เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการประชุมคณะกรรมการดำเนินคดีปราสาทพระวิหารฝ่ายไทย ที่มีผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ ผู้แทนจากกระทรวงกลาโหม กรมแผนที่ทหาร รวมทั้ง พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และนายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในฐานะตัวแทน (Agent) สู้คดีฝ่ายไทย หลังประชุมกว่า 2 ชั่วโมงว่า ประเด็นที่หารือคือ การติดตามพัฒนาการความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีที่กัมพูชายื่นขอตีความคำตัดสินคดีปราสาทพระวิหาร ปี 2505 ต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) และการเตรียมพร้อมของฝ่ายไทยสำหรับผลการตัดสินของศาลที่จะมีขึ้น ซึ่งไม่ว่าผลการตัดสินจะออกมาในลักษณะใด ฝ่ายไทยจะร่วมมือกับฝ่ายกัมพูชาในการปฏิบัติตามคำตัดสินของศาลโลก และที่สำคัญคือ การรักษาความสัมพันธ์ที่ดีของทั้งสองประเทศ
นายสีหศักดิ์กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าในการพิจารณาคดีของศาลโลก เมื่อดูจากตารางการทำงานของศาลโลกในขณะนี้พบว่า ศาลยังมีคดีที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาคั่งค้างอยู่จำนวนมาก ฝ่ายไทยประเมินว่า มีแนวโน้มว่าการพิจารณาคดี และการมีคำตัดสินของศาลกรณีปราสาทพระวิหารนั้น น่าจะเลื่อนออกไปเป็นหลังเดือนมกราคมปีหน้า ในส่วนการเตรียมพร้อมที่ได้หารือกันนั้น จะมีการเตรียมพร้อมทั้งด้านการทูต การเมืองระหว่างประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และการทหาร
ด้านนายวีรชัยกล่าวว่า คาดการณ์ว่า ศาลอาจจะมีคำตัดสินออกมากว้าง ๆ 4 แนวทาง ได้แก่ 1.ศาลไม่มีอำนาจพิจารณาคดี 2.ศาลมีคำพิจารณาออกมาตามที่ฝ่ายกัมพูชาขอ 3.ศาลมีคำพิจารณาออกมาตามที่ฝ่ายไทยขอ หรือ 4.ศาลมีคำพิจารณาออกมากลางๆ ซึ่งในการประชุมวันนี้ มีฝ่ายกฎหมายเข้าร่วมการประชุมโดยพร้อมเพรียง ไม่ว่าจะเป็นจากกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ ผู้แทนกรมพระธรรมนูญ ผู้แทนอัยการสูงสุด และเลขาธิการกฤษฎีกา
“การประชุมในวันนี้ไม่ได้เป็นการสรุปว่า ศาลจะมีคำตัดสินออกมาอย่างไร แต่เป็นการมาหารือว่า ศาลจะตัดสินออกมาอย่างไรได้บ้าง และที่สำคัญคือ การเตรียมพร้อมของฝ่ายไทยต่อการตัดสินของศาลตามแนวทางต่าง ๆ ที่ประเมินไว้ โดยควรจะมีกลไกตั้งขึ้นมา เพื่อให้เกิดความพร้อมในการพูดคุยกับฝ่ายกัมพูชา เพราะทั้ง 2 ฝ่ายได้มีการตกลงกันแล้วว่า ไม่ว่าศาลโลกจะมีคำตัดสินออกมาอย่างไรจะร่วมมือกัน และที่สำคัญคือ จะไม่ให้ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสอง” นายวีรชัยกล่าว
นายวีรชัยกล่าวว่า สำหรับกลไกที่ได้หารือกันไว้จะต้องมีการนำเสนอเรื่องต่าง ๆ เข้าสู่สภาความมั่นคงแห่งชาติ มีการตั้งกลไกระดับชาติของฝ่ายไทยที่จะหารือกับฝ่ายกัมพูชา นอกจากนี้ยังจะต้องมีการประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจกับประชาชน โดยก่อนหน้านี้ก็ได้มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว ส่วนสถานการณ์ในขณะนี้ไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรที่จำเป็นจะต้องเสริมกำลังทหารในพื้นที่แต่อย่างใด
นายณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร รองปลัดกระทรวงต่างประเทศ กล่าวว่า การจัดทำสื่อต่าง ๆ เพื่อเผยแพร่ให้ความรู้แก่ประชาชนและทำความเข้าใจเกี่ยวกับคดีตีความปราสาทพระวิหารได้ดำเนินการมาถึงช่วงที่ 2 แล้ว ช่วงแรกคือ ช่วงก่อนการไปให้การทางวาจา (Oral Hearing) เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ส่วนช่วงที่ 2 ได้มีการจัดสัมมนาในหลายพื้นที่ ทั้งในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ที่เกี่ยวข้องโดยตรงอย่าง จ.อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ พบว่าสื่อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือการ์ตูน หรือข้อมูลที่เผยแพร่ทางเว็บไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศได้รับผลตอบรับที่ดี และทางกระทรวงจะมีการทำสื่ออื่น ๆ ออกมาอีกทั้งคลิปวิดีโอและสารคดี โดยจะเผยแพร่ในช่วงปลายปีนี้ หรืออาจจะเป็นต้นปีหน้าซึ่งจะต้องพิจารณาตามความเหมาะสมอีกครั้งหนึ่ง
ขอบคุณข่าวจาก : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ