นายไพฑูรย์ สินลารัตน์ ประธานคณะกรรมการคุรุสภา เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการคุรุสภา ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้เปิดสอนหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพครู หรือ ป.บัณฑิตใหม่ อีกครั้ง หลังจากที่ได้ยกเลิกการจัดการสอนไปเมื่อ พ.ศ.2553 เพราะพบว่า เกิดปัญหาสถาบันไปจัดการเรียนการสอนไม่มีคุณภาพ ทำให้เกิดปัญหาซื้อขาย ป.บัณฑิต ขณะเดียวกันยังไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด โดยรับคนที่ไม่ได้เป็นครูมาเรียน แต่ปรากฎว่า ขณะนี้มีความจำเป็นที่จะต้องเปิดหลักสูตรดังกล่าวอีกครั้ง เพื่อเปิดโอกาสให้คนที่เป็นครูประจำการ หรือครูจ้างสอน ที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 7-8 หมื่นคน แต่ยังไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูได้พัฒนาตัวเอง เพื่อให้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู
ประธานคณะกรรมการคุรุสภา กล่าวว่า ที่ประชุมได้มอบหมายให้สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา วางหลักเกณฑ์และแบบประเมินการติดตามหลักสูตรการเรียนการสอนทางด้านครุศาสตร์-ศึกษาศาสตร์ ซึ่งจะคุมตั้งแต่หลักสูตร จำนวนผู้เรียน รายชื่อผู้เรียน รายชื่อผู้สอน เป็นต้น โดยจะต้องส่งให้คณะกรรมการคุรุสภาอนุญาตก่อน ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถจัดทำหลักเกณฑ์ให้เสร็จสิ้นและเริ่มเปิดหลักสูตร ป.บัณฑิตได้อีกครั้งอย่างช้าในปีการศึกษา 2557 นี้ ทั้งนี้ สำหรับ ป.บัณฑิตที่จะเปิดใหม่นี้ จะเปิดให้เฉพาะคนที่เป็นครูอยู่แล้ว เช่น ครูอัตราจ้างในโรงเรียนต่างๆ ที่ยังไม่มีใบประกอบวิชาชีพครู ไม่รับคนทั่วไป โดยจะต้องได้รับการรับรองจากสถานศึกษาว่าได้ทำการสอนจริง ๆ
นอกจากนี้ยังหารือเรื่องการควบคุมคุณภาพการเปิดสอน ป.บัณฑิต โดยเห็นว่าที่ผ่านมาวิชาชีพครูค่อนข้างเป็นวิชาชีพที่มีความอะลุ่มอล่วย ทำให้หลายสถาบันจัดการศึกษาไม่มีคุณภาพ ดังนั้น อนาคตถ้าต้องการให้วิชาชีพครูมีคุณภาพจริงๆ ต้องดูแลเชิงคุณภาพอย่างเข้มข้น จึงมอบหมายให้สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาไปวางเกณฑ์และออกแบบการประเมินและการติดตามหลักสูตรการสอนทางด้านการศึกษาในคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ โดยต่อไปหลักสูตรที่เปิดสอนจะต้องได้รับการรับรองจากคณะกรรมการคุรุสภาก่อน จำนวนผู้เรียนจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด เป็นต้น ขณะเดียวกันหลักเกณฑ์สำหรับสถาบันที่จะเปิดสอน ป.บัณฑิต ก็ต้องเข้มข้นขึ้น โดยเฉพาะอาจารย์ผู้สอน จะต้องมีตัวตนจริงๆ จำนวนผู้สอนกับจำนวนนักศึกษาเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด และจะอนุญาตให้เปิดสอนเฉพาะในที่ตั้งเท่านั้น ไม่ให้เปิดสอนนอกสถานที่ตั้ง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการจัดการศึกษาไม่มีคุณภาพ
นายไพฑูรย์กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ มีแนวคิดที่จะปลดล็อกใบประกอบวิชาชีพครูเพื่อเปิดโอกาสให้คนที่มีความรู้ความสามารถในสาขาที่ขาดแคลน เช่น วิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ฯลฯ สามารถเป็นครูได้นั้น อาจจะเป็นความเข้าใจผิด เพราะทุกวันนี้คุรุสภาก็เปิดโอกาสให้คนที่ไม่ได้จบวิชาชีพทางการศึกษาสามารถเข้ามาเป็นครูได้อยู่แล้ว โดยมีหลักการว่า หากโรงเรียนต้องการจ้างคนที่จบสาขาเฉพาะทางที่ไม่ใช่วิชาชีพทางการศึกษามาเป็นครูก็สามารถจ้างได้ แต่ต้องขออนุญาตคุรุสภา ซึ่งก็มีเงื่อนไขว่า จะสามารถสอนได้เป็นเวลา 2 ปี โดยในระหว่างนี้ จะต้องเข้าสู่กระบวนการของคุรุสภาซึ่งมีหลายช่องทางเพื่อให้ได้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ แต่หากยังไม่ได้ ก็สามารถต่ออายุได้อีก 2 ปี อย่างไรก็ตาม เมื่อครบกำหนด 4 ปีแล้วยังไม่ได้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพอีก ก็ต้องออกจากวิชาชีพนี้ไป
“ปัจจุบันมีครูที่ยังไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพอยู่ถึง 6-7 หมื่นคน แสดงให้เห็นว่าคุรุสภาไม่ได้ปิดกั้นให้คนที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาเป็นครู เพียงแต่คุรุสภาต้องการคนที่สนใจเข้ามาเป็นครูอย่างจริงจัง เพราะฉะนั้นเรื่องการปลดล็อกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูไม่ใช่ประเด็น แต่ประเด็นที่น่าเป็นห่วง คือ คนวิชาชีพอื่นมาอาศัยวิชาชีพครูเพื่อให้ได้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูไปสมัครเพื่อเรียนต่อ เช่น คนจบสายวิทยาศาสตร์มา แต่เรียนแค่พอผ่าน จะทำงานสายวิทยาศาสตร์ ก็ไม่ได้ จึงมาเป็นครูเพื่อให้ได้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพไปใช้ประโยชน์อื่น ทั้งที่จริงแล้วไม่ได้สนใจที่จะเป็นครู ทำให้วิชาชีพครูถูกมองว่าเป็นวิชาชีพเผื่อเลือก เป็นอะไรไม่ได้ ก็มาเป็นครู" นายไพฑูรย์กล่าว
ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ