เกษตรกรบุกวงประชุม-ค้านUPOV1991 จวกรัฐเปิดช่องให้ต่างชาติฮุบเมล็ดพันธุ์

18 พ.ย. 2556 | อ่านแล้ว 1912 ครั้ง

เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ องค์กรภาคประชาชน องค์กรสาธารณประโยชน์ ตัวแทนจากสภาเกษตรกรแห่งชาติ และเอฟทีเอ ว็อทช์ ซึ่งติดตามกรณีที่สหภาพยุโรป และบริษัทยักษ์ใหญ่ร่วมกันผลักดันให้ประเทศไทยลงนามในอนุสัญญา UPOV 1991 โดยมี Mr. Martin Ekvad ประธานของ UPOV จะมาบรรยายเพื่อโน้มน้าวให้ข้าราชการกรมวิชาการเกษตรเห็นด้วยกับอนุสัญญาดังกล่าว ที่ตึกกสิกรรม กรมวิชาการเกษตร โดย เครือข่ายภาคประชาชนประมาณ 30 คน ได้รวมตัวกันยื่นหนังสือคัดค้าน เนื่องจากเห็นว่าอนุสัญญาฉบับนี้ละเมิดสิทธิเกษตรกร ละเมิดอธิปไตยของประเทศเหนือทรัพยากร และส่งเสริมให้บรรษัทเมล็ดพันธุ์ผูกขาดมากยิ่งขึ้น

ตัวแทนเกษตรกรและภาคประชาสังคมเดินทางมาถึงหน้าตึกกสิกรรม กรมวิชาการเกษตร ตั้งแต่ช่วงเช้า มีการแสดงล้อเลียน โดยมีชายคนหนึ่งสวมสูทคุกเข่ากำลังยื่นพานใส่เมล็ดพันธุ์ ส่งให้ชายอีกคนหนึ่งที่แต่งตัวเป็นโจรสลัด เบื้องหลังเป็นธงและป้ายฝ้ามีข้อความคัดค้านอนุสัญญายูปอพ 1991

กระทั่งเวลา 08.30 น. นายดำรง จิระสุทัศน์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ออกมารับหนังสือจากตัวแทนผู้คัดค้าน โดยปฏิเสธว่า ไม่รู้เห็นกับการจัดประชุมนี้ ตนไม่เอาด้วยกับอนุสัญญาฉบับนี้อยู่แล้ว ตนรักชาติเหมือนกัน และรักชาติมากกว่าอีกหลายคน ตัวแทนภาคประชาชนแย้งว่า ในหนังสือเชิญให้มาร่วมรับฟังการบรรยายนั้น มีลายมือชื่อของอธิบดีกรมวิชาการเกษตร เป็นผู้ลงนาม จึงเป็นไปไม่ได้ที่กรมวิชาการเกษตร จะจัดการประชุมเรื่องที่จะกระทบกับเกษตรกรและผลประโยชน์ของประเทศชาติ โดยอธิบดีไม่ได้รับรู้

จากนั้นเวลา 09.30 น. ซึ่งตามกำหนดการเป็นการบรรยายของประธานยูปอพ เครือข่ายเกษตรกรและภาคประชาสังคม จึงเดินทางเพื่อขอยื่นหนังสือคัดค้าน แต่ถูกขัดขวางโดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและเจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยบอกให้ประชาชนรออยู่ตรงโถงหน้าห้องประชุม โดยอ้างว่า ไม่มีการประชุมและไม่มีตัวแทนของยูปอพมาบรรยาย แต่เมื่อตัวแทนคนหนึ่งของกลุ่มผู้คัดค้านเข้าไปในห้องประชุม กลับพบว่า นาย Martin กำลังบรรยายให้ข้าราชการและผู้เข้าร่วมประมาณ 150 คน อยู่ในห้องประชุม

แม้จะถูกกีดกันไม่ให้เข้าไปในห้องประชุมโดยอ้างว่า มีเก้าอี้ไม่เพียงพอ แต่ผู้คัดค้านยืนยันว่า พร้อมจะนั่งพื้น และโต้แย้งว่าทำไมตัวแทนของบริษัทมอนซานโต้ และบริษัทเมล็ดพันธุ์ข้ามชาติ จึงได้รับโอกาสมากกว่าเกษตรกรรายย่อย เจ้าหน้าที่จึงยอมให้ตัวแทนภาคประชาชนเข้าไปในห้อง และรอเวลาที่จะยื่นหนังสือในช่วงเวลาพักรับประทานอาหารว่าง

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ก่อนถึงช่วงพักรับประทานของว่าง นายสุวิทย์ ชัยเกียรติยศ รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร และข้าราชการของกรมวิชาการเกษตร แจ้งว่า นายมาร์ตินซึ่งบรรยายอยู่นั้น ไม่ได้เป็นตัวแทนของยูปอพแต่ประการใด แต่มาจากสมาคมผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ของยุโรป จึงขอปฏิเสธที่จะให้ยื่นหนังสือ

กลุ่มประชาชนผู้คัดค้านโต้แย้งว่า กรมวิชาการเกษตรได้ปิดบังข้อมูล และให้ข้อมูลเท็จต่อภาคประชาชนมาเป็นลำดับ รวมถึงคำกล่าวอ้างนี้ด้วย เพราะมีหลักฐานชัดเจนในหนังสือเชิญประชุมของกรมวิชาการเกษตรเอง ที่ระบุตำแหน่งของมาร์ตินว่า เป็นตัวแทนของยูปอพ อีกทั้งในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของยูปอพเองก็ได้ระบุอย่างชัดเจนว่า นายมาร์ตินซึ่งเป็นตัวแทนของสหภาพยุโรป ได้รับการเลือกตั้งให้เป็นประธานของยูปอพ (chairman of the UPOV Administrative and Legal Committee) ตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม 2556 และมีวาระดำรงตำแหน่งต่อไปจนครบ 3 ปี  (โปรดดู UPOV Press Release, October 24, 2013)

ตัวแทนของภาคประชาชนจึงใช้ช่วงเวลาที่ประธานของยูปอพ บรรยายเสร็จและเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมประชุมซักถาม เดินเข้าไปยื่นหนังสือคัดค้านต่อประธานของยูปอพ

ในจดหมายที่ยื่นต่อ Martin Ekvad, Chairperson of the UPOV Administrative and Legal Committee ให้เหตุผลการคัดค้านอนุสัญญา UPOV 1991 โดยมีสาระสำคัญ 5 ประการคือ 1.ทำลายสิทธิเกษตรกรในการเก็บรักษาและแลกเปลี่ยนสายพันธุ์พืช ซึ่งเป็นสิทธิตามวิถีเกษตรกรรมของเกษตรกรรายย่อย และเป็นสิทธิได้รับการรับรองโดยรัฐธรรมนูญของไทย พ.ศ.2550 มาตรา 66 2.ทำลายกลไกการเข้าถึงและแบ่งปันผลประโยชน์ ภายใต้พ.ร.บ.คุ้มครองพันธุ์พืช พ.ศ.2542 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ร่างขึ้นโดยยึดหลักการตามอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ การแก้กฎหมายให้สอดคล้องกับ UPOV เป็นการทำลายประสิทธิภาพการคุ้มครองพันธุ์พืชพื้นเมืองของประเทศไทยอย่างร้ายแรง และเป็นการสนับสนุนโจรสลัดชีวภาพในทางอ้อม

3.มีรายงานการศึกษาเป็นจำนวนมากที่รายงานว่าการเข้าร่วม UPOV ส่งผลกระทบต่อการปรับปรุงพันธุ์ของนักปรับปรุงพันธุ์รายย่อย วิสาหกิจชุมชน และ เอื้ออำนวยให้บริษัทเมล็ดพันธุ์ยักษ์ใหญ่ผูกขาดพันธุ์พืชมากยิ่งขึ้น 4.จากการศึกษาในประเทศไทยพบว่า เกษตรกรรายย่อยต้องเสียค่าใช้จ่ายค่าเมล็ดพันธุ์เพิ่มขึ้น ใน 2-6 เท่าตัวจากระดับที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

ในท้ายจดหมายฉบับดังกล่าว ตัวแทนของภาคประชาชนระบุว่า “เราขอประกาศให้ทราบว่าเครือข่ายเกษตรกรรายย่อยในประเทศไทย องค์กรภาคประชาชน และเอฟทีเอว็อทช์จะเคลื่อนไหวคัดค้าน UPOV 1991 อย่างถึงที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลักดันให้ประเทศไทยต้องเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาดังกล่าวภายใต้การเจรจาเอฟทีเอระหว่างสหภาพยุโรปกับประเทศไทย”

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ระหว่างการยื่นหนังสือคัดค้านของภาคประชาชน นางชุติมา รัตนเสถียร ข้าราชการกรมวิชาการเกษตร ผู้เชี่ยวชาญด้านคุ้มครองพันธุ์พืช ซึ่งเป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า มีความใกล้ชิดกับยูปอฟ และเป็นหนึ่งของผู้ประสานงานให้มีการประชุมครั้งนี้ พูดด้วยเสียงอันดังว่า “กลุ่มประชาชนที่เข้ายื่นหนังสือวันนี้เป็นพวกไม่มีมารยาท และไม่ให้เกียรติกรมฯและผู้บรรยาย”

ตัวแทนภาคประชาชนไม่ได้โต้เถียงกับข้าราชการคนดังกล่าว แต่กล่าวอธิบายต่อผู้เข้าร่วมประชุมว่า

            “เรามาในฐานะตัวแทนของเครือข่ายเกษตรกร และองค์กรภาคประชาสังคม ซึ่งจะได้รับผลกระทบจากอนุสัญญาฉบับนี้ เราควรได้รับสิทธิในการแสดงความคิดเห็น เช่นเดียวกับบริษัท เมล็ดพันธุ์ยักษ์ใหญ่ที่ได้รับสิทธิดังกล่าวมาโดยตลอด เรายอมที่จะเสียมารยาทตามมาตรฐานของคนบางคน เพื่อจะปกป้องความอยู่รอดของเกษตรกรรายย่อย และทรัพยากรชีวภาพของประเทศ”

หลังจากยื่นหนังสือต่อประธานของยูปอพ ตัวแทนของเกษตรกรรายย่อยและภาคประชาสังคมได้ตระหนักร่วมกันว่า พวกเขาไม่ได้ต่อสู้กับสหภาพยุโรป และบรรษัทเมล็ดพันธุ์ยักษ์ใหญ่เท่านั้น แต่กำลังต่อสู้กับความเชื่อและทัศนคติของข้าราชการในกรมวิชาการเกษตรกลุ่มหนึ่ง ที่เชิดชูว่าอนุสัญญายูปอพของฝรั่งนั้นดีต่อประเทศไทยและนำพาเกษตรกรรมไทยไปสู่ความเจริญเหมือนในยุโรปและสหรัฐอเมริกา

พวกเขาเชื่อว่า การมีกฎหมายพันธุ์พืชที่ลิดรอนสิทธิของเกษตรกร และเอื้ออำนวยประโยชน์ให้บรรษัทเมล็ดพันธุ์มาก ๆ นั้น จะนำมาซึ่งการลงทุนและการพัฒนาสายพันธุ์พืชใหม่ ๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อภาคเกษตรกรรม พวกเขาจึงปิดหูปิดตาและไม่อยากรับฟังเสียงของเกษตรกรรายย่อย องค์กรสาธารณะประโยชน์ และนักวิชาการอิสระด้านปรับปรุงพันธุ์พืชและทรัพย์สินทางปัญญาจำนวนมาก ที่เตือนว่าการเข้าเป็นภาคีในอนุสัญญายูปอพ จะสร้างผลกระทบต่อเกษตรกร และปล่อยให้บรรษัทข้ามชาติเข้ามายึดครองทรัพยากรชีวภาพของประเทศ ดังที่ได้เกิดกระแสการลุกขึ้นมาคัดค้านการผูกขาดเมล็ดพันธุ์และระบบอาหารเกิดขึ้นในทั่วโลก รวมทั้งแม้แต่ในประเทศสหรัฐอเมริกา

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์

www.facebook.com/tcijthai

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: