องค์กรอนุรักษ์จี้รัฐเอาผิด ตร.เอี่ยวล่าสัตว์ในอุทยาน

24 ม.ค. 2556 | อ่านแล้ว 1330 ครั้ง

 

เมื่อวันที่23 มกราคม มูลนิธิสืบนาคะเ สถียร มูลนิธิโลกสีเขียว กองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF ประเทศไทย) สมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย มูลนิธิเพื่อนช้าง และเพจคนอนุรักษ์ แถลงการณ์ร่วม ถึง

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อัยการจังหวัดเพชรบุรี และอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ระบุว่า

 

จากกรณีที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และเจ้าหน้าที่ จับกุมกลุ่มพรานล่าสัตว์ 9 คน ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ซึ่งในจำนวนนี้มีนายตำรวจอาวุโสระดับพันตำรวจโท รวมอยู่ด้วยพร้อมของกลางคือ อาวุธปืน กบทูด กระจง และภาพถ่ายหลักฐาน ภาพวิดีโอ ที่กลุ่มนายพรานได้ถ่ายเอาไว้ขณะล่าสัตว์และพักค้างแรม ในเขตป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2555 ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2556 พนักงานสอบสวน สภ.แก่งกระจาน ได้นำสำนวนการสอบสวนคดีดังกล่าว มายื่นต่ออัยการจังหวัดเพชรบุรี โดยมีผู้ต้องหาทั้ง 9 คน นำโดยตำรวจคนหนึ่งในจ.ประจวบคีรีขันธ์ มาพร้อมกันที่สำนักงานอัยการจังหวัดเพชรบุรี และได้แจ้งข้อหาดังนี้

 

ร่วมกันล่าและมีสัตว์ป่าคุ้มครอง (กบทูด) ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มีอาวุธปืน-เครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และโดยไม่มีเหตุจำเป็นอันเร่งด่วน ตามสมควรแก่พฤติการณ์ นำอาวุธปืนเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต ใช้อาวุธปืนยิงสัตว์ป่าในระหว่างพระอาทิตย์ตกและพระอาทิตย์ขึ้น นำสัตว์ออกไปหรือกระทำด้วยประการใด ๆ ให้เป็นอันตรายแก่สัตว์

 

คดีดังกล่าว ทางพนักงานสอบสวนได้ส่งฟ้องผู้ต้องหาเพียง 8 คนเท่านั้น โดย พ.ต.ท.คนดังกล่าว ไม่โดนแจ้งข้อหา เนื่องจากเมื่อตรวจสอบพยานหลักฐาน ยังไม่สามารถยืนยันได้ชัดเจนว่า พ.ต.ท.คนดังกล่าวร่วมกันกระทำความผิดจริง เพราะภาพไม่มีวันที่ว่าถ่ายมาเมื่อใด อีกทั้งไม่มีภาพขณะกำลังล่าสัตว์ มีแต่ภาพนั่งกินหรือทำกิจกรรมอื่น ประกอบกับอาวุธปืนที่ยึดได้นั้น ไม่ใช่ของ พ.ต.ท.คนดังกล่าวแต่อย่างใด

 

กลุ่มองค์กรอนุรักษ์ มีความเห็นว่าการดำเนินการดังกล่าวของพนักงานสอบสวน จะสร้างบรรทัดฐานในการดำเนินคดีกับผู้ที่ล่าสัตว์ป่า ที่จะเอื้อให้เกิดการล่าสัตว์ป่ามากยิ่งขึ้น และทำให้ผู้ต้องหาในคดีล่าสัตว์ป่า อาศัยเป็นช่องโหว่ในการไม่ต้องรับผิด อีกทั้งทำให้สถาบันตำรวจเกิดความเสื่อมเสียเนื่องจากคดีนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก จึงขอเรียกร้องต่อผู้เกี่ยวข้องดังนี้

 

1.ขอให้มีการเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน เพื่อให้มีการสอบสวนหาพยานหลักฐาน ที่รัดกุมมากยิ่งขึ้น และดำเนินการตรวจสอบทางอาญาและวินัยกับพนักงานสอบสวนชุดนี้ด้วยว่ามีการดำเนินการที่เอื้อให้ผู้กระทำผิดต่อสัตว์ป่าและสิ่งแวดล้อมไม่ต้องถูกฟ้องหรือไม่

 

2.ขอให้พนักงานอัยการดำเนินการสั่งให้มีการสวบสวนเพิ่มเติม เพื่อให้มีพยานหลักฐานที่ชัดเจน เพื่อไม่ให้ยกฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 9 คน เนื่องจากพยานหลักฐานไม่ชัดเจน

 

3.ขอเรียกร้องให้มีการดำเนินคดีเรื่องนี้อย่างถึงที่สุด เพราะเป็นคดีด้านทรัพยากรธรรมชาติที่อุกอาจ เพื่อสร้างบรรทัดฐานในการบังคับใช้กฎหมายในคดีด้านสิ่งแวดล้อม และเป็นประโยชน์ต่องานอนุรักษ์สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ต่อไป

 

ขอบคุณภาพจากเดลินิวส์

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: