เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.)  เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายเกี่ยวกับโรงเรียนขนาดเล็ก กับ ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ ว่า ได้มอบให้ ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา สำรวจดูว่าในเขตที่รับผิดชอบมี ร.ร.ขนาดเล็กที่เข้าข่ายไม่จำเป็นต้องคงอยู่ คือมีจำนวนนักเรียนน้อยมาก การเรียนการสอนด้อยคุณภาพ และมีโรงเรียนใกล้เคียงที่มีคุณภาพรองรับอยู่ หากมีก็ให้ยุบรวมโรงเรียนขนาดเล็กแห่งนั้น แต่ทั้งนี้สำหรับโรงเรียนบางแห่ง อาจต้องทำความเข้าใจให้ชุมชนรับรู้ว่ารัฐบาลไม่มีกำลังงบประมาณที่จะพัฒนาโรงเรียนได้ทุกแห่ง และไม่สามารถนำงบประมาณจากเงินภาษีมาดูแลทุกโรงเรียนได้เท่าเทียมกัน

            “แม้แต่ประเทศพัฒนาแล้วอย่างสหรัฐอเมริกา ยังมีการปิดโรงเรียนขนาดเล็ก แม้แต่ในเมืองหลวงอย่างกรุงวอชิงตัน ดีซี อยู่บ่อยครั้งถ้าเห็นว่าไม่มีประโยชน์จะคงไว้ แม้มีนักเรียน 300 คนยังถูกปิด หรืออย่างโรงเรียนใน จ.สมุทรสาครบ้านเกิดผม มีนักเรียนแค่ประมาณ 20 คน เป็นชาวต่างชาติทั้งนั้น ถามว่าอย่างนี้จะเปิดไว้ทำไม คุณภาพก็ไม่ได้ ขณะที่โรงเรียนข้างเคียงที่มีคณภาพ ก็อยู่ห่างไม่ถึง 1 กิโลเมตร ถ้ายุบโรงเรียนแล้วย้ายเด็กไปเรียนในร.ร.ที่มีคุณภาพมากกว่า จะเป็นประโยชน์ทั้งต่อตัวนักเรียนเองและเป็นประโยชน์ต่อการจัดการศึกษาในภาพรวม” รมว.ศึกษาธิการกล่าว

รมว.ศึกษาธิการกล่าวต่อว่า การยุบรวมโรงเรียนขนาดเล็กนั้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อนักเรียน เพราะ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้จัดระบบรับส่งนักเรียนรองรับไว้แล้ว โดยเตรียมงบประมาณจัดซื้อรถตู้ 1,000 คัน สำหรับรับส่งนักเรียน  ซึ่งในบางพื้นที่อาจให้เอกชนเข้ามาประมูลเพื่อรับไปบริหารจัดการแทนได้ หรือจัดงบประมาณจัดซื้อรถจักรยานให้เด็ก ในกรณีที่ย้ายไปโรงเรียนใหม่ซึ่งอยู่ไม่ไกลมาก ส่วนโรงเรียนขนาดเล็กที่ยังคงอยู่ จะต้องบริหารจัดการใหม่ ใช้วิธีรวมกลุ่มกันจัดการเรียนการสอน  นำครูและทรัพยากรของแต่ละโรงเรียนมาใช้ร่วมกันเพื่อให้สามารถจัดการเรียนการสอนที่มีคุณภาพขึ้น

ด้านนายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า โรงเรียนขนาดเล็กที่ สพฐ.ตั้งเป้ายุบรวมนั้น จะเป็นโรงเรียนที่มีจำนวนนักเรียนน้อยกว่า 60 คน ซึ่งผอ.เขตพื้นที่การศึกษา ต้องไปสำรวจว่า มีโรงเรียนที่อยู่ในข่ายถูกยุบได้ทันทีจำนวนเท่าใด ทั้งนี้โรงเรียนขนาดเล็ก ที่มีจำนวนนักเรียนน้อยกว่า 120 คน ลงทั่วประเทศ มีจำนวนประมาณ 17,000 โรง จากจำนวนโรงเรียนทั่วประเทศกว่า 30,000 โรง

สำหรับขนาดเล็กที่มีนักเรียนน้อยกว่า 120 คน มีทั้งหมด 14,816 โรง เป็นโรงเรียนขนาดเล็กที่มีนักเรียนน้อยกว่า 60 คน จำนวน 5,962 โรง โรงเรียนที่มีนักเรียนไม่เกิน 20 คน จำนวน 709 โรง ,มีนักเรียนตั้งแต่ 21-40 คน จำนวน 2,090 โรง , นักเรียน 41-60 คน 3,163 โรง