เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2556 นายไชยธัช บุญภูพันธ์ตันติ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ และเจ้าพนักงานบังคับคดี สำนักงานบังคับคดี จังหวัดกระบี่ นำหมายบังคับคดีปิดประกาศตามร้านอาหารและรีสอร์ตในเกาะปอดะ ซึ่งหมายบังคับคดีระบุใจความสำคัญว่า ให้ นายชวน ภูเก้าล้วน ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ศรีผ่องพาณิชย์ จำกัด พร้อมบริวาร รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ประกอบด้วย อาคารที่พักอาศัย ร้านค้า ทั้งแบบตึกและแบบไม้รวม 35 หลัง และรั้วลวดหนามคอนกรีตอีก 1 รายการ ออกจากพื้นที่ภายใน 8 วัน หากไม่ดำเนินการเจ้าหน้าที่จะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดจับกุมผู้บุกรุกทั้งหมด และเข้ายึดพื้นที่พร้อมรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างให้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม 2556
นายไชธัชกล่าวว่า การปิดหมายบังคับคดีครั้งนี้ สืบเนื่องจากศาลฎีกาได้มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3ก.) ของจำเลย คือ นายชวน ภูเก้าล้วน เลขที่ 750, 757 และ 759 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ และให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกไป พร้อมให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่ดินดังกล่าว พร้อมกับให้จำเลยชดใช้ค่าฤชาธรรมเนียมให้กับโจทก์และค่าทนายความ แต่จำเลยไม่ปฏิบัติตาม จึงต้องนำเจ้าหน้าที่ลงมาปิดหมายดังกล่าว โดยอุทยานฯ จะให้เวลา 8 วัน หากยังไม่ดำเนินการทางอุทยานฯก็จะรื้อถอนเองภายในวันที่ 31 สิงหาคมนี้ โดยจำเลยจะต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด หลังจากนั้น จะตั้งเป็นที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานฯเกาะปอดะต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อปี 2528 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นโจทก์ฟ้อง นายชวน ภูเก้าล้วน ที่อ้างสิทธิครอบครองพื้นที่เกาะปอดะ พื้นที่ 71 ไร่ โดยมีการสู้คดีกันถึง 3 ศาล รวมระยะเวลากว่า 26 ปีกระทั่งวันที่ 30 ธันวาคม 2554 ศาลฎีกาได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น และให้คืนพื้นที่ให้ตกเป็นของกรมอุทยานฯ แต่เอกชนรายดังกล่าวยังทำประโยชน์ในพื้นที่ โดยเก็บค่าขึ้นเกาะกับนักท่องเที่ยวตามปกติ กระทั่งปัจจุบันอุทยานฯและสำนักงานบังคับคดีต้องลงไปปิดหมายดังกล่าว เพื่อให้จำเลยพร้อมบริวารรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่ อย่างไรก็ตามในปัจจุบัน เกาะปอดะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยววันละกว่า 1,000 คน สร้างรายได้ให้กับผู้ครอบครองปีละหลายพันล้านบาท
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ