หวั่นอาเซียนกระตุ้นพนัน แนะไทยรอรับมือปัญหาอื้อ

วรลักษณ์ ศรีใย ศูนย์ข่าว TCIJ 29 ม.ค. 2556 | อ่านแล้ว 1456 ครั้ง

 

เมื่อวันที่ 28 มกราคม ดร.วิษณุ วงษ์สินศิริกุล อาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต   กล่าวในการประชุมประจำปี 2555 หัวข้อ การพนันรอบบ้าน-ล้อมเมือง ที่โรงแรมดิเอมเมอรัลด์ ว่า  สถานการณ์การพนันออนไลน์รุนแรงมากขึ้น และการกระจายอย่างเร็วมากในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา รุกเข้าสู่ชีวิตประจำวันอย่างรวดเร็ว เพียงแค่มีอินเตอร์เนตจะสามารถเล่นได้ตลอด 24 ชั่วโมง และที่สำคัญคือ เว็บไซต์การพนันจะรวมการพนันทุกอย่าง ทั้งฟุตบอล หวย หรือเกมส์กีฬาอื่น ๆ โดยเจ้าของบ่อนที่อยู่ตามชายแดน ที่อาจจะโดนปราบปรามอย่างหนัก ทำให้ลูกค้าไม่เดินทางมาเล่นจึงหันมาเปิดธุรกิจพนันบนเว็บไซต์แทน

 

ขณะที่กฎหมายที่จะควบคุมเกมส์พนันออนไลน์ คือพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ ยังมีปัญหาในเรื่องของการตีความของนักกฎหมายเอง ซึ่งนักกฎหมายบางคนบอกว่า รัฐบาลมีอำนาจที่จะบล็อกเว็บไซต์การพนันได้ ในขณะที่บางคนยืนยันว่า กฎหมายนี้ไม่มีอำนาจเนื่องจากเนื้อหาของพระราชบัญญัติการพนันระบุไว้ชัดเจนว่า กฎหมายมีอำนาจที่จะบล็อกเว็บไซต์ที่มีเนื้อหา 1.หมิ่นสถาบัน 2.ทำลายความมั่นคงของชาติ และ 3.ผิดศีลธรรม เช่น เว็บไซต์ลามก อนาจารต่าง ๆ ซึ่งเว็บไซต์การพนันไม่เข้าข่ายทั้ง 3 ลักษณะ แต่นักกฎหมายบางส่วนมองว่า การพนันเป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรม

 

 

 

            “การพนันไม่ได้ถูกตีความว่าทำลายศีลธรรมในบ้านเรา  เพราะมีการพนัน 2 ประเภทที่ถูกกฎหมายคือ การแข่งม้า และสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งถ้าตีความว่าการพนันเป็นการทำลายศีลธรรม การพนัน 2 ประเภทนี้จะต้องไม่มีอยู่ด้วย”

 

 

ทั้งนี้การที่จะบล็อกเว็บไซต์การพนัน ยังเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก เนื่องจากเซิร์ฟเวอร์ของเว็บไซต์เหล่านี้จะอยู่ในต่างประเทศ ซึ่งเป็นประเทศที่อนุญาตให้เกมส์การพนันออนไลน์เป็นเรื่องถูกกฎหมาย

 

 

             “ประเทศอังกฤษจึงให้เกมพนันออนไลน์เป็นเรื่องที่ถูกกฎหมาย เพราะสามารถควบคุมได้ง่ายกว่า และการนำปัญหาเรื่องการพนันขึ้นมาวางบนโต๊ะ จะแก้ปัญหาได้ง่ายกว่าอันนี้เป็นโมเดลของประเทศอังกฤษ”

 

 

ดร.วิษณุกล่าวต่อว่า ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยต้องพูดเรื่องการแก้ปัญหาการพนันอย่างชัดเจน บนพื้นฐานองค์ความรู้ และสิ่งที่ต้องพิจารณาคือ โครงสร้างของการพนันแต่ละชนิดแตกต่างกัน รวมถึงเหตุผลของคนเล่นการพนันแตกต่างกันด้วย และต้องยอมรับว่าไม่มีประเทศไหนจะปลอดการพนันทั้งหมด แม้แต่ในประเทศที่ยากจน เมื่อมีความต้องการระดมทุน การพนันจะถูกหยิบมาใช้เป็นเครื่องมือ

 

ทางด้าน ดร.วสันต์  ปัญญาแก้ว อาจารย์จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มองว่า ปรากฏการณ์การพนันล้อมเมือง เกิดขึ้นพร้อมกับการก้าวเข้าสู่ยุคโลกาภิวัฒน์ของสังคมไทย ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่ชีวิตผู้คนที่เปลี่ยนแปลงไป การกระจายตัวของข่าวสารผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น เคเบิ้ลทีวี สัญญาณดาวเทียม ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นพร้อมกับการพนันฟุตบอล ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น พร้อม ๆ กับการเติบโตของอุตสาหกรรมกีฬา

 

             “ผมคิดว่าผู้ที่เล่นพนันฟุตบอลไม่ได้เล่นอย่างเดียว แต่พนันฟุตบอลกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตของคนกลุ่มหนึ่ง ทั้งติดตามข่าวสาร ต้องรู้จักระบบการเล่น และถ้ามองในเชิงมานุษยวิทยามีวัฒนธรรมอะไรบางอย่างเกิดขึ้น ของกลุ่มคนที่เล่นพนันบอลด้วย”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ดร.วสันต์กล่าวต่ออีกว่า จากการทำวิจัยเรื่องการพนันฟุตบอล กลุ่มคนที่เล่นคือคนทำงาน ซึ่งน่าสนใจว่ากลุ่มคนหนุ่มสาว คนโสด จะสนใจการพนันฟุตบอลและสอดคล้องกับการใช้สื่อของคนเหล่านี้  ปรากฏการณ์พนันบอลเป็นปรากฎการณ์สมัยใหม่ที่เกี่ยวข้องกับสังคมเมือง ซึ่งมีความเกี่ยวข้องพัวพันกับเรื่องอื่นๆในสังคม เช่น การเติบโตและการแพร่กระจายของสื่อสมัยใหม่ สังคมเมืองทำให้เราเป็นปัจเจกชนสูงมาก ดังนั้นสมาชิกในสังคมจึงอาจจะมองหากิจกรรมบางอย่างที่ทำให้พวกเขามีความสัมพันธ์กัน

 

ขณะที่ ดร.รัตพงษ์  สอนสุภาพ อาจารย์มหาวิทยาลัยรังสิต ระบุว่า คงถึงเวลาที่ประเทศไทยควรจะพูดถึงการปรับตัวและการบริหารประเทศในเรื่องของปัญหาการพนัน ทั้งนี้ ดร.รัตพงษ์ ได้นำเสนอให้เห็นภาพว่า ช่วงปี 2553 ตลาดใหญ่ธุรกิจการพนันจะอยู่แถบยุโรปและอเมริกา ซึ่งยอมรับการพนันอย่างถูกกฎหมาย ดังนั้นสัดส่วน การพนันจะมากตามลำดับ อเมริกาจะมีประมาณ 49 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่ยุโรป 34 เปอร์เซ็นต์  เอเชีย 29 เปอร์เซ็นต์ ฯลฯล อย่างไรก็ตามแนวโน้มการเติบโตไหลมาที่เอเชียมากขึ้น เนื่องจากการเติบโตของเศรษฐกิจในเอเชีย ดังนั้นนักธุรกิจด้านการพนัน จึงลงทุนเพิ่มที่เอเชียมากขึ้น เช่น ในประเทศฮ่องกง สิงคโปร์

 

 

 

                   “จากตัวเลขการลงทุนที่เพิ่มมากขึ้นในเอเชีย และที่ผมได้มีโอกาสไปดูงานที่ประเทศสิงคโปร์ ทำให้ผมตั้งคำถามว่าในอนาคตไทยจะวางตัวเองอย่างไรในเรื่องของธุรกิจพนัน ถ้ารับมาจะบริหารจัดการอย่างไร หรือปิดหูปิดตา สวดมนต์อยู่แต่ในห้อง ซึ่งก็อาจจะเป็นปัญหาเหมือนกัน”

 

 

ดร.รัตพงษ์ ยังคาดการณ์ว่าภายในปี 2558 เมื่อเปิดประชาคมอาเซียน ตลาดธุรกิจการพนันในเอเชียจะเติบโตกว่าในยุโรปและอเมริกา ซึ่งสภาพแวดล้อมเช่นนี้ประเทศไทยจะอยู่และรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้อย่างไร และยังรวมไปถึงการพนันออนไลน์ที่ไม่ต้องเดินทางไปเล่นที่บ่อน ประเทศไทยจะแก้ปัญหาอย่างไร

อย่างไรก็ตาม ดร.รัตพงษ์ได้นำเสนอตัวเลขบ่อนการพนันในประเทศที่ปกครองด้วยระบอบสังคมนิยม นับถือศาสนาพุทธ และมีวัฒนธรรมคล้ายกับ กัมพูชา 1 แห่ง ฮ่องกง 2 แห่ง เกาหลีเหนือ 1 แห่ง เกาหลีใต้ 4   แห่ง ลาว 1 แห่ง มาเก๊า 33 แห่ง มาเลเซีย 4 แห่ง พม่า 4 แห่ง เนปาล 4 แห่ง ฟิลิปปินส์ 9 แห่ง สิงคโปร์ 2 แห่ง  และเวียดนาม 2 แห่ง 

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: