เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับนายธานินทร์ อังสุวรังสี ผู้จัดการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) หรือ ไอแบงก์ พร้อมทีมผู้บริหารของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ว่า ทีมบริหารของไอแบงก์ได้ชี้แจงแผนฟื้นฟูกิจการของธนาคาร โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาหนี้เสีย (เอ็นพีแอล) ที่เพิ่มขึ้น จนทำให้กองทุนติดลบในระดับสูง จากสิ้นปี 2555 ที่มีหนี้เสียในระดับ 2.4 หมื่นล้านบาท และเพิ่มขึ้นในระยะเดือนกว่าที่ผ่านมา
ทั้งนี้จากแผนที่เสนอในการลดตัวเลขหนี้ ถือเป็นแนวทางที่มีความเป็นไปได้ แต่เพื่อให้แผนการดำเนินงานมีประสิทธิภาพ ทาง สศค.และสคร.จะส่งทีมเข้าไปติดตามความคืบหน้าของแผนเป็นรายวัน และเปิดทางให้ผู้บริหารของไอแบงก์ ที่เป็นคนนอกและเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งไม่นาน สามารถจ้างทีมที่ปรึกษาจากภายนอกให้เข้ามาช่วยงานติดตามหนี้ หรือปรับโครงสร้างหนี้ได้ด้วย ซึ่งอาจจะจ้างเป็นรายปีไป โดยกระทรวงการคลังให้เวลาไอแบงก์ ดำเนินการฟื้นฟูฐานะภายใน 6 เดือน หลังจากนั้นจะมาพิจารณาอีกครั้งหนึ่งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
“ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ก่อนจะเพิ่มทุน สศค.และ สคร.จะเข้าไปช่วยเหลือและติดตามเป็นรายวัน หากสามารถปรับโครงสร้างหนี้ หรือแก้ไขหนี้เสียได้บางส่วนภายใน 6 เดือน การเพิ่มทุนก็จะใช้เงินน้อยลง หากต้องเพิ่มทุนตอนนี้ก็ต้องใช้เงินจำนวนมาก ระหว่างนี้สิ่งสำคัญจึงอยู่ที่การเตรียมพร้อมด้านบุคลากร จึงเปิดทางให้ผู้บริหารสามารถจ้างทีมเข้ามาช่วยงานได้ จะได้ไม่ต้องกลัวว่าจะมีคนแทงข้างหลัง” นายสมชัย กล่าว
นายสมชัยกล่าวอีกว่า สศค.ได้สอบถามถึงสถานการณ์การแห่ถอนเงินฝาก ซึ่งผู้บริหารได้ชี้แจงว่าไม่ได้มีเงินฝากไหลออกทุกวันอย่างที่เป็นข่าว มีเพียงบางหน่วยงานที่ถอนออกไปตามความจำเป็นต้องใช้เงินคือ ไปรษณีย์ไทยที่ถอนไป 400-500 ล้านบาท แต่ก็มีเงินฝากจากหลายหน่วยงานเข้ามาเกือบพันล้านบาทเข้ามาแทนที่ สถานการณ์ขณะนี้จึงยังเป็นปกติ และธนาคารไม่ได้มีปัญหาสภาพคล่องแต่อย่างใด
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ