เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านจากภาคีเครือข่ายชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน 16 จังหวัดภาคใต้ ยังคงปักหลักชุมนุมที่บริเวณริมถ.เพชรเกษม โดยตั้งเวทีปราศรัยข้างโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลอนามัยบ้านศรีนคร หมู่ 7 ต.ช้างแรก อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมตัดต้นไม้ขนาดใหญ่ขวางถนนเพชรเกษม เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาผลผลิตตกต่ำ ตามแถลงการณ์ฉบับที่ 8 โดยส่งหนังสือผ่านนายสมพร ปัจฉิมเพชร นายอำเภอบางสะพานน้อย เมื่อกลางดึกวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา ส่วนบรรยากาศการชุมนุมเป็นไปด้วยความคึกคัก หลังจากมีชาวบ้านจากหลายจังหวัดในภาคใต้เดินทางมาสมทบ ทำให้การเดินทางขึ้นล่อง 14 จังหวัดภาคใต้ โดยผ่านถนนเพชรเกษม รถทุกชนิดต้องใช้เส้นทางเบี่ยงสายบางสะพาน – หนองหัดไท

อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. ปรากฎว่า เส้นทางเบี่ยงก็ต้องปิดอีกเส้น เนื่องจากมีการตัดต้นไม้ขนาดใหญ่มาขวางทางไว้ตลอดหลายช่วง และบางช่วงมีการโรยตะปูเรือใบไว้ ทำให้มีรถถูกตะปูหลายคัน จนต้องปิดเส้นทางดังกล่าว ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ผู้ที่ไม่ทราบสถานการณ์ และขับรถจะลงภาคใต้ ให้จอดรถพักข้างทางตั้งแต่บริเวณจุดพักรถเขาโพธิ์ เขาไชยราช ทับสะแก บางสะพาน ฯลฯ ส่วนขาขึ้น แนะนำให้ประชาชนแวะพักรถที่จ.ชุมพร เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดรถสะสมมากขึ้น เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมามีรถสะสมตามเส้นทางจำนวนหลายพันคัน

นายธีรพงศ์ แก้วนวล แกนนำภาคีเครือข่ายชาวสวนยาง จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จากการประเมินคาดว่า ภายในเที่ยงวันนี้อาจยังไม่มีตัวแทนรัฐบาลเดินทางมาเจรจาเพื่อยุติการชุมนุม ส่วนการยกระดับการชุมนุมยังมีอีกหลายขั้นตอน และการปิดถนนเลียบชายทะเลสายบางสะพาน–หนองหัดไท ถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่จะทำให้การจราจรใน 14 จังหวัดภาคใต้เป็นอัมพาตทันที  ทั้งนี้ยังยืนยันที่จะขอให้รัฐบาลตามแถลงการณ์ ฉบับที่ 8 โดยเฉพาะประเด็นการย้าย พล.ต.ต.ธเนษฐ สุนทรสุข ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขัน์  ออกจากพื้นที่ และขอให้รัฐบาลสั่งยุติการดำเนินคดีกับชาวบ้านที่ปิดถนน

สำหรับแถลงการณ์ของภาคีเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน 16 จังหวัดภาคใต้ มีจำนวน 6 ข้อ คือ 1.ให้รัฐบาลชดเชยราคาพืชผลการเกษตรยางพารากิโลกรัมละ 100 บาท ปาล์มน้ำมันกิโลกรัมละ 6 บาท 2.ให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาที่ดินทำกินให้กับเกษตรกรทั้ง 16 จังหวัด 3.ให้ผู้มีอำนาจลงมาพบกับเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน 16 จังหวัดภาคใต้ เพื่อตกลงกันภายในเวลา 12.00 น. วันที่ 27 ตุลาคม  4.ให้รัฐบาลย้าย พล.ต.ต.ธเนษฐ สุนทรรสุข ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ออกนอกพื้นที่ 5.หากรัฐบาลไม่ดำเนินการจะยกระดับการชุมนุม และ 6.ไม่ให้รัฐบาลเอาผิดกับผู้ชุมนุมและแกนนำเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน 16 จังหวัดภาคใต้  ทั้งนี้ แกนนำมีเป้าหมายจะเจรจากับ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี และนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รมว.คลัง

ต่อมาเวลา 17.30 น. พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ เดินทางมายังห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลทองมงคล อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อเจรจากับแกนนำภาคีเครือข่ายชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน 16 จังหวัดภาคใต้ ที่ยังปักหลักชุมนุมที่ริมถ.เพชรเกษม

กระทั่งเวลา 18.15 น. นายทศพล ขวัญรอด ประธานภาคีเครือข่ายฯ พร้อมแกนนำ 6 คน เดินทางมาถึงห้องประชุม พร้อมยื่นข้อเสนอจำนวน 5 ข้อ ให้ที่ประชุมรับทราบ โดยระบุว่า รัฐบาลไม่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาราคายางและปาล์มน้ำมัน ซึ่งแตกต่างกับการใช้งบประมาณกว่า 4 แสนล้านบาทเพื่อรับจำนำข้าวจากชาวนา อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมยังคงประชุมอย่างเคร่งเครียด นานกว่า 1 ชั่วโมง แต่ยังไม่มีข้อสรุป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ตามภายผลการเจรจา ปรากฎว่าไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากพล.ต.อ.ประชาไม่ยอมรับเงื่อนไขทั้ง 5 ของแกนนำการชุมนุม โดยให้เหตุผลว่า รัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือปัจจัยการผลิตผู้ปลูกยาง 2,520 บาทต่อไร่ ไปแล้ว ซึ่งทำให้ตัวแทนเกษตรกรไม่พอใจ และจะยังไม่มีการเปิดถนน แม้ว่าทาง พล.ต.อ.ประชา จะขอร้องทางตัวแทนก็ตาม

จากนั้นทางทีมเจรจาจึงเดินทางกลับไปรายงานผลการประชุมให้กลุ่มผู้ชุมนุม ที่บ้านธรรมรัตน์ ในคืนนี้ พร้อมร่วมหารือ เพื่อยกระดับการชุมนุมในวันที่ 28 ตุลาคมอย่างแน่นอน

ขอบคุณภาพข่าวจาก ไอเอ็นเอ็นนิวส์

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์

www.facebook.com/tcijthai