ในวาระที่การประชุมสุดยอดผู้นำญี่ปุ่น-อาเซียน (Japan-ASEAN Summit) จะมีขึ้นในปลายสัปดาห์นี้ สมาคมพัฒนาทวาย (Dawei Development Association: DDA) ขอเรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่น, หน่วยงานด้านการพัฒนา, และนักลงทุน ระงับการลงทุนในโครงการท่าเรือน้ำลึก และเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย (Dawei Special Economic Zone: DSEZ) ในแคว้นตะนาวศรี ประเทศพม่า จนกว่าจะมีการปฏิบัติตามหลักปฏิบัติสากล ทั้งนี้ จะมีการหารือกันถึงการลงทุนของญี่ปุ่น ในเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ในช่วงการประชุมสุดยอดผู้นำญี่ปุ่นและสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ ในระหว่างวันที่ 13-15 ธันวาคม 2556 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา พม่าและไทยได้เข้ามาบริหารโครงการแทนที่ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) (ITD) เนื่องจากบริษัทประสบปัญหาความล้มเหลวในการระดมทุน และการตัดสินใจเรื่องแหล่งพลังงานสำหรับเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย
นักลงทุนญี่ปุ่นต้องไม่ลงทุนในอุตสาหกรรมสกปรก ที่จะทำร้ายชุมชนท้องถิ่นและสิ่งแวดล้อม ชาวบ้านได้เคยหยิบยกประเด็นความวิตกกังวลอย่างยิ่งต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ทั้งการละเมิดสิทธิมนุษยชน ผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมที่พวกเขาพึ่งพิงอาศัย ทั้งนี้ ในวันที่ 4 มกราคม 2555 ประชาชนหลายพันคนได้รวมตัวกันต่อต้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ซึ่งนับเป็นขบวนการทางสังคมครั้งใหญ่ที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในทวาย และต่อมาโครงการดังกล่าวก็ได้ถูกยกเลิกไป
“ชุมชนท้องถิ่นไม่ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับโครงการที่เพียงพอ ชาวบ้านถูกบังคับให้ออกจากที่ดินของพวกเขาโดยไม่ได้รับค่าชดเชยที่เป็นธรรมและเท่าเทียม และพวกเขายังไม่สามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยและการประกอบอาชีพที่เหมาะสมหลังจากการถูกโยกย้าย นอกจากนี้ยังไม่มีแนวทางการแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้านที่ถูกละเมิดสิทธิในปัจจุบัน ทั้งนี้ ปัญหาทั้งหมดนี้ต้องได้รับการแก้ไขก่อนที่จะมีนักลงทุนใหม่เข้ามาลงทุน” ทาน ซิน (Thant Zin) ผู้ประสานงาน สมาคมพัฒนาทวาย (DDA) กล่าว
“ประเทศญี่ปุ่นมีแนวระเบียบปฏิบัติ (guidelines) ในการป้องกันผลกระทบด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมต่อชุมชนอันเกิดจากโครงการ และด้วยข้อกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับโครงการที่มีอยู่จนถึงบัดนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นและนักลงทุนต้องมั่นใจว่าจะปฏิบัติตามแนวระเบียบปฏิบัติ (guidelines) ดังกล่าว ก่อนที่จะมีการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายด้วย” ทาน ซิน กล่าว
บริษัท มิตซูบิชิ ประเทศญี่ปุ่น ได้เห็นชอบที่จะสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาดใหญ่อันเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ร่วมกับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และ บมจ. อิตาเลียนไทยฯ
“จนถึงปัจจุบัน รัฐบาลพม่า และบมจ.อิตาเลียนไทยฯ ยังมิได้กระทำการใดใด ในการปกป้อง สิทธิ วิถีชีวิต และสิ่งแวดล้อมของชุมชนในเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ดังนั้น นักลงทุนรายใหม่ ๆ จึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบถึงผลกระทบด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมที่จะเกิดขึ้นจากโครงการ ที่สอดคล้องตามหลักมาตรฐานสากล” ทาน ซิน กล่าว
นักลงทุนที่จะลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ต้องปฏิบัติตามหลักปฏิบัติสากล ในการปกป้องสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงการเคารพสิทธิของชนพื้นเมืองดั้งเดิมตาม ‘หลักการยินยอมที่ได้รับการบอกแจ้งล่วงหน้าและเป็นอิสระ’ (Free, Prior, Informed Consent – FPIC) ; การเปิดเผยข้อมูลในเวลาและรูปแบบที่เหมาะสม รวมถึงดำเนินการสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่นอย่างแท้จริง ทั้งในช่วงการวางแผน, การดำเนินงาน และการติดตามผลของโครงการ; ไม่กระทำการบีบบังคับหรือขมขู่ให้ชาวบ้านและชุมชนต้องโยกย้ายโดยไม่สมัครใจ หลีกเลี่ยงการโยกย้ายอย่างไม่สมัครใจหากกระทำได้ หรืออย่างน้อยที่สุดต้องฟื้นฟูมาตรฐานความเป็นอยู่และโอกาสทางรายได้ของชาวบ้านที่ถูกโยกย้าย และมีมาตรการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่นที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ
ติดตามข้อมูลข่าวสารจากแฟนเพจเฟสบุ๊คของ TCIJ
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ