวว่า ทางบ่อนต้องจ่ายให้แก่เจ้าหน้าที่รัฐทั้งฝั่งไทยและฝั่งพม่า หากจะมีความแตกต่างอยู่บ้างก็คงเป็นที่การรับส่วยของเจ้าหน้าที่รัฐพม่ารับกันบนโต๊ะ ส่วนเจ้าหน้าที่รัฐไทยเขาแสดงท่าทางประกอบด้วยการสอดมือลงไปใต้โต๊ะ
“ที่บ้านไพลิน กัมพูชา มีอยู่ 3-4 บ่อน เป็นที่ที่หน่วยงานบางหน่วยของไทยชอบที่สุด ในบรรดา หน่วยงานเดียวกันที่มีอยู่ทั่วประเทศ บ่อนใหญ่ใน 3 บ่อนนั้น มีบ่อนหนึ่งที่ให้เดือนละ 8 แสน เราเป็นบ่อนเล็กที่ให้แค่เดือนละ 2 แสน แลกกับการอำนวยความสะดวก ไม่มีหรอกที่เขาจะไม่มาจู้จี้จุกจิกใส่เรา สิ่งที่คนทำธุรกิจตรงนี้ต้องการมากที่สุด คือความคล่องตัวในการเข้า-ออกของลูกค้า บางหน่วยงานไม่ได้ส่วย ก็สั่งปิด ตัวย่อทั้งหลายรับส่วยหมดแหละครับ พอไม่ได้ก็ใช้อำนาจ”
เขาเล่าเหตุการณ์ตัวอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2552 และกลายเป็นข่าวโด่งดัง เมื่อมีนายตำรวจคนหนึ่งมาที่บ่อน
“นี่คือเรื่องของระบบรีดไถที่คนคนนี้ไม่เลิกนิสัยแบบนี้ คนนี้ออกจากวงการตำรวจเพราะเกี่ยวข้องกับบ่อนการพนัน ตระเวนไปตามชายแดนทั่วประเทศไทย เพื่อรีดไถบ่อนการพนันที่คนไทยข้ามไปเปิดและต้องมีการนำคนเข้าออก มาถึงก็คุยว่า ผมไปมาหมดแล้วทุกบ่อน ผมรู้ว่าคุณแอบเอาคนเข้าไป พาข้ามไปเล่นหลัง 6 โมงเย็น จริงเท็จไม่รู้ แต่ผมขอบ่อน 1 ล้าน เอาเป็นชิพนะ เพราะผมเป็นคนชอบเล่นอยู่แล้ว แล้วถ้าลูกน้องผมมาก็ช่วยดูแลเรื่องอาหารการกิน ที่พักให้หน่อยแล้วกัน ผมก็บอกว่าผมไม่ใช่คนมีอำนาจในการตัดสินใจ เขาก็บอกผมว่า อ้อ ผมรู้ คุณมันแค่ลูกกระจ๊อก ไปบอกนายคุณแล้วกัน เดี๋ยวผมจะติดต่อคุณมาเอง”
“อีกเดือนหนึ่งเขากลับมาอีก บอกเด็กว่าไปตามผู้จัดการมาซิ ผมไม่ออกไป ไม่ออกมาใช่มั้ย ก็เอากล้องวิดีโอมาถ่ายๆๆ ตรงที่คนจะข้ามฝั่งมา บอกว่าเป็นคนของพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง พวกที่จะข้ามมาก็ตกใจกันใหญ่ กลางคืนมาที่ที่จอดรถของเรา จะขอค้นรถทุกคันว่ามีสิ่งของผิดกฎหมายหรือเปล่า ผมสุดทนก็เลยโทรแจ้งท้องถิ่นว่า มีคนมาป่วนที่ที่จอดรถของเรา ตำรวจมาแล้วเห็นว่ากำลังน้อยกว่า เพราะเขามากันหกเจ็ดคน ตำรวจจึงขอความร่วมมือจากตำรวจตระเวนชายแดนที่อยู่ใกล้ ๆ ก็เข้ามาทะเลาะกัน เขาหนี แต่สุดท้ายหนีไม่พ้น เลี้ยวเข้าโรงพัก แล้วก็โยนกุญแจรถทิ้ง ต้องจ้างคนมาไขกุญแจ พบปืนเถื่อนอยู่ในรถ 7 กระบอก ไม่มีใบอนุญาต สุดท้ายติดคุกหนึ่งคืน ส่งฟ้องศาล ไอ้คนที่มาด้วยก็หนีคดีเยอะแยะไปหมด”
“ก่อนหน้านี้ 4-5 ปี ก็เคยมาอ้างกับผมว่า มาจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กรุงเทพฯ บางทีมานั่งกินที่ร้านอาหาร บอกว่าผู้หลักผู้ใหญ่มา พร้อมกับบอกว่า กูมานั่งกินเหล้ากินข้าว มาจ่ายเงินหน่อย มาขอเงิน สมัยนั้นช่วงพีค ๆ ใครมาไถก็ให้ ให้กันง่ายจะตาย นี่คือสันดานของคนชอบรีดไถ”
บ่อนยอมให้จับแลกเจ้าหน้าที่ได้ผลงาน
ถ้าเปรียบเทียบต้นทุนที่เป็นทางการหรือต้นทุนที่ถูกต้องตามกฎหมาย กับต้นทุนที่ไม่เป็นทางการ หรือบรรดาส่วยต่าง ๆ เขากล่าวว่า สัดส่วนของต้นทุนที่ต้องจ่ายออกไป เพื่ออำนวยความสะดวกต่อต้นทุนที่ถูกกฎหมายอยู่ที่ 60:40 เขาบอกว่า ไม่มาก เมื่อถามอีกว่า ถ้ามีการเปิดบ่อนคาสิโนถูกกฎหมายขึ้นในเมืองไทย ตัวเลขสัดส่วนส่วยที่ต้องจ่ายจะลดลงหรือไม่
“ลดลง ถ้ามีมาตรการควบคุมได้ ข้อมูลที่ได้รับจากกลุ่มพวกผม จะทำให้พวกคุณรู้ว่า จะต้องจัดการอย่างไร จะทำให้สัดส่วนตรงนี้ลดลง 50:50 ก็ยังดี แต่บอกได้เลยว่า ผลประโยชน์มันสูง อย่างผมเปิดบ่อนไก่เสียภาษีแค่ไม่กี่บาทที่อำเภอ ยกตัวอย่างเช่นผมเสียภาษีบ่อนไก่ให้แก่อำเภอเชียงแสน 200 บาท พอเจ้าหน้าที่มาผมให้ 200 บาท เขาจะเอาเหรอ มันจะเป็นไปได้มั้ย ที่จะ 50:50 ถ้ามันเป็นไปไม่ได้ ก็ต้อง 60:40 แล้วถ้าบ่อนถูกกฎหมาย ส่วนแบ่งผลประโยชน์จะมากขึ้น ผลประโยชน์ของคนที่จะได้ ถ้าไม่ลงตัวเมื่อไหร่ เขาจะทะเลาะกันเอง บ่อนไม่เกี่ยว สมมติผมจ่ายให้ตัวย่อนี้ อีกตัวย่อหนึ่งรู้ว่าผมจ่ายให้มากกว่า มันมาต่อว่าผมแล้วนะ ผลประโยชน์เป็นเรื่องสำคัญ ถ้าคุณให้เขาน้อยหรือแบ่งส่วนแบ่งให้ไม่ลงตัว ปัญหาก็เกิดขึ้นเมื่อนั้น” ผู้จัดการบ่อนชายแดนกล่าว
เมื่อถามด้วยว่า เวลาที่บ่อนใหญ่สักแห่งจะถูกจับกุมงานมีสาเหตุจากอะไร
“ผมเป็นผู้บริหาร ไม่ใช่คนที่อยู่ในแวดวงการพนัน เราวิเคราะห์กันในกลุ่มของผู้บริหารเรานี่แหละว่า เมื่อถึงเวลาที่เราจะย้ายที่ เราก็อยากให้อีกสักคนมีผลงาน คุณได้ผลงาน พูดกับสื่อได้ แต่จับเจ้าของไม่ได้ ถามว่ามีกี่ครั้งที่จับเจ้าของบ่อนได้ มีมั้ย ก็แบ่งปันผลงานให้เขาบ้างสิ”
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ