เผยนร.จ่ายค่าสมาคมผปค.-บริจาคอื้อ สูงสุดควักปีละแสน-เรียนพิเศษอีก8หมื่น

ชนากานต์ อาทรประชาชิต ศูนย์ข่าว TCIJ 15 พ.ย. 2556 | อ่านแล้ว 2060 ครั้ง

รายงานข่าวจากกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยงานวิจัยเรื่อง “ค่าใช้จ่ายทางการศึกษาเอกชนของนักเรียน หรือค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาที่นักเรียนและผู้ปกครองเป็นผู้รับภาระ นอกเหนือจากค่าใช้จ่ายที่รัฐบาลสนับสนุน” ของ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ระบุว่า จากการสำรวจนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ประจำปีการศึกษา 2555 ประเภทสามัญศึกษา ที่กำลังศึกษาในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) จำนวน 3,039 คน ทั่วประเทศ ด้วยวิธีการตอบแบบสอบถาม และการสัมภาษณ์เชิงโครงสร้าง ผู้ปกครอง นักเรียน และครู จำนวน 65 คน ถึงค่าใช้จ่ายตอนที่เรียนอยู่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ผลการวิจัยพบว่า ค่าใช้จ่ายทางการศึกษาของนักเรียนกลุ่มดังกล่าว ขณะที่ศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2554 แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ค่าใช้จ่ายรายวัน และค่าใช้จ่ายรายปี โดยค่าใช้จ่ายรายวัน ประกอบด้วย ค่าเดินทางไป-กลับโรงเรียน ค่าอาหาร-ค่าขนม และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ กลุ่มตัวอย่างมีค่าเดินทางไป-กลับโรงเรียนเฉลี่ยวันละ 38.87 บาท โดยมีค่าใช้จ่ายสูงสุดวันละ 300 บาท ต่ำสุดวันละ 3 บาท และกลุ่มตัวอย่าง มีค่าอาหาร-ค่าขนม เฉลี่ยวันละ 59.26 บาท โดยมีค่าใช้จ่ายสูงสุด วันละ 300 บาท ต่ำสุดวันละ 10 บาท ส่วนค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าเครื่องเขียน ค่าทำรายงาน จ่ายเงินห้อง เป็นต้น เฉลี่ยวันละ 34.39 บาท มีค่าใช้จ่ายสูงสุด วันละ 300 บาท ต่ำสุดวันละ 1 บาท

งานวิจัยระบุต่อว่า สำหรับค่าใช้จ่ายรายปี ประกอบด้วย ค่าเล่าเรียน ค่าโปรแกรมเสริมคุณภาพ ค่ากิจกรรม ค่าหนังสือ ค่าอุปกรณ์ ค่าเครื่องแบบนักเรียน ค่าที่พัก ค่าอาหารกลางวัน ค่าธรรมเนียมสมาคมผู้ปกครองและครู เงินบริจาค ค่าเรียนพิเศษ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าตรวจสุขภาพ ค่าประกันอุบัติเหตุ ค่าอินเตอร์เน็ต พบว่ากลุ่มตัวอย่างมีค่าเล่าเรียน ค่าโปรแกรมเสริมคุณภาพ ค่ากิจกรรม เฉลี่ยปีละ 8,494.92 บาท โดยมีค่าใช้จ่ายสูงสุดปีละ 60,000 บาท ต่ำสุดปีละ 100 บาท

กลุ่มตัวอย่างมีค่าหนังสือ ค่าอุปกรณ์การเรียน ค่าเครื่องแบบนักเรียนเฉลี่ยปีละ 2,743.99 บาท โดยมีค่าใช้จ่ายสูงสุดปีละ 19,000  บาท ต่ำสุดปีละ 100 บาท กลุ่มตัวอย่างมีค่าที่พัก เฉลี่ยปีละ 18,281.73 บาท โดยมีค่าใช้จ่ายสูงสุด ปีละ 60,000 บาท ต่ำสุด ปีละ 1,500 บาท และมีค่าอาหารกลางวัน เฉลี่ยปีละ 4,328.74 บาท โดยมีค่าใช้จ่ายสูงสุดปีละ 10,000 บาท ต่ำสุดปีละ 500 บาท ส่วนค่าธรรมเนียมสมาคมผู้ปกครองและครู เงินบริจาคเฉลี่ยปีละ 965.34 บาท โดยมีค่าใช้จ่ายสูงสุดปีละ 100,100 บาท ต่ำสุดปีละ 100 บาท

นอกจากนี้ ยังมีค่าเรียนพิเศษเฉลี่ยปีละ 9,479.19 บาท มีค่าใช้จ่ายสูงสุดปีละ 80,000 บาท ต่ำสุดปีละ 1,000 บาท ส่วนค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าตรวจสุขภาพ ค่าประกันอุบัติเหตุ ค่าอินเตอร์เน็ต เป็นต้น เฉลี่ยปีละ 1,820.89 บาท มีค่าใช้จ่ายสูงสุด ปีละ 10,000 บาท ต่ำสุด ปีละ 250 บาท

นอกจากนี้ งานวิจัยยังจำแนกค่าใช้จ่ายตามสถานภาพทางสังคมและเศรษฐกิจ สถานที่ตั้งครัวเรือน พบว่า ครัวเรือนที่ตั้งอยู่ในเขตเทศบาล มีค่าใช้จ่ายทางการศึกษารายวัน และค่าใช้จ่ายทางการศึกษารายปีสูงกว่าครัวเรือนที่ตั้งอยู่นอกเขตเทศบาล โดยครัวเรือนที่ตั้งอยู่ในเขตเทศบาล มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยปีละ 19,146.09 บาท ส่วนครัวเรือนที่ตั้งอยู่นอกเขตเทศบาลเฉลี่ยปีละ 11,705.21 บาท และเมื่อจำแนกตามอาชีพของผู้ปกครอง พบว่า ผู้ปกครองที่มีค่าใช้จ่ายสูง 3 อันดับแรก ได้แก่ ผู้ปกครองที่มีอาชีพเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจ มีค่าใช้จ่ายทางการศึกษารายปี สูงสุดเฉลี่ยปีละ 31,546.89 บาท รองลงมา เป็นผู้ปกครองที่มีอาชีพรับราชการ เฉลี่ยปีละ 25,440.08 บาท และอาชีพลูกจ้างเอกชน มีค่าใช้จ่ายทางการศึกษารายปี เฉลี่ยปีละ 23,555.12 บาท โดยผู้ปกครองที่มีอาชีพรับจ้างทั่วไป นักเรียนมีค่าใช้จ่ายทางการศึกษารายปีน้อยที่สุด เฉลี่ยปีละ 9,155.77 บาท

อย่างไรก็ตาม งานวิจัยดังกล่าวได้สรุปข้อเสนอที่น่าสนใจ เช่น  กระทรวงศึกษาธิการควรส่งเสริมโอกาสในการศึกษาของนักเรียน โดยเฉพาะนักเรียนกลุ่มที่มีพื้นฐานมาจากครอบครัวฐานะยากจน ผู้ปกครองมีระดับการศึกษาต่ำ ให้สามารถเข้าถึงการเรียนการสอนในระดับเดียวกันหรือใกล้เคียง กับการเรียนการสอนของโรงเรียน ซึ่งนักเรียนมาจากครอบครัวที่มีฐานะทางเศรษฐกิจ และระดับการศึกษาของครัวเรือนที่สูงกว่า โดยใช้กลไกต่าง ๆ เช่น การใช้คูปองค่าใช้จ่ายทางการศึกษา การให้การสนับสนุนทางการเงินแก่นักเรียนอย่างแปรผันตามระดับเศรษฐฐานะของครัวเรือน เพื่อเป็นการจัดสรรทรัพยากรอย่างเป็นธรรม โดยคำนึงถึงความแตกต่างของเศรษฐฐานะของครัวเรือนและนักเรียน เป็นสำคัญ

นอกจากนี้งานวิจัยยังระบุว่า ค่าใช้จ่ายทางการศึกษาที่มีผลกระทบต่อระดับผลสัมฤทธิ์ของนักเรียน คือค่าใช้จ่ายในหลักสูตรพิเศษต่าง ๆ ในโรงเรียน และการเรียนพิเศษนอกโรงเรียน ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในรายการอื่น ๆ เช่น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าหนังสือ ค่าเครื่องแบบนักเรียน ค่าอุปกรณ์การเรียน ไม่ได้มีผลกระทบต่อผลสัมฤทธิ์ที่แตกต่างกันของนักเรียน ดังนั้นรัฐบาลจึงควรจะปรับเปลี่ยนลำดับความสำคัญของนโยบายการสนับสนุนค่าใช้จ่ายทางการศึกษาต่าง ๆ อาทิ นโยบายการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยมุ่งให้ความสาคัญต่อค่าใช้จ่าย ที่จะมีผลกระทบต่อผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนสูง และโดยมุ่งเน้นไปที่นักเรียนในกลุ่มยากจนมากกว่า

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์

www.facebook.com/tcijthai

 

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: