เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ที่สำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล เครือข่ายปกป้องอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา-ตะรุเตา ชาวบ้านในพื้นที่กว่า 100 คน ร่วมจัดกิจกรรมเดินรณรงค์คัดค้านและตั้งโต๊ะล่ารายชื่อการเพิกถอน และเปลี่ยนแปลงสภาพอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา-ตะรุเตา จ.สตูล โดยล่ารายชื่อทั้งในพื้นที่และนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาใน จ.สตูล รวมทั้งกระจายข้อมูลเอกสาร สติกเกอร์ และเว็บไซต์ให้นักท่องเที่ยวรับทราบถึงแผนงานจัดการทรัพยากรของ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ที่จะเสนอให้บริษัทเอกชนเข้ามาเช่าพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา-ตะรุเตา เพื่อสร้างโรงแรม บ้านพักหรู และธุรกิจอื่น ๆ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวไฮโซระดับสูง รวมถึงผู้ต้องการพักผ่อนระยะยาว โดยมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นผู้รับผิดชอบ และประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการ รวมทั้งเตรียมการให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ดำเนินการเพิกถอนพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตราฯ จำนวนหนึ่ง ให้กรมเจ้าท่าใช้เป็นพื้นที่ก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกปากบารา ที่เป็นหนึ่งในโครงการภายใต้พ.ร.บ.เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาท
นายสมบูรณ์ คำแหง เครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล กล่าวว่า หลังจากที่มีข่าวว่ารัฐบาลจะจัดประชุม คณะรัฐมนตรีสัญจร ระหว่างวันที่ 28-29 พฤศจิกายนนี้ ทราบว่า ครม.อาจมีการศึกษาสภาพพื้นที่สองอุทยานแห่งชาติทั้งสองแห่งด้วย จึงอาจเป็นไปได้ว่าภาครัฐจะร่วมศึกษากรณีการก่อสร้างต่างๆ ตามแผนของนายปลอดประสพรวมอยู่ด้วย ชาวสตูลจึงต้องเร่งให้ข้อมูลแก่ประชาชน ถึงความสำคัญของอุทยานฯ ทั้งสองแห่ง
“พื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรากว่า 4,700 ไร่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ และงดงามมากทั้งในสายตาชาวไทยและชาวโลก แต่มาวันนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญกับหายนะอีกครั้ง เพียงเพราะความโลภของรัฐบาลเพื่อรองรับอุตสาหกรรมการเดินเรือ โครงการขนาดใหญ่ทั้งท่าเรือ คลังและท่อส่งน้ำมันเชื่อมระหว่างอ่าวไทย และอันดามัน เส้นทางรถไฟเพื่อการขนส่งสินค้า และนิคมอุตสาหกรรม อย่างที่เคยนำเสนอแล้วว่าจะส่งผลกระทบต่อความสวยงามของทรัพยากรชายฝั่งของอุทยานแห่งชาติ ซึ่งเป็นมรดกแห่งอาเซียนและได้รับการยอมรับในความสวยงามของปะการังอย่างมาก แต่วันนี้รัฐบาลยังเดินหน้าโครงการต่อไป เสมือนเป็นการเหยียดหยามเสียงสะท้อนของชาวบ้านในพื้นที่ ดังนั้นเพื่อให้สาธารณะรับรู้อย่างกว้างขวาง ชาวสตูลจึงเลือกเดินแจกเอกสารประชาสัมพันธ์ผลกระทบอีกครั้ง” นายสมบูรณ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากการดำเนินการดังกล่าวแล้ว ทางเครือจดหมายเปิดผนึกถึงอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เพื่อขอคัดค้านการเพิกถอนอุทยานฯ ทั้งสองแห่งด้วย เนื่องจากล่าสุดขณะนี้ทราบว่า ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้ว่าราชการจังหวัด อำเภอ ท้องถิ่น และหัวหน้าอุทยานแห่งชาติทั้งสองแห่งกำลังเตรียมพื้นที่เพื่อรองรับการเดินทางมาสำรวจพื้นที่ ของนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร และคณะรัฐมนตรี ที่จะมีการประชุม ครม.สัญจร ในวันที่ 28-29 พฤศจิกายน 2556 นี้ ที่จ.สงขลา
นอกจากนี้จากเอกสารของเครือข่ายฯ ระบุว่า พื้นที่อุทยานแห่งชาติทั้งสองแห่ง มีการศึกษาและยืนยันจากนักวิชาการทางทะเลแล้วว่าอุทยานแห่งชาติฯ มีความสวยงาม และอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก ควรค่าที่จะยกระดับให้เป็นมรดกของคนทั้งโลก ซึ่งได้มีการเสนอรายชื่อเพื่อขอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกกับองค์การยูเนสโกไว้ด้วยแล้ว เราจึงเห็นว่าการกระทำใด ๆ ที่จะเปลี่ยนสภาพของพื้นที่ดังกล่าว รัฐบาลจะต้องพิจารณาให้รอบคอบ โดยคำนึงถึงความสูญเสียต่อสภาพแวดล้อม และถือประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ จึงไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนสภาพอุทยานฯ เป็นพื้นที่ทางการลงทุนอื่น ๆ
ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ