ชงแก้ม.190ถ่วงดุลรัฐบาล เปิดสัมปทานกับต่างชาติ

12 ก.ย. 2556 | อ่านแล้ว 1315 ครั้ง

เมื่อวันที่ 11 กันยายน ที่ผ่านมา นายคณิต ณ นคร ประธานกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) ลงนามในหนังสือบันทึกความเห็นและข้อเสนอแนะคปก.เรื่อง ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่..) พุทธศักราช .... (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 190) เสนอต่อนายกรัฐมนตรี ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล  

จากการพิจารณาศึกษาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พุทธศักราช .... (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 190) ทั้งจากสำรวจ ศึกษา และวิเคราะห์ทางวิชาการ ประกอบกับการรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว คปก.มีความเห็นและข้อเสนอแนะว่าการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา190 ควรคำนึงถึงเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในกระบวนการทำหนังสือสัญญากับนานาประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ

คปก.เห็นว่ามาตรา 190 มีเจตนารมณ์ที่จะสร้างความโปร่งใส และสร้างดุลยภาพระหว่างการใช้อำนาจของฝ่ายบริหาร ในการทำหนังสือสัญญาระหว่างประเทศ กับการมีส่วนร่วมของฝ่ายนิติบัญญัติ และประชาชนผู้มีส่วนได้เสีย มีหลักการแก้ไขเยียวยาผู้ที่ได้รับความเสียหายอย่างเหมาะสมในเวลาอันควร ตลอดจนเพิ่มพูนข้อมูลและอำนาจการต่อรองให้แก่คณะผู้เจรจา ในการเจรจาต่อรองระหว่างประเทศ ซึ่งถือเป็นหลักการสำคัญของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับปัจจุบัน  ดังนั้นการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตราดังกล่าว จึงควรคำนึงถึงเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ที่เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วม ในกระบวนการทำหนังสือสัญญากับนานาประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศด้วย

หากพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พุทธศักราช.... (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 190) ที่คณะกรรมาธิการฯพิจารณาแล้วเสร็จ ได้เพิ่มเติมประเภทหนังสือสัญญาที่มีบทเปิดเสรีด้านการค้าการลงทุน ซึ่งยังไม่ครอบคลุมเพียงพอกับการเปลี่ยนแปลงหนังสือสัญญาระหว่างประเทศ แม้ว่าปัจจุบันจะมีแนวโน้มการทำสนธิสัญญา เพื่อเปิดเสรีด้านการค้าการลงทุนเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันโลกยุคปัจจุบันมีการแย่งชิงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างกว้างขว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านพลังงาน ดังนั้นเมื่อมีการทำหนังสือสัญญาระหว่างประเทศ ที่มีบทเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมในด้านต่าง ๆ เช่น พลังงานปิโตรเลียม ก๊าซธรรมชาติ หรือทรัพยากรน้ำ เป็นต้น อาจจำเป็นต้องให้ฝ่ายนิติบัญญัติในฐานะผู้แทนของปวงชน ได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ เพราะเป็นการกระทำที่มีผลกระทบต่อประเทศชาติโดยส่วนรวม เพราะทรัพยากรธรรมชาติต่าง ๆ เป็นสิ่งที่ใช้แล้วหมดไป

นอกจากนี้ในปัจจุบันยังมีแนวโน้มที่ฝ่ายบริหารไปทำหนังสือสัญญาที่มีผลผูกพันและผลกระทบต่อการเงินการคลังของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าการกระทำดังกล่าวจะเป็นการใช้อำนาจของคณะรัฐมนตรีในฐานะฝ่ายบริหาร แต่เมื่อการทำหนังสือสัญญากู้เงิน เช่น การทำหนังสือสัญญากู้เงินจากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก การใช้คืนเงินกู้ย่อมกระทบต่อระบบงบประมาณของประเทศ และส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งทางตรงและทางอ้อม คปก.เห็นว่า มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ฝ่ายนิติบัญญัติ ในฐานะผู้แทนของประชาชนต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจของฝ่ายบริหาร รวมทั้งการมีส่วนร่วมของประชาชนในเรื่องดังกล่าว

คปก.จึงเห็นว่า หากฝ่ายบริหารไปดำเนินการทำสนธิสัญญา ที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ไม่ใช่เพื่อความร่วมมือทางวิชาการหรือการทำหนังสือสัญญา ที่มีผลกระทบต่อการเงินการคลังของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ อาจจำเป็นต้องมีการตรวจสอบถ่วงดุลจากฝ่ายนิติบัญญัติในฐานะผู้แทนของปวงชนชาวไทยด้วย เพื่อความโปร่งใส รอบคอบ และเพื่อเป็นการรักษาประโยชน์ของประเทศชาติ

 

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์

www.facebook.com/tcijthai

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: