จากกรณีการชุมนุมของชาวสวนยาง ที่บริเวณสี่แยกควนหนองหงส์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน ที่ผ่านมา เนื่องจากไม่พอใจผลการเจรจากับรัฐบาล ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 16 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมชาวสวนยาง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เดินทางมาตรึงกำลังบริเวณดังกล่าว โดยเหตุการณ์ได้เริ่มตึงเครียดขึ้นเมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งเป็นวัยรุ่นจำนวนมาก ยิงหนังสติ๊กใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุมเช่นเดียวกัน สลับกับกลุ่มวัยรุ่นก็ได้ฮือปาก้อนหินใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นระยะ ๆ ก่อนที่กลุ่มชาวบ้านจะพากันวิ่งหลบแก๊สน้ำตา ซึ่งเหตุการณ์ได้ชุลมุนวุ่นวายกันอยู่พักใหญ่ๆและมีชาวบ้านคือนายจรูญ ยศชู อายุ 40 ปี อยู่บ้านหมู่ 2 ต.บ้านตูล อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นชายสติไม่สมประกอบ ถูกตีที่ศีรษะได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากเข้าไปในพื้นที่ชุมนุมโดยไม่รู้เรื่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า การปะทะกันยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจถอยร่นเข้าสวนยางชาวบ้าน พร้อมกับมีรถยนต์ 6 ล้อ ซึ่งเป็นรถคุมขังผู้ต้องขัง และรถยนต์ 191 ถูกเผาอีกหลายคัน โดยชาวบ้านระบุว่าการเผารถเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจเผาเอง เพื่อสร้างสถานการณ์ว่า เป็นฝีมือของชาวบ้าน

อย่างไรก็ตามช่างภาพของหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ดังกล่าวไว้ได้ ขณะที่ชายคนหนึ่งแต่งกายด้วยเสื้อลายสก๊อต สวมทับด้วยชุดคล้ายชุดปราบจราจลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และสวมทับด้วยเสื้อเกราะกันกระสุน สวมกางเกงยืนสีดำ สวมหมวกกันน็อกคล้ายกับที่เจ้าหน้าที่ปราบจลาจลใช้ปฏิบัติหน้าที่ กำลังใช้ท่อนไม้ขนาดใหญ่ตีกระจกด้านหน้ารถควบคุมตัวผู้ต้องหาแตกกระจาย

นอกจากนี้ในช่วงเหตุการณ์ชุลมุนนั้น มีการใช้อาวุธปืนและเข้าทำลายทรัพย์สินโดยเป็นร้านเสริมสวยอยู่ใกล้กับแยกควนหนองหงส์ เจ้าหน้าที่ได้เข้าทุบทำลายรถจักรยานยนต์ โดยมีกระบองปราบจลาจลหักทิ้งไว้เป็นหลักฐานในที่เกิดเหตุ นอกจากนั้นยังมีการยิงปืนเข้าไปในร้านจนประตูร้านและทรัพย์สินในร้านได้รับความเสียหาย โดยสามารถเก็บหัวกระสุนไว้ได้นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 รายคือ นายสมนาม ราชรงค์ ถูกกระสุนปืนบริเวณต้นขา โดยผู้ชุมนุมได้เก็บหลักฐานเป็นปลอกกระสุนปืนไว้ได้เช่นเดียวกัน

พล.ต.ท.ยงยุทธ เจริญวาณิช ผบช.ภาค 8 เปิดเผยว่า ภายหลังจากการขอคืนพื้นที่ไม่มีเหตุการณ์ใด ๆ แต่ช่วงบ่ายกลุ่มวัยรุ่นได้รวมตัวกันโดยใช้หนังสติ๊กเป็นหลัก และมีขวดใส่น้ำมันจุดไฟ รวมทั้งน้ำกรดเข้าขว้างเจ้าหน้าที่จึงต้องสั่งถอนกำลังออกมาไม่ให้ลุกลามออกไป ส่วนอาวุธนั้นกำลังสำรวจพื้นที่ว่ามีความสูญหายเสียหายอย่างไร พร้อมทั้งย้ำว่าขอให้ใช้วิธีเจรจาเพิ่มเติมกับรัฐบาลในมาตรการการช่วยเหลือหากใช้ความรุนแรงไม่ได้เกิดผลดีกับใคร ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้เพิ่มความเข้มข้น ด้วยการตั้งด่านสกัดสิ่งของผิดกฎหมาย ที่อาจถูกส่งเข้าไปในพื้นที่ชุมนุม โดยพบว่าบางส่วนสามารถตรวจค้นสกัดอุปกรณ์เช่น ลูกแก้ว หัวน็อต ลูกเหล็กที่สามารถเอาไปใช้ยิงกับหนังสติ๊กได้จำนวนหนึ่ง ส่วนพื้นที่ชุมนุมนั้นพบว่า บนท้องฟ้ามีกลุ่มควันเป็นจำนวนมากจากเพลิงที่ลุกไหม้รถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เสียหายทั้งหมด 11 คัน และมีรถกระบะอีก 1 คัน ยังไม่ทราบว่าเป็นรถผู้ใด

ส่วนจำนวนของผู้ชุมนุมในช่วงค่ำพบว่า ผู้ชุมนุมได้ทะลักเข้าพื้นที่จำนวนมากอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนหลังจากเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ โดยเวลาประมาณ 19.00 น.มีการประเมินผู้ชุมนุมมากกว่า 3,500 คน

วันเดียวกัน ส.ส.จังหวัดนครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ออกแถลงการณ์ เรียกร้อง 4 ประการให้รัฐบาลดำเนินการคือ 1.ให้รัฐบาลโดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีมีคำสั่งให้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติการในพื้นที่ยุติการเผชิญหน้าทุกรูปแบบกับประชาชนและพี่น้องเกษตรกร เพื่อลดความตึงเครียดและความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นกับทุกฝ่าย 2.ให้รัฐบาลใช้ความพยายามทุกวิถีทางในทางสันติ เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจกับผู้เกี่ยวข้องให้สถานการณ์บริเวณที่เกิดเหตุเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว 3.ให้รัฐบาลทบทวนท่าทีและกรอบแนวทางของตนเองต่อการแก้ไขปัญหาราคายางพารา และ  4.ให้รัฐบาลยุติการใช้กลไกของตนเองในการใส่ร้ายป้ายสีการเคลื่อนไหวของพี่น้องเกษตรกรผู้เดือดร้อน โดยเฉพาะการกล่าวหาว่า มีนักการเมืองโดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์อยู่เบื้องหลัง เพราะเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง ฉวยโอกาสใส่ร้ายเพื่อหวังประโยชน์ทางการเมืองเท่านั้น

แถลงการณ์ระบุว่า รัฐบาลควรทุ่มเทเวลาไปในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนอย่างเอาจริงเอาจัง เพราะนับวันปัญหานี้จะขยายขอบเขตออกไปมากขึ้น จากราคายางพารา ปาล์มน้ำมัน ข้าวโพด ไปสู่ผลผลิตอื่น ๆ ที่ภาวะราคาผลผลิตตกต่ำรอคอยการแก้ไขเยียวยาอีกเป็นจำนวนมาก ขณะที่ประชาชนทั่วประเทศต้องรับภาระค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆจากความผิดพลาดในการบริหารและกำหนดมาตรการของรัฐบาลเอง

ต่อมาเวลา 20.00 น. นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ประกาศพื้นที่การชุมนุมเป็นพื้นที่สาธารณภัยในการชุมนุมประท้วงกับบริเวณแยกควนหนองหงส์ และบริเวณใกล้เคียงเป็นพื้นที่ทำให้เกิดสาธารณภัยและคาดว่าจะเกิดสาธารณภัย จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 22 27 และ 29 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 2550 ประกาศห้ามไม่ให้บุคคลใดที่ไม่อาศัยอยู่ในชุมชนบริเวณนั้นเข้าไปอยู่อาศัยหรือทำการใด ๆ ในพื้นที่อย่างเด็ดขาด ระหว่างวันที่ 16-17 กันยายน 2556 เวลา 12.00 น. จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

ขอบคุณภาพจาก ROON PHOTO NATION PHOTO และ Wanchai P PHOTO

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์

www.facebook.com/tcijthai