เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่รัฐบาลมอบหมายให้นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ดำเนินการจัดเวทีปฏิรูปเพื่อหาทางออกให้ประเทศซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 15 ธ.ค.ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ว่า หากนายกรัฐมนตรี ยังยืนกรานที่จะยึดแต่แนวทางของรัฐบาลเพียงอย่างเดียว คงไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ซึ่งเรื่องนี้กลุ่มกปปส.ก็พยายามแสวงหา และเสนอแนวทางเพื่อเป็นทางออกให้กับประเทศ และถือเป็นเรื่องดีที่นายกฯระบุว่า จะเอาอะไรก็เอาขอให้บอกมา แต่ตนก็ไม่แน่ใจว่า นายกฯจะนำไปปฏิบัติจริงหรือไม่ เพราะที่ผ่านมานายกฯเพียงแค่รับฟัง แต่ไม่ได้นำไปปฏิบัติได้จริง ดังนั้นถ้ายังยืนกรานตามที่นายกฯระบุ การปฏิรูปก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ซึ่งสิ่งที่มีการดำเนินการมาก็จะเป็นเพียงการสร้างภาพเท่านั้น หากไม่มีความจริงใจก็ไม่สามารถปฏิรูปบ้านเมืองอย่างแท้จริงได้
นายองอาจกล่าวว่า การจัดเวทีดังกล่าว คงไม่ใช่วิธีการที่ทำให้เห็นช่องทาง ในการแสวงหาวิธีการปฏิรูปประเทศ การสั่งการให้ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีไปดำเนินการ เป็นเพียงการปาหี่รอบใหม่ หลังจากที่มีการปาหี่มารอบหนึ่งแล้วในการสร้างสภาปฏิรูป แต่ไม่สำเร็จ การดำเนินการครั้งนี้เป็นเพียงคลื่นกระทบฝั่ง และเป็นการยื้อเวลาของรัฐบาล ซึ่งไม่ได้แสดงออกถึงความจริงใจในการแก้ปัญหา และเราก็ไม่รู้ว่าบทสรุปของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร ก่อให้เกิดผลที่นำไปสู่การปฏิบัติที่เป็นจริงหรือไม่ ทั้งหมดนี้จึงเป็นเหตุผลที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่เข้าร่วม เพราะไม่ต้องการเป็นตรายางประทับความชอบธรรมให้รัฐบาล
“หากมีการปล่อยให้การเลือกตั้งเดินหน้า โดยไม่มีอะไรที่เป็นรูปธรรม ก็จะเป็นการซ้ำเติมปัญหาที่มีอยู่ และจะสะสมให้เพิ่มมากขึ้น อุณหภูมิของปัญหาก็จะมีอยู่ รอวันที่จะปะทุเพิ่มขึ้นตราบใดที่รัฐบาลไม่แสดงออกถึงความจริงใจในการแก้ปัญหา ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ เราได้เสนอแนวทางการปฏิรูปมาอย่างต่อเนื่อง และปัจจุบันยังเสนออยู่ แต่ในทางตรงข้ามรัฐบาลพยายามสร้างภาพในการปฏิรูปทั้ง ๆ ที่ความจริงมีโอกาสทำได้มากกว่าภาคส่วนอื่น แต่รัฐบาลกลับไม่เอาจริงเอาจังตลอด 2 ปีที่ผ่านมา วันนี้รัฐบาลกลับจะมาพูดเรื่องปฏิรูป จึงทำให้ประชาชนแสดงออกถึงความไม่เชื่อใจ" นายองอาจกล่าว
ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ