เมื่อวันที่ 27 กันยายน ที่กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น สมาพันธ์ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย สมาพันธ์ปลัดเทศบาลแห่งประเทศไทย และสมาคมข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประทศไทย ร่วมกับตัวแทนองค์กรเครือข่ายองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั่วประเทศประมาณ1,500 คน เดินทางมาชุมนุมขอความชัดเจนกรณีที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เรียกคืนเงินและผลประโยชน์ตอบแทน (เงินรางวัลประจำปี) การจ่ายเงินทุนการศึกษาให้กับผู้บริหารและข้าราชการประจำ การเบิกจ่ายเงินประกันสังคมให้กับพนักงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวม 12 รายการ ทำให้ข้าราชการองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศได้รับผลกระทบ
องค์กรเครือข่ายฯออกแถลงการณ์มีสาระสำคัญระบุว่า การจ่ายเงินและผลประโยชน์ตอนแทน ที่ผ่านมาได้ดำเนินการตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ตามประกาศ หลักเกณฑ์ และหนังสือคำส่งของกระทรวงถูกต้องทุกประการ กรณีที่เกิดขึ้นกระทบกับขวัญและกำลังใจในการทำงาน ทำให้ไม่มีความเชื่อมั่นในหนังสือคำสั่งของกระทรวงมหาดไทย นอกจากนี้ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทยยังไม่ลงนามในระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยรายจ่ายเกี่ยวกับเงินประโยชน์ตอบแทนอื่นเป็นกรณีพิเศษ แก่พนักงานส่วนท้องถิ่น ลูกจ้างประจำและพนักงานจ้างขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่นปีพ.ศ.2556 สมาพันธ์ฯ และองค์กรเครือข่ายฯ จึงขอเรียกร้องให้กระทรวงมหาดไทยเร่งแก้ไขปัญหาโดยเร็ว ทั้งนี้การเดินทางมาชุมนุมเป็นการมาเพื่อแสดงพลังบริสุทธิ์ เพื่อเรียกสิทธิอันพึงได้ตามกฎหมายซึ่งได้รับการรับรองโดยรัฐธรรมนูญ
ต่อมา นายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย ในฐานะที่กำกับดูแลกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น เดินทางมาพบตัวแทนเครือข่ายและเชิญมาหารือ โดยหลังจากการหารือ นายประชาเปิดเผยว่า ผลการหารือที่ประชุมเห็นตรงกัน ให้เร่งรัดออกระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการจ่ายเงินเพื่อรองรับสิทธิของพนักงานอปท.ในการที่จะได้รับเงินและผลประโยชน์ตอบแทน โดยให้เน้นความถูกต้องตามกฎหมาย และไม่มีปัญหาในการปฏิบัติ เมื่อมีระเบียบ แล้วให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดกรอบแนวทางในการตั้งงบประมาณเพื่อจ่ายเงินและผลประโยชน์ตอนแทนให้มีความถูกต้อง
ด้าน นายวัลลภ พริ่งพงศ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กล่าวว่า ประเด็นที่อปท.ต้องการความกระจ่างคือ ระยะเวลาที่ระเบียบที่จะออกจะมีผลบังคับใช้ การจัดทำร่างจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดำเนินการยกร่างให้เสร็จภายในสองสัปดาห์ โดยเมื่อได้ร่างระเบียบแล้วฯจะเสนอคณะกรรมการกฤษฏีกาเพื่อตรวจสอบ เหตุผลที่ต้องเสนอกฤษฏีกา เพื่อให้ระเบียบดังกล่าว มีผลย้อนหลังต่อการจ่ายเงินและผลประโยชน์ย้อนหลังในอดีต ซึ่งจะพยายามประสานให้การตรวจสอบแล้วเสร็จภายใน 1เดือน ทั้งนี้ เพื่อความรอบคอบในข้อกฎหมาย ส่วนที่มีความเห็นห่วงงบประมาณที่ตั้งไว้แล้วนั้น คณะกรรมการจะดูแลให้ได้รับสิทธิถูกต้องตามระเบียบที่ออกใหม่
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ