เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ด่านเก็บค่าธรรมเนียม อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารร่วมกับทหารพราน และตำรวจตระเวนชายแดน ยังคุมเข้มปิดด่านอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องขึ้นไปที่บริเวณผามออีแดง ซึ่งอยู่ใกล้กับปราสาทพระวิหารของกัมพูชา มีเพียงรถของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปได้ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ได้อนุโลมอนุญาตให้ชาวบ้านจำนวนหนึ่งที่เข้าไปทำกินในบริเวณเขตอุทยานเข้าไปดูแลที่ดินทำกินของตนเองได้
ส่วนบริเวณรอบเขาพระวิหาร ทหารไทยและทหารกัมพูชายังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่ในที่ตั้งของแต่ละฝ่าย และนายทหารผู้นำหน่วยก็ได้มีการประสานงานกันตลอดเวลา เพื่อป้องกันเหตุความเข้าใจผิดไม่ให้เกิดขึ้นที่บริเวณเขาพระวิหาร ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการปะทะกันขึ้นได้ โดยทหารทั้งสองฝ่ายไม่ได้มีการเสริมกำลังทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์แต่อย่างใด
นายศักดิ์สิทธิ์ พลทรัพย์ศิริ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เปิดเผยว่า หลังจากศาลโลกอ่านคำพิพากษาคดีเขาพระวิหารแล้ว ปรากฏว่าบรรยากาศบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร คลายความตึงเครียดลงไปมาก ขณะนี้สถานการณ์บริเวณผามออีแดงก็เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ซึ่งเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่อง เที่ยวของ จ.ศรีสะเกษ จึงจะได้หารือกับฝ่ายความมั่นคงว่า หากอนุญาตให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวชมผามออีแดงจะปลอดภัยหรือไม่ ซึ่งโดยสถานการณ์ทั่วไป ตนเห็นว่ามีความปลอดภัย เนื่องจากว่ามีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนมาคอยรักษาความปลอดภัย และจะสามารถอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น ตนจึงได้กำหนดเตรียมที่จะเปิดอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวชมผามออีแดงได้ ในวันเสาร์ที่ 16 พ.ย.นี้ ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น.ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ
ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ