ขุมทรัพย์กองสลากปีละ5หมื่นล้าน จี้หยุดทำตัวสร้างบุญคุณให้สังคม ทั้งที่เป็นเงินพนัน-ดูดมาจากคนจน

วรลักษณ์ ศรีใย ศูนย์ข่าว TCIJ 10 ม.ค. 2556 | อ่านแล้ว 3943 ครั้ง

 

เด็กไทย 70 เปอร์เซนต์ชินกับการพนัน

 

 

นายธนากร คมกฤส ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน ศูนย์ข้อมูลนโยบายสาธารณะเพื่อลดปัญหาการพนัน มูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์ เปิดเผยว่า จากข้อมูลของเครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน ระบุว่า เยาวชนไทยประมาณ 60 -70 เปอร์เซ็นต์ มีประสบการณ์เกี่ยวข้องกับการพนัน ซึ่งข้อมูลที่ได้สะท้อนว่าเยาวชนไทยใกล้ชิดกับการพนันจนกลายเป็นความเคยชิน จากการพูดคุยกับเด็กเรื่องการพนัน จะบอกว่าการพนันเป็นเรื่องธรรมดาว่า ใคร ๆ ก็เล่น พ่อแม่ก็ซื้อหวย มีวงไพ่ พนันบอล จะเห็นได้ว่าเด็กเข้าหาสิ่งเหล่านี้ได้ง่ายมาก

 

ผลกระทบจากการพนันนั้นมีผลไปถึงครอบครัว โดยเฉพาะประเด็นหวย เนื่องจาก 90 เปอร์เซ็นต์ของครอบครัวไทยซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือหวยใต้ดินทุกงวด ทั้งนี้จากการทำงานเรื่องการพนัน จึงพบว่า การพนันเป็นสิ่งใกล้ตัวและคนไทยคุ้นเคยกับสิ่งเหล่านี้ นอกจากนี้สังคมไทยยังมองการพนันเป็นเรื่องของการละเล่น และสันทนาการ การพนันบางชนิดเป็นมิติทางสังคม มีคุณค่าในตัวของมัน เช่น ไก่ชน ปลากัด ไปจนกระทั่งการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลอาจจะมองว่า การซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือการซื้อหวยของประชาชนเป็นการพนันชนิดอ่อน ซึ่งไม่ร้ายแรง และเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมาย หากซื้อกับรัฐบาล และเป็นกำลังใจให้กับผู้มีรายได้น้อย ที่หวังจะรวยจากสลากกินแบ่งรัฐบาล ส่วนการเล่นไพ่ เป็นการละเล่นอย่างหนึ่ง ที่ช่วยผ่อนคลายได้

 

 

 

การแก้ปัญหาการพนันคงต้องทำความเข้าใจ และวางน้ำหนักว่า จะทำให้การพนันในสังคมไทยเป็นไปในระดับไหน เช่น แบบอ่อน ยอมรับได้ จัดการได้ หรือทำให้การพนันเป็นปัญหาที่ต้องเข้าไปจัดการ และสุดท้ายคือ รุนแรงสุดต้องแก้ให้ได้ อยู่ที่ว่าสังคมไทยวางน้ำหนักการพนันไว้อย่างไร

 

สาเหตุสำคัญที่ทำให้เรื่องการพนันในสังคมไทย รุนแรงและฝังลึกมากขึ้น นายธนากรมองว่า เพราะไม่มีกระบวนการจัดการ และแก้ปัญหาอย่างเด็ดขาดที่ดีตั้งแต่ต้น ปล่อยให้ปัญหาบานปลายและยากที่จะแก้ไข  เช่น การดำเนินการกับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล รัฐบาลไม่มีนโยบายที่จะจัดการกองสลากฯอย่างชัดเจน

 

 

“ถ้ารัฐบาลยังไม่มีนโยบายการดำเนินการกับกองสลากฯ อย่างชัดเจน ในอนาคต กองสลากฯ จะเป็นผู้มีพระคุณกับสังคม จากงบประมาณที่เขาบริจาคให้กับหน่วยงาน องค์กรต่าง ๆ แต่เราไม่รู้ว่าแต่ละงวดกองสลากฯ ดูดเงินจากคนที่มีรายได้น้อย หาเช้ากินค่ำไปเท่าไหร่ รัฐได้แต่สร้างจินตนาการว่า กองสลากฯ จะได้เงินเยอะ และเงินเข้ารัฐ” นายธนากรกล่าว

 

 

จี้รัฐเคลียร์ผลประโยชน์มืดในกองสลาก

 

 

นอกจากนี้นายธนากรยังเสนอแนวทางการแก้ปัญหา เพื่อลดการเล่นการพนันในสังคมไทย อันดับแรกรัฐบาลควรจะจัดการผลประโยชน์ที่ได้จากการพนันแหล่งใหญ่ คือ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ในแต่ละงวดกองสลากขายได้ 72 ล้านฉบับ ซึ่งใน 72 ล้านฉบับที่ขายได้มีคนที่ถูกรางวัลเล็ก ๆ แต่ไม่ไปรับจำนวนมาก ซึ่งสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลไม่เคยออกมาชี้แจงว่า เงินดังกล่าวไปไหนและมีการจัดการเงินที่ได้จากการขายสลากในแต่ละงวดอย่างไร

 

 

 

 

               “เงินจำนวนมหาศาลจากการถูกรางวัลเล็ก ๆ ที่ประชาชนไม่ได้ไปรับ เงินเหล่านี้กลับสู่กองสลาก   และบางส่วนที่พิสูจน์ไม่ได้ตกไปอยู่ในมือนักการเมือง กองสลากจึงเหมือนตู้เอทีเอ็มของนักการเมือง ดังนั้นรัฐบาลต้องเร่งดำเนินการกับผลประโยชน์ของกองสลาก และไม่ควรสร้างความหวังเรื่องการรวยทางลัด จากการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลมากเกินไป”

 

 

 

รัฐบาลต้องดำเนินการให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยจำนวนเงินที่ได้จากการขายสลากฯ และนำเงินจำนวนนั้นมาสร้างสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้กับประชาชน

 

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่รัฐบาลยังไม่มีการจัดการที่ชัดเจนกับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ดังนั้นการพนันระดับใหญ่ ๆ เช่น หวยตู้ หวยบนดิน ควรจะระงับไว้ก่อน เพราะเป็นการพนันระดับใหญ่ที่จะสร้างปัญหาให้กับสังคมไทยอย่างมาก

 

 

               “หวยบนดิน ก็คือหวยใต้ดินที่แต่งตัวขึ้นมาเป็นหวยบนดิน ซึ่งจะสร้างผลกระทบกับสังคมอย่างมาก  ถ้ารัฐยังไม่สามารถจัดการให้ดีได้ ก็ยังไม่ควรยอมรับ เพราะแค่สลากกินแบ่งรัฐบาลรัฐยังไม่สามารถจัดการได้” นายธนากรกล่าว

 

 

นอกจากนี้ การพนันยังเป็นเครือข่ายธุรกิจเทาเข้มถึงดำ และเครือข่ายการพนันก้าวไปไกลถึงนอกประเทศ บางชนิดเป็นเครือข่ายระดับโลก มีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมากการจะแก้ปัญหาจึงไม่ใช่เรื่องง่าย การทำงานกับการพนันจึงเป็นเรื่องใหญ่

 

สำหรับการแก้ปัญหาพนันควรจะต้องเริ่มที่นโยบาย นั่นคือการผลักดัน พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ....ให้ออกมาบังคับใช้ ซึ่งเนื้อหาของ พ.ร.บ.การพนัน ต้องเน้นไปที่การควบคุมการพนัน ไม่ใช่เป็นการเปิดบ่อนการพนันแบบเสรี  นอกจากนี้รัฐบาลควรจะจัดการผลประโยชน์ที่ได้จากการพนันแหล่งใหญ่ คือสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

 

 

 

เปิดขุมทรัพย์ คาดรับปีละไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท

 

 

 

อย่างไรก็ตามจากการสืบค้นข้อมูลจากเว็บไซต์ ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลพบว่า นอกจากนี้ยังมีรายงานในส่วนของการจัดสรรรายได้นำส่งรัฐ โดยรายได้ทั้งหมดแบ่งเป็น เงินรางวัล 60 เปอร์เซนต์ รายได้แผ่นดิน 28 เปอร์เซนต์ ค่าใช้จ่ายในการบริหาร 12 เปอร์เซนต์ โดยนำส่งให้รัฐนำไปใช้ในการบริหารและพัฒนาประเทศ ตั้งแต่ปี 2545-2554 หรือ 10 ปี ดังนี้ ปีงบประมาณ 2545 = 5,456.17 ล้านบาท ปีงบประมาณ 2546 = 7,504.82 ล้านบาท ปีงบประมาณ 2547 = 8,872.30 ล้านบาท ปีงบประมาณ 2548 = 10,358.49 ล้านบาท ปีงบประมาณ 2549 = 11,174.31 ล้านบาท ปีงบประมาณ 2550 = 14,000.57 ล้านบาท ปีงบประมาณ 2551 = 13,899.65 ล้านบาท ปีงบประมาณ 2552 = 13,284.48 ล้านบาท ปีงบประมาณ 2553 = 14,535.16 ล้านบาท ปีงบประมาณ 2554 = 14,636.30 ล้านบาท ซึ่งเมื่อคำนวนดูแล้วคาดว่าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจะมีรายได้ปีละไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท

 

นอกจากนี้ยังมีการจัดหารายได้ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อสาธารณะและประชาชนโดยรวม เพื่อการศึกษา ศาสนา การกีฬา การแพทย์และสาธารณสุข การสังคมสงเคราะห์ ตลอดจนการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม โดยพิจารณากลั่นกรองถึงความเหมาะสมของโครงการ และได้รับความเห็นชอบจากคณะทำงานตามมติคณะรัฐมนตรี แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อขออนุมัติ จึงดำเนินการได้ โดยมอบเงินบริจาคไปแล้ว ตั้งแต่ปี 2536 เป็นต้นมา 16,050.08 บาท

 

 

 

ทุ่มบริจาค 10 ปีกว่า 1,800 ล้านบาท

 

 

 

ในส่วนของเงินบริจาคแต่ละปี ที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล บริจาคให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งมีการรวบรวมมาตั้งแต่ปี 2545-2554 มีทั้งหมด 6 ส่วนคือ ทูลเกล้าฯ ถวายในวโรกาสต่าง ๆ , การศึกษาและกีฬา, การแพทย์และการสาธารณสุข, ศาสนา สังคมสงเคราะห์และอื่น ๆ, ศิลปวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม

 

โดยปี 2545 รวมบริจาค 134,395,792.01 บาท ปี 2546 บริจาค 150,601,747.46 ปี 2547 บริจาค 114,037,297.75 บาท ปี 2548 บริจาค 106,505,319.91 ปี 2549 บริจาค 118,999,610.00 บาท ปี 2550 บริจาค 121,448,937.00 บาท ปี 2551 บริจาครวม 107,462,573.00 บาท ปี 2552 บริจาค 166,419,354.06 ปี 2553 บริจาค 373,595,142.37 ปี 2554 บริจาค 490,010,928.50 บาท รวมเงินบริจาคในรอบ 10 ปี เป็นเงิน 1,883,476,702.06 บาท

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: