บ่อนอกวอนอัยการ-ฎีกา วิพากษ์อุทธรณ์คดีเจริญ

ทีมข่าวศูนย์ข่าว TCIJ 10 พ.ค. 2556 | อ่านแล้ว 1472 ครั้ง

 

วันที่ 9 พฤษภาคม ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก ชาวบ้านกลุ่มรักท้องถิ่นบ่อนอก จ.ประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 50  คน นำโดย น.ส.กรณ์อุมา พงษ์น้อย ประธานกลุ่มฯ เข้ายื่นหนังสือต่ออัยการสูงสุด เกี่ยวกับคดีจ้างวานฆ่านายเจริญ วัดอักษร อดีตประธานกลุ่มรักท้องถิ่นบ่อนอก ผู้นำคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าบ่อนอก ของบริษัท กัลฟ์เพาเวอร์เจอเนอเรชั่น จำกัด ที่ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต เมื่อวันที่ 21มิถุนายน 2547

 

คดีดังกล่าวอัยการคดีพิเศษ ได้ส่งฟ้องจำเลยรวมทั้งสิ้น 5 ราย (จำเลยที่ 1-2 เป็นมือปืน และจำเลยที่ 3-5 เป็นผู้จ้างวาน) และศาลอาญาได้พิพากษาเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2551 ให้ประหารชีวิตจำเลยที่ 3 (นายธนู หินแก้ว) และยกฟ้องจำเลยที่ 4-5 ส่วนจำเลยที่ 1 และ 2 ซึ่งรับสารภาพว่า เป็นผู้ยิงนายเจริญ วัดอักษร จนเสียชีวิต และซัดทอดจำเลยที่ 3-5 เป็นผู้ใช้จ้างวานนั้น ล้วนเสียชีวิตในระหว่างถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำเมื่อปี 2549 ทั้งสองคน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ต่อมาศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2556 ที่ผ่านมา กลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ยกฟ้องนายธนู หินแก้ว โดยวินิจฉัยว่า คำให้การในชั้นสอบสวนของมือปืนทั้งสองคน ซึ่งไม่ได้มาเบิกความต่อศาลเพราะเสียชีวิตไปก่อนนั้น ถือเป็นเพียงพยานบอกเล่าที่มีน้ำหนักน้อย จึงให้ยกฟ้องนายธนู หินแก้ว

 

จากกรณีดังกล่าว กลุ่มรักท้องถิ่นบ่อนอกและสมาคมนิติศาสตร์ธรรมศาสตร์ จึงได้จัดงานเสวนาเชิงวิชาการ เรื่อง “ชำแหละคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีสังหารเจริญ วัดอักษร” ขึ้นเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2556 โดยการเสวนาดังกล่าว ได้มีการวิเคราะห์เชิงวิชาการเกี่ยวกับข้อบกพร่องของคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีนี้ ที่ไม่เป็นไปตามข้อกฎหมาย และข้อเท็จจริงในคดี รวมทั้งไม่เป็นไปตามหลักในการเขียนคำพิพากษาที่กำหนดว่า จะต้องแสดงเหตุผลแห่งคำวินิจฉัยทั้งปวงให้ชัดเจนด้วย

 

กลุ่มรักท้องถิ่นบ่อนอกจึงได้รวบรวมข้อมูลและข้อคิดเห็น จากการเสวนาดังกล่าว เป็นแผ่นซีดีการเสวนา และเอกสารคำพิพากษาศาลฎีกาโดยย่อในคดีอื่น ๆ ที่มีลักษณะเดียวกันที่ศาลฎีกาเคยตัดสินลงโทษจำเลยโดยอาศัยคำ “พยานบอกเล่า” และ “พยานซัดทอด” มาแล้ว และนำมายื่นต่ออัยการสูงสุด เพื่อใช้ในการจัดทำคำฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีนี้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ด้านสำนักงานอัยการสูงสุด นายวินัย ดำรงค์มงคลกุล อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ และโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นตัวแทนอัยการสูงสุด ในการรับมอบข้อมูลดังกล่าว กล่าวว่า อัยการสูงสุดได้มีบัญชามาว่า ให้ดำเนินคดีนี้อย่างเป็นธรรม ซึ่งขณะนี้ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีศาลสูงได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา เพราะคดีนี้เป็นคดีสำคัญที่ประชาชนสนใจ จะต้องมีการดำเนินการพิจารณาโดยละเอียด ผมอยากเรียนให้ความมั่นใจต่อชาวบ่อนอกทุกท่านว่า สำนักงานอัยการสูงสุดให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก และจะดำเนินการอย่างรอบคอบ

 

ด้านน.ส.กรณ์อุมากล่าวว่า พวกเราชาวบ่อนอกไม่ได้มีความหวังกับกระบวนการยุติธรรมมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว จากการติดตามคดีในช่วงต้น มาจนถึงการที่มือปืนทั้งสองคนตายในคุกในเวลาห่างกันเพียง 4 เดือน แต่อย่างไรก็ตาม คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ออกมาเช่นนี้ แม้กระทั่งนักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมายยังใช้คำว่า เป็นคำพิพากษาที่บกพร่อง พวกเราจึงอยากเผยแพร่เรื่องนี้ให้สังคมได้ร่วมรับรู้ โดยคลิปวีดิโอการเสวนาชำแหละคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่เราจัดกันไปเมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา เราจะเอาขึ้นยูทูปไว้เป็นบทเรียนแก่สังคมด้วย

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: