เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่หน้าศาลากลางจังหวัดกระบี่ ชาวบ้านตำบลปกาสัย อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ กว่า 500 คน นำโดย นายสมนึก กรดเสือ แกนนำชาวบ้าน พร้อมด้วยผู้นำในพื้นที่ เดินทางมารวมตัวกันที่สนามหน้าศาลากลาง พร้อมตั้งเครื่องขยายเสียง ส่วนชาวบ้านสวมใส่เสื้อสีเขียว และมีการนำป้ายเขียนข้อความต่างๆ เช่น ไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน ถ่านหินนำความหายนะ เป็นต้น ขณะที่แกนนำผลัดกันขึ้นกล่าวปราศรัยถึงผลกระทบที่จะตามมาหากมีโรงไฟฟ้าถ่านหิน ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่จะมีการก่อสร้างในพื้นที่ โดยนำถ่านหินมาเป็นเชื้อเพลิงและมีการขนถ่ายจากต่างประเทศ ซึ่งนอกจากควันการการเผาไหม้จะส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของชาวบ้านแล้ว การขนส่งถ่านหินยังส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเลด้วย

จากนั้นนายสมาน แสงสะอาด รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เดินลงมารับหนังสือร้องเรียน ทั้งนี้ในหนังสือร้องเรียนระบุว่า การที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จะทำการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินลิกไนต์ที่ ต.คลองขนาน อ.เหนือคลอง ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำมันเตาที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ขนาดกำลังการผลิต 800 เมกกะวัตต์ จะส่งผลกระทบต่อชาวบ้านอย่างมาก เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมา ได้มีการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินมาแล้วเมื่อปี 2507 ถึงปี 2538

ซึ่งชาวบ้านกระทบมาต่อเนื่อง เป็นโรคต่าง ๆ ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นโรงไฟฟ้าน้ำมันเตา มีกำลังการผลิต 300 เมกกะวัตต์ ทำให้ผลกระทบลดลง แต่ขณะนี้จะกลับมาใช้พลังงานถ่านหินอีก ทำให้ชาวบ้านรับไม่ได้ เพราะจะกระทบหนักเช่นเดิม ประกอบกับขณะนี้ทางการไฟฟ้า อยู่ในขั้นตอนของการทำประชาพิจารณ์ รับฟังความคิดเห็นจึงได้รวมตัวกันประท้วง

นอกจากนั้นในหนังสือยังระบุว่า การสร้างโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ จะกระทบต่อวิถีชีวิต และสุขภาพของประชาชน เห็นว่าควรที่จะมีการสร้างโรงไฟฟ้าขนาดเล็กกระจายไปตามพื้นที่ต่าง ๆ และควรใช้พลังงานอื่นเช่น ลม แสงอาทิตย์ หรือน้ำมันปาล์ม ซึ่งน้ำมันปาล์มนั้นหากนำมาผลิตไฟฟ้าก็จะส่งผลดีต่อชาวบ้านที่ปลูกปาล์มน้ำมัน ผลผลกระทบที่ตามมาก็น้อย และขณะนี้ในต่างประเทศก็มีการดำเนินการแล้ว จึงขอให้ยุติการสร้างโรงไฟฟ้าดังกล่าว

ขอบคุณภาพจาก ผู้จัดการภาคใต้