ขณะนี้ ส่วนที่เห็นเป็นเพียงโครงสร้างลอยน้ำส่วนหนึ่งที่เพิ่งถูกลากจูงออกมาจากอู่แห้งเป็นครั้งแรก เรือลำนี้ได้รับการพัฒนาปรับปรุงโดยบริษัทรอยัลดัตช์เชลล์ (Royal Dutch Shell) เพื่อต้องการที่จะใช้เป็นคลังเก็บสำรองก๊าซธรรมชาติเหลว (FLNG) ที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน และเรือ Prelude ลำนี้ถือว่าเป็นเรือธง (flagship) ลำแรก

เรือคลังเก็บสำรองก๊าซธรรมชาติเหลว (Shell’s Prelude floating liquefied natural gas (FLNG) plant) ตัวเรือมีความยาว 488 เมตร ได้รับการลากจูงออกจากอู่แห้งของอู่ต่อเรือ Samsung Heavy Industries (SHI) ในเมือง Geoje ประเทศเกาหลีใต้ หลังจากที่เรือลำนี้ได้รับการก่อสร้างภายในอู่แห่งนี้มาปีกว่า

ด้วยระวางขับน้ำเต็มที่ 600,000 ตัน เรือลำนีจะเป็นวัตถุลอยน้ำที่มีโครงสร้างใหญ่ที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยสร้างมา เรือ Prelude FLNG จะมีระวางขับน้ำเทียบเท่ากับเรือบรรทุกเครื่องบินที่มีขนาดใหญ่รวมกัน 6 ลำ  ความยาวเรือ 488 เมตร (1,601 ฟุต) ซึ่งยาวกว่าเกือบ 300 ฟุตเมื่อเทียบกับเรือบรรทุกสินค้าแบบตู้คอนเทนเนอร์ (containerships) รุ่น Triple-E ล่าสุดของสายเรือ Maersk ตัวเรือสร้างขึ้นด้วยเหล็กหนักรวม 260,000 ตัน จำนวนเหล็กมากกว่าสามเท่าในการสร้างสะพานโกเด้นเกท (Golden Gate) ด้านในตัวเรือเป็นถังเก็บสำรองก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ที่สามารถเก็บได้ถึง 220,000 ลบ.ม. ก๊าซแอลพีจี (LPG) ปริมาณ 90,000 ลบ.ม.และก๊าซคอนเดนเสท (condensate) ปริมาณ 126,000 ลบ.ม. หรือเทียบเท่ากำลังการเก็บน้ำรวมของสระว่ายน้ำว่ายน้ำโอลิมปิกจำนวนประมาณ 175 สระน้ำ

บริษัทเชลล์ (Shell) วางแผนที่จะนำเรือ Prelude FLNG ไปผูกจอดลอยลำใช้งานที่จุดประมาณ 200 กิโลเมตรนอกชายฝั่งตะวันตกของประเทศออสเตรเลีย บริเวณแหล่งก๊าซ Prelude gas field เป็นเวลา 25 ปี ซึ่งคาดว่าจะมีกำลังผลิตเทียบเท่ากับ 110,000 บาร์เรล (BOE) ต่อวัน

ที่มา http://www.marinerthai.net