“เรื่องการแสดงออกเพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่เรื่องการเมือง ไม่ใช่เรื่องสีไหนทั้งนั้น ไม่ว่าวันนี้พรรคไหนจะเป็นรัฐบาล และจะทำโครงการนี้คนก็ต้องลุกขึ้นมาคัดค้านทั้งนั้น เพราะเราไม่มีป่าไม้จะเสียแล้ว มันเหลือน้อยจนแทบจะเรียกได้ว่าวิกฤตจะดีกว่า แต่นักการเมืองไม่เข้าใจ”

เป็นคำตอบจากคนเดินเท้าในขบวนคัดค้าน EHIA เขื่อนแม่วงก์ ช่วงสุดท้าย วันที่ 22 กันยายน จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มุ่งหน้าไปยังหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เพื่อทำกิจกรรมร่วมกัน

นับตั้งแต่เวลา 08.40 น. ศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร นำขบวนเดินเท้าออกมามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ฝั่งถนนวิภาวดีรังสิต ขบวนเดินมาบนผิวการจราจรด้านซ้ายด้วยผู้คนหลากหลายอาชีพหลากหลายวัยมาร่วมกันประมาณ 1,000 คน ก่อนจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งมาหยุดพักที่จุดแรกบริเวณสถานีรถไฟฟ้า BTS เวลาประมาณ 10.30 น. เพื่อทำกิจกรรมสื่อสารให้กับคนกรุงเทพฯ เพื่อรับรู้ร่วมกันว่า การเดินครั้งนี้ไม่ใช่การคัดค้านเขื่อนแม่วงก์ แต่เพื่อแสดงให้เห็นว่า การทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของเขื่อนแม่วงก์ เกิดความผิดพลาด บิดเบือนอย่างไร เพื่อจะนำไปสู่การสร้างเขื่อน รวมถึงกระบวนการอันไม่โปร่งใสอีกหลายประการ

ก่อนจะเดินเท้าต่อไปตามถนนพหลโยธิน พร้อมด้วยจำนวนประชาชนที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ผ่านหน้าสวนจตุจักร สะพานควาย สถานีรถไฟฟ้าอารีย์ สนามเป้า เวลาประมาณ 12.00 น. มีประชาชนเข้าร่วมในขบวนหลายพันคน และรณรงค์ที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ก่อนจะเดินต่อไปสิ้นสุดที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ในช่วงเย็น

อย่างไรก็ตามตลอดทั้งวันที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร มูลนิธิสืบนาคะเสถียร พร้อมทั้งเครือข่ายองค์กรสิ่งแวดล้อม ร่วมกันจัดกิจกรรมตลอดช่วงบ่าย โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นการแสดงละครเสือสมิงจากกลุ่มมะขามป้อม การแสดงดนตรีจากกลุ่มเยาวชนต้นกล้าน้อย จ.นครสวรรค์ การเสวนาวิวาทะ(กำ)จากเขื่อนแม่วงก์ ดนตรีจากวงอพาร์ทเม้นท์คุณป้า เสวนา ร้อยเรื่อง การเดินทางจากป่าสู่เมืองดนตรีจากวงคาราวาน บทเพลงจากจิระนันท์ พิตรปรีชา

และเมื่อคณะเดินเท้ากว่า 10,000 คน เดินทางมาสมทบ ศศินและเครือข่ายผู้ร่วมคัดค้าน EHIA เขื่อนแม่วงก์ ร่วมกันอ่านแถลงการณ์พร้อมยื่นหนังสือต่อกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

นับเป็นการครบระยะทางที่ศศินเคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ว่า จะเดินเท้าเพื่อคัดค้าน EHIA เขื่อนแม่วงก์ 388 กิโลเมตร จากอุทยานแห่งชาติแม่วงก์มายังกรุงเทพฯ

อย่างไรก็ตามเพื่อความเข้าใจร่วมกันอีกครั้ง ศูนย์ข่าว TCIJ จึงนำข้อมูลของเครือข่ายองค์กรอนุรักษ์ด้านสิ่งแวดล้อม 25 องค์กร ซึ่งเคยจัดทำเอกสารเพื่อสื่อสารกับสังคม “ทำไม!!...ต้องค้าน เขื่อนแม่วงก์” มานำเสนอดังนี้

แม้ว่าจะมีมากมายหลายเหตุผลที่ไม่ควรสร้างเขื่อนแม่วงก์แล้ว แต่ยังสิ่งที่ประชาชนคนไทยค้างคาใจเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างต่าง ๆ เหล่านี้ เช่น ไม่เชื่อว่าการดำเนินโครงการจะมีความโปร่งใสเพียงพอ, รัฐบาลมีสิ่งใดจะรับประกันความผิดพลาด หากก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์แล้วไม่สามารถแก้ปัญหาได้จริง, เขื่อนที่มีอยู่หลายเขื่อนในพื้นที่ดังกล่าวและใกล้เคียง ไม่สามารถแก้ปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมได้เลย ทั้งที่เป็นเขื่อนขนาดใหญ่ทั้งสิ้น ฯลฯ

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์

www.facebook.com/tcijthai