กบินทร์ปิดถนนจี้ระบายน้ำ แม่น้ำ-น้ำป่าท่วมหลายจว.

23 ก.ย. 2556 | อ่านแล้ว 1413 ครั้ง

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 23 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านในเขตเทศบาลตำบลกบินทร์บุรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี กว่า 50 คน รวมตัวกันปิดถนนสุวรรณศร ทั้งสองด้าน เรียกร้องให้น.ส.จิตรา พรหมชุติมา ผู้ว่าฯปราจีนบุรี เปิดประตูน้ำ 3 บาน คือ ประตูน้ำเพชรเอิม ต.วังตาล ซึ่งเป็นประตูน้ำหลักทางด้านใต้ของอ.กบินทร์บุรี ประตูน้ำตะกุดอ้อม ต.วังดาล และประตูน้ำบางกระพ้อใหญ่ ต.บ้านทาม เพื่อระบายน้ำออกจากเขตเทศบาลตำบลกบินทร์บุรี โดยชาวบ้านนำเก้าอี้ แท่งปูน และรถบรรทุกมาปิดกั้นบนผิวการจราจร พร้อมเรียกร้องให้ผู้ว่าฯปราจีนบุรีมาเจรจาและเปิดประตูระบายน้ำ

ชาวบ้านอ่างทองโวยชลประทานกักน้ำ

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในจ.อ่างทอง ล่าสุดเวลา 12.00 น. วันเดียวกัน ในต.โผงเผง อ.ป่าโมก ระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้บางพื้นที่น้ำท่วมถึงถนนสายป่าโมก-บางบาลแล้ว และมีระดับที่สูงจะถึงพื้นบ้านเรือนแล้ว ในส่วนของพื้นที่ อ.เมืองอ่างทอง นายเสรี คงฤทธิ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามหาราช ได้ให้เจ้าหน้าที่ชลประทานเปิดประตูระบายน้ำคลองบางแก้ว สูงขึ้นจากเดิมอีก 10 ซ.ม. เนื่องจากช่วงเช้าที่ผ่านมา ชาวบ้านในพื้นที่ต.บ้านอิฐ ต.บ้านรอ กว่า 30 คน รวมตัวกันที่บริเวณประตูระบายน้ำบางแก้ว หมู่ 10 ต.บ้านอิฐ เพราะไม่พอใจที่ชลประทานไม่เปิดประตูระบายน้ำทั้ง 3 บาน แต่เปิดเพียง 1 บาน และสูงเพียง 10 เซนติเมตร ทำให้ระดับน้ำด้านหน้าประตูคลองบางแก้ว ซึ่งเป็นคลองสาขาแม่น้ำเจ้าพระยาสูงถึง 7.72 เมตร บางส่วนทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนในพื้นที่ต.บ้านอิฐ ขณะที่ด้านหลังประตูมีระดับน้ำเพียง 3.90 เมตร โดยชาวบ้านขอให้ทางชลประทานเปิดประตูระบายน้ำเพิ่ม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน

นายเสรี คงฤทธิ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามหาราช เปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าวว่า ตนได้รายงานไปยังสำนักชลประทานที่ 10 แล้ว ซึ่งต้องดูผลกระทบที่จะเกิดขึ้นก่อน เนื่องจากบริเวณหลังประตูระบายน้ำยังมีทั้งนาข้าวที่ชาวบ้านยังไม่ได้เกี่ยวอีกจำนวนมาก รวมไปถึงต้องดูสถานการณ์น้ำในแม่น้ำป่าสัก ซึ่งคลองบางแก้วจะไหลไปรวมด้วยว่ามีปริมาณมากหรือไม่ เพราะหากระบายไปมากชาวบ้านท้ายน้ำก็จะเดือดร้อนเช่นกัน ต้องค่อย ๆ ระบายไปที่ตามผลกระทบที่เกิดขึ้น เบื้องต้นจะเปิดประตูระบายน้ำเพิ่มให้ 10 เซนติเมตร เป็น 20 เซนติเมตรเพื่อดูผลกระทบก่อน และจะดูความเหมาะสมต่อไป

ชัยนาทท่วมแล้ว 3 ตำบล

จ.ชัยนาท นายวิฑูรย์ สิรินุกุล นายอำเภอเนินขาม จ.ชัยนาท เปิดเผยว่า ภาวะน้ำท่วมที่เกิดขึ้นใน อ.เนินขาม ครอบคลุม 3 ตำบล ได้แก่ ต.กะบกเตี้ย ต.สุขเดือนห้า และ ต.เนินขาม โดยที่ ต.กะบกเตี้ย ซึ่งเป็นพื้นที่แรกที่รับน้ำ ขณะนี้ลดลงแล้ว และน้ำได้ไหลต่อไปที่ ต.สุขเดือนห้า จนถึง ต.เนินขาม ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ และที่ ต.เนินขาม พบว่าน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยบางพื้นที่สูงสุด 2 เมตร ส่งผลให้ถนนในหมู่บ้านขาดหลายสายจากกระแสน้ำที่ไหลแรง ซึ่งมีน้ำที่เข้ามาในพื้นที่จาก 2 ส่วน คือน้ำจากเขา และน้ำจากลำห้วย ทำให้ขณะนี้การเดินทางสัญจรจากภายในหมู่บ้านลำบากมาก โรงเรียนอนุบาลเนินขาม และวัดเนินขาม รวมทั้งบ้านเรือนถูกน้ำท่วมสูง 0.5-1 เมตร เบื้องต้นได้รับรายงานว่า ใน ต.เนินขาม มี 11 หมู่บ้าน หรือ 1,800 ครัวเรือน ที่ได้รับความเดือดร้อน ส่วนพื้นที่การเกษตร ทั้งนาข้าว ไร่อ้อย และมันสำปะหลัง เสียหายกว่า 3,000 ไร่

ที่จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณริมน้ำลำบริบูรณ์ หมู่บ้านหนองนาลุ่ม หมู่ 7 ต.หมื่นไวย อ.เมือง จ.นครราชสีมา มีชาวบ้านกว่า 30 คน ช่วยกันบรรจุกระสอบทราย เพื่อนำไปทำเป็นคันกั้นน้ำรอบริมน้ำลำบริบูรณ์ ซึ่งเอ่อล้นเข้ามาในหมู่บ้าน ซึ่งมีอยู่กว่า 250 หลังคาเรือน ทั้งนี้ภายหลังจากที่มวลน้ำกว่า 10 ล้านลูกบาศก์เมตร ได้ไหลมาจาก อ.สีคิ้ว อ.สูงเนิน และ อ.ขามทะเลสอ มาถึงตัว อ.เมืองนครราชสีมา ตั้งแต่เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำล้นตลิ่งสูงกว่า 60 เซนติเมตร และยังคงมีระดับน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่คอสะพานลำบริบูรณ์ 2 ท้ายหมู่บ้านหนองนาลุ่ม ได้ถูกน้ำกัดเซาะพังลงมาเป็นแนวยาวกว่า 5 เมตร ชาวบ้านที่ใช้รถยนต์ที่วิ่งข้ามสะพานต่างรู้สึกหวาดกลัวว่าสะพานจะพังลงมาด้วย

‘บุรีรัมย์’ประกาศเขตภัยพิบัติแล้ว 7 อำเภอ

นายอำนวย ทองบ่อ หัวหน้ากลุ่มงานยุทธศาสตร์และการจัดการ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวถึงสถานการณ์น้ำป่าจากเทือกเขาพนมดงรัก ทำให้น้ำท่วมฉับพลันใน 7 อำเภอ คือ อ.บ้านกรวด ละหานทราย โนนดินแดง ปะคำ ประโคนชัย พลับพลาชัย และ อ.เฉลิมพระเกียรติ ว่า ล่าสุดระดับน้ำลดลงแล้ว แต่ยังมีนาข้าวในหลายพื้นที่ที่ยังคงมีน้ำท่วมขัง อย่างไรก็ตามคาดว่าภายใน 1 - 2 วันนี้หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติม สถานการณ์ก็จะคลี่คลายและเข้าสู่สภาวะปกติ จากการสำรวจพบว่า มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้ 30 ตำบล 336 หมู่บ้าน ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกว่า 24,000 ครัวเรือน นาข้าวเสียหายกว่า 8,000 ไร่ ถนน 77 สาย ฝายชำรุด 5 แห่ง และบ่อปลาอีก 40 ไร่ ล่าสุดผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศให้ 7 อำเภอเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินจากอุทกภัยแล้ว

ลำโดมใหญ่ท่วม 3 อำเภอในจ.อุบลฯ

ส่วนที่จ.อุบลราชธานี ที่ อ.เดชอุดม ระดับน้ำลดลงทำให้รถยนต์สามารถวิ่งผ่านสาย 2182 ได้แล้ว แต่ยังมีน้ำท่วมขังบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตร และระดับน้ำที่ล้นตลิ่งจากลำน้ำลำโดมใหญ่ ยังส่งผลกระทบถึงพื้นที่ท้ายน้ำใน อ.นาเยียและอ.พิบูลมังสาหาร มีพื้นที่ถูกน้ำท่วม โดยเฉพาะสองหมู่บ้านในต.แก้งเรือง คือ บ้านหนองกระบือ และบ้านแก้งยาง ประชาชนกว่า 290 หลังคา และต.ไร่ใต้ ของอ.พิบูลมังสาหาร บ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมขัง ต้องอพยพไปอยู่ที่ศาลากลางบ้านที่น้ำยังท่วมไม่ถึง ส่วนบ้านสองชั้นหรือยกใต้ถุนสูงมีน้ำท่วมด้านล่างทั้งหมด แต่เจ้าของบ้านยังไม่ยอมอพยพออกมา เพราะเป็นห่วงทรัพย์สิน ซึ่งอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน อบต.นาเรือง นำเรือท้องแบนลอยลำคอยช่วยเหลือชาวบ้านที่ต้องการอพยพ

นายคำรบ เครือณรงค์ นายอำเภอนาเยีย กล่าวว่า พื้นที่ของอำเภอถูกน้ำท่วมรวม 3 ตำบล 35 หมู่บ้าน ประชาชนประสบภัยกว่า 1,800 ครอบครัว พื้นที่เกษตรกรรมทั้งสวนยางพาราและนาข้าว ถูกน้ำท่วมกว่า 5,000 ไร่ โดยพื้นที่ประสบภัยส่วนใหญ่ตั้งอยู่ใกล้ลำน้ำโดมใหญ่ที่ล้นตลิ่ง และมีระดับน้ำไหลท่วมสูงตั้งแต่ 3-5 เมตร โดยตำบลที่ประสบภัยหนักที่สุดคือต.นาเรือง เพราะตั้งอยู่ในที่ราบลุ่มของลำน้ำโดมใหญ่

น้ำป่าหลากวังทรายพูน-ทับคล้อ พิจิตร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จ.พิจิตร น้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ไหลลงมาท่วมพื้นที่อ.วังทรายพูน และทับคล้อ ซึ่งติดกับเทือกเขาเพชรบูรณ์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยเกือบ 100 นาย เร่งให้ความช่วยเหลือชาวบ้าน รวมถึงพันธุ์ข้าวปลูกของชาวนาในต.เขาทรายและเขาเจ็ดลูก อ.ทับคล้อ ออกมาไว้ในที่ปลอดภัย หลังน้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ก็หลากเข้าท่วมหลายหมู่บ้านของอำเภอทับคล้อ โดยเฉพาะที่บ้านวังแดง ต.เขาเจ็ดลูก อ.ทับคล้อ ซึ่งน้ำเอ่อท่วมถนนสายหลัก หมายเลข 11 หลักก.ม.ที่ 62 หน้าที่ทำการสายตรวจตำบลเขาเจ็ดลูก อ.ทับคล้อ ระยะทางยาวกว่า 500 เมตร และหลักก.ม.ที่ 72 หน้าวัดวังแดง ต.เขาทราย อ.ทับคล้อ ระยะทางยาวกว่า 500 กิโลเมตร แม้ว่าระดับน้ำในขณะนี้จะยังสูงเพียง 10 กว่าเซนติเมตร แต่น้ำก็ไหลแรง เจ้าหน้าที่ต้องคอยแจ้งให้รถเล็กลดความเร็ว พร้อมแจ้งประกาศเตือนให้รถขนาดเล็ก ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง และให้หลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น

นอกจากนี้น้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ และเทือกเขาวังทอง จ.พิษณุโลก ไหลลงมาเข้าท่วมพื้นที่ อ.วังทรายพูน และอ.เมืองพิจิตร เข้าท่วมโรงเรียนบ้านสายคำโห้ อ.เมือง จ.พิจิตร อาคารเรียนถูกน้ำท่วม 4 ห้อง ห้องสมุด และห้องน้ำของนักเรียนถูกน้ำท่วม ไม่สามารถใช้การได้ โดยนักเรียนและครู โรงเรียนบ้านสายคำโห้ หมู่ 1 ต.สายคำโห้ อ.เมือง จ.พิจิตร ต้องช่วยกันขนตำราเรียนที่อยู่ภายในห้องสมุดไปไว้ในที่สูง

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์

www.facebook.com/tcijthai

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: