เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ที่หอประชุมศรีวชิรโชต มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จ.พิษณุโลก คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย(กบอ.) ได้จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในโครงการเพื่อออกแบบและก่อสร้าง ระบบการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศ ไทยตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 3.5 แสนล้านบาท โดยมีชาวบ้านเข้าร่วมกว่า 2,000 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศบริเวณหน้าหอประชุมเป็นไปอย่างตึงเครียดตั้งแต่ช่วงเช้า โดยชาวบ้านจากลุ่มน้ำชมภูในอ.เนินมะปราง กว่า 300 คน เดินทางมาถึงตั้งแต่ก่อน 08.00 น. พร้อมนำรถเครื่องขยายเสียงขับเข้าไปถึงบันไดทางขึ้นห้องประชุม ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจราจลยังมาไม่ถึง หลังจากนั้นประมาณ 20 นาที เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจราจล 3 กองร้อย ประมาณ 500 นาย เดินทางมาถึง แต่ชาวบ้านได้ช่วยกันล้อมรถเครื่องขยายเสียงเอาไว้ เพราะเกรงว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะผลักดันให้รถเครื่องเสียงออกไป
ขณะเดียวกันสถานการณ์การเผชิญหน้าเริ่มตึงเครียดมากขึ้น เมื่อแกนนำชาวบ้านได้ประกาศให้ผู้คัดค้านเขื่อนทั้งหมด เคลื่อนขบวนเข้าหอประชุม เพื่อร่วมเวทีรับฟังความคิดเห็น แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดกั้นจึงเกิดการยื้อยุดฉุดกระชากกันหลายครั้ง ในที่สุดนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ได้เข้ามาเจรา เพื่อขอให้ชาวบ้านร่วมลงทะเบียนอย่างถูกต้อง ขณะที่ชาวบ้านถามว่า ทำไมฝ่ายผู้สนับสนุนการสร้างเขื่อนจึงสามารถเข้าไปได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ชาวบ้านยังระบุด้วยว่า ที่ผ่านมาหลายเวทีการลงทะเบียนเป็นการเสียเวลาและไม่มีความยุติธรรม ในที่สุดชาวบ้านจึงได้ตั้งเวทีปราศัยวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลและกบอ.อยู่ด้านหน้าหอประชุม โดยมีชาวบ้านที่ลงทะเบียนเป็นตัวแทนเข้าไปแสดงความคิดเห็น
นอกจากนี้บรรยากาศรอบๆ บริเวณ มีบรรดาหัวคะแนนของนักการเมืองท้องถิ่น และนักการเมืองของพรรครัฐบาล และข้าราชการจำนวนหนึ่ง ได้นำชาวบ้านมาร่วมงานจำนวนมาก โดยมีการจัดทำป้ายสนับสนุนโครงการบริหารจัดการน้ำ และป้ายให้กำลังใจนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรีและประธานกบอ. มาให้ถือด้วย นอกจากนี้ยังมีการลงชื่อเพื่อรับค่าเดินทางด้วยคนละ 400 บาท
ส่วนบรรยากาศภายในห้องประชุม เวลา 10.00 น.เป็นไปอย่างเงียบเหงา โดยมีเก้าอี้ว่างจำนวนมาก ซึ่งหลังจากรองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวเปิดงานแล้ว ได้มีการนำเสนอวีดีทัศน์ของกบอ.เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม
นายธีรเชษฐ์ โสทอง ตัวแทนชาวบ้านชมภู กล่าวว่า เหตุผลที่ชาวบ้านไม่อยากลงทะเบียน เพราะบางส่วนลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์เรียบร้อยแล้ว คิดว่าไม่มีความจำเป็นต้องลงทะเบียนซ้ำ ขณะที่บางกลุ่มมองว่า คนลุ่มน้ำชมภูล้วนได้รับผลกระทบจึงขอเข้าไปร่วมรับฟังอย่างสงบ และหากนายปลอดประสพ เข้ามาร่วมงานครั้งนี้ ก็อยากขอเวลาในการเจรจาโดยตรง จะได้ชี้แจงข้อมูลที่ชัดเจน
“การลงทะเบียนในเวทีอื่นๆ ที่ผ่านมา เราเห็นชัดว่า เจ้าหน้าที่ดำเนินการลงทะเบียนดำเนินการช้ามาก เอกสารของกบอ.ก็ไม่ครบตามข้อเท็จจริง มีการประชาสัมพันธ์ที่บิดเบือน และรัฐบาลมักจัดประชุมช่วงที่ชาวบ้านต้องทำไร่ ทำนา ขณะเดียวกันก็ไม่มีการให้เวลากับชาวบ้านอย่างเหมาะสม การลงทะเบียนเป็นแค่การเซ็นชื่อรับอาหารว่าง รับเงินแล้วใครจะไปไหนก็ได้ พวกเราจึงขอประกาศเดินหน้าเข้าพร้อมกันทุกคนที่มาร่วมคัดค้าน และตรวจสอบความโปร่งใส เพราะชาวชมภูจะไม่มีทางรับข้อมูลมั่วๆ เหมือนเวทีที่ผ่านมาเด็ดขาด พวกเราจะไม่ยอมเสียเวลากับเกมหลอกลวง หากไม่ได้เข้าโดยพร้อมเพรียงเวทีจะต้องล้มเลิก “นายธีรเชษฐ์กล่าว
ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ